Volkswagen Group บริษัทแม่ของ Audi ได้ตั้งเป้าที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นกลางทางคาร์บอน และหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว คือการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล V6 TDI กำลังสูงสุด 286 แรงม้า ให้รองรับเชื้อเพลิง HVO โดยจะมีผลกับเครื่องยนต์ที่ผลิตหลังเดือนกุมภาพันธ์ 2022 เป็นต้นไป ส่วนรถยนต์รุ่นที่ใช้ขุมพลังนี้มีทั้ง A4, A5, A6, A7, A8, Q7 และ Q8
HVO หรือ Hydrotreated Vegetable Oil เป็นน้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนเข้าไป จนสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ ทั้งยังให้ค่า cetane ที่สูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปราว 30% สำหรับสารตั้งต้นเชื้อเพลิงประเภทนี้สามารถนำน้ำมันพืชใช้แล้ว รวมถึงขยะจากทั้งภาคอุตสาหกรรมอาหารหรือการเกษตร มาผลิตได้ด้วย
Audi ระบุว่าเชื้อเพลิง HVO สามารถนำมาใช้ได้เลย โดยจะผสมหรือไม่ผสมกับดีเซลก็ได้ ส่วนข้อดีคือลดคาร์บอนไดออกไซด์ลง 70 – 95% เมื่อเทียบกับดีเซลทั่วไป ทั้งยังสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ดีกว่าในเวลาที่อากาศเย็น อันเป็นผลจากการที่มีค่า cetane สูง สำหรับรถยนต์รุ่นที่รองรับเชื้อเพลิงชนิดนี้จะติดสติกเกอร์ XTL บนฝาถังเชื้อเพลิง และในเดือนมีนาคมนี้ จะมีการขยายฐานรถยนต์ที่รองรับ HVO ไปยัง Q5 และ A6 Allroad ด้วย
ที่มา: autoexpress, carscoops