Audi A4 ได้เปิดตัวรุ่น Minorchange อีกครั้ง มีให้เลือกครบถ้วนทั้งตัวถัง 4 ประตู Sedan, Station Wagon หรือที่เรียกว่า Avant และ Station Wagon ยกสูง Allroad Quattro มาพร้อมกับการปรับหน้าตา และ อุปกรณ์ในห้องโดยสาร ส่วนขุมพลังมีให้เลือกทั้งเบนซิน, ดีเซล และ Mild Hybrid
Audi A4 Minorchange ทุกรุ่นมาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED แต่ในรุ่นท็อปจะเปลี่ยนเป็น Matirx LED กระจังหน้าเปลี่ยนใหม่ให้กว้าง และเส้นสายคมขึ้น กันชนหน้าปรับใหม่ ส่วนแนวทางการตกแต่งมี 3 แบบ ประกอบด้วย Basic, Advanced และ S line สีตัวถังมีให้เลือก 12 สี รวมถึงสีใหม่กับสีเทา Terra Gray ไม่ใช่แค่เปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้า และ ด้านหลังเท่านั้น แต่เส้นข้างตัวรถก็มีการเปลี่ยนด้วยเช่นกัน กับ ประตู 4 บาน ทั้ง Shoulder Line และ Bottom Line
ห้องโดยสารของรุ่น S line สามารถเลือกการตกแต่งให้รับกับภายนอกได้ ส่วนลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามาคือ ระบบเชื่อมต่อ MMI มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการสั่งการด้วยเสียง เครื่องเสียงมากับระบบ Bang & Olufsen 3D Premium Sound System ปิดท้ายกับมาตรวัด Full HD ขนาด 12.3 นิ้ว
ขุมพลังของ Audi A4 Minorchange ระบุเพียงแค่ว่า จะมีเครื่องยนต์เทอร์โบให้เลือก 6 แบบ เริ่มต้นกับรหัส 35 TFSI เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และ ไปสุดที่รหัส S4 TDI กับเครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 กำลังสูงสุด 347 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร
ขุมพลังเหล่านี้จับคู่กับ เกียร์ธรรมดา, เกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ tiptronic 8 จังหวะ แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ส่วนระบบส่งกำลังมีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และ 4 ล้อ Quattro นอกจากนั้น ยังมีขุมพลัง mild-hybrid system (MHEV) ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าขนาด 12 โวลต์ ให้เลือกอีก 3 แบบ
ระบบความปลอดภัยของ Audi A4 Minorchange พร้อมช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้หลายรูปแบบทั้ง Tour, City และ Park ส่วนช่วงล่างเป็นแบบปรับระดับได้ โดยจะเตี้ยลง 10 และ 23 มิลลิเมตร ในรูปแบบการขับขี่ Comfort และ Sport ตามลำดับ ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านระบบ Audi drive select ที่เปลี่ยนรูปแบบได้ 5 แบบ ด้านรุ่น Allroad Quattro จะยกสูงกว่ารุ่นอื่น 35 มิลลิเมตร
Audi A4 Minorchange พร้อมเปิดรับจองที่ยุโรปในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยรุ่น Allroad Quattro จะตามมาในไตรมาสที่ 3 และทุกรุ่นจะพร้อมส่งมอบภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนั้น ยังมีรุ่นพิเศษช่วงเปิดตัวชื่อ Edition One มีพื้นฐานจากรุ่น S line ตกแต่งด้วย Black Styling Package พร้อมภายในตกแต่งตามต้องการ สงวนสิทธิ์ไว้ให้รุ่น 4 ประตู Sedan และ 5 ประตู Avant เท่านั้น
ที่มา: Audi