Audi A3 Sportback TFSI e รุ่นใหม่ เปิดตัวเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2024 โดยมาพร้อมกับขุมพลัง PHEV ที่ทั้งทรงพลังขึ้นด้วยการเปลี่ยนเครื่องยนต์จาก 1.4 เป็น 1.5 ลิตร ทั้งยังรองรับการชาร์จแบบ DC ที่ไวขึ้น และขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางที่ไกลกว่าเดิม ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐาน ทุกรุ่นติดตั้งล้อขนาด 17 นิ้ว และมีระบบแสดงผลแบบ Audi Virtual Cockpit ที่ปรับหน้าจอ MMI Display แบบใหม่ให้แสดงค่าการทำงานของขุมพลัง PHEV โดยเฉพาะ
ในรุ่น 45 TFSI e ติดตั้งชุดแต่ง S line มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยในชุดมีกระจังหน้าและสปอยเลอร์หลังทรงเฉพาะรุ่น ทั้งยังตกแต่งรอบคันด้วยสีดำรวมถึงกระจังหน้า, คิ้วกระจกหน้าต่าง, กระจกมองข้าง และกันชนหน้าหลัง โลโก้สี่ห่วงมาในสีเทา Anthracite Grey เสริมด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง – ดำ และกระจกหลังแบบกรองแสง ส่วนห้องโดยสารมีเบาะสีดำทรงสปอร์ต และตกแต่งภายในรอบคันด้วยอะลูมิเนียม
ขุมพลัง PHEV ของ Audi A3 Sportback TFSI e เป็นแบบใหม่ ผสานการทำงานของ เครื่องยนต์เบนซิน TFSI evo2 ขนาด 1.5 ลิตร ผ่านการปรับแต่งระบบระบายความร้อน พร้อมเทอร์โบใหม่ และเพิ่มอัตราส่วนกำลังอัดจาก 10.1 : 1 เป็น 11.5 : 1 พร้อมกับเพิ่มแรงดันหัวฉีดจาก 200 บาร์ เป็น 350 บาร์ ทั้งยังเคลือบผนังลูกสูบด้วย Plasma ลดแรงเสียดทาน พร้อมช่องระบายความร้อนลูกสูบ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 85 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ S Tronic แบบ DCT 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
แบตเตอรี่เป็นแบบ lithium-ion ขนาด 25.7 kWh ขนาดไล่เลี่ยกับรุ่นก่อน แต่มีความจุมากขึ้นเกือบสองเท่า ขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางสูงสุด 143 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ส่วนการชาร์จแบบ DC รองรับขนาดสูงสุด 50 kWใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% ภายในเวลา 30 นาที ส่วนการชาร์จแบบ AC รองรับขนาด 11 kW และใช้เวลาในการชาร์จราว 2 ชั่วโมงครึ่ง ด้านสมรรถนะมีให้เลือกสองระดับด้วยกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- 40 TFSI e ทั้งระบบ กำลังสูงสุด 207 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- 45 TFSI e ทั้งระบบ กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 237 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Audi A3 Sportback TFSI e มีอัตราการกระจายน้ำหนักหน้าหลังในอัตรา 55 : 45 เนื่องจากแบตติดตั้งใกล้กับเบาะหลัง ส่วนช่วงล่างรวมถึงสปริงและโช๊คอัพปรับแต่งใหม่โดยเฉพาะ พวงมาลัยพร้อมอัตราทดแปรผันยังสามารถติดตั้งเพิ่มได้ สำหรับกำหนดการสั่งซื้อสามารถทำได้เลย สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นในยุโรป โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย 44,200 ยูโร (ราว 1,590,000 บาท) ในรุ่น 40 TFSI e และ 47,700 ยูโร (ราว 1,716,000 บาท) ในรุ่น 45 TFSI e
ที่มา: Audi