ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายพากันลงมาเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก ทำให้ทางเลือกที่มีอยู่แล้วหลายรุ่น ในตลาดระดับนี้จะเพิ่มจำนวนอีกในอนาคต จนนักวิจัยมีข้อสงสัยว่ารถยนต์ราคาไฟฟ้ากลุ่มดังกล่าว จะสามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทจริงหรือไม่ซึ่ง Garrett Nelson นักวิเคราะห์หุ้นจากสถาบัน CFRA Research ไม่คิดเช่นนั้น โดยเขามองว่ารถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกจะยิ่งทำให้บริษัทสูญเสียผลกำไร

Nelson แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่าราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ออกขายในสหรัฐฯ โดยมีค่าตัวต่ำกว่า 25,000 USD (ราว 881,000 บาท) ก่อนได้รับส่วนลดของรัฐ แทบจะก่อให้เกิดผลกำไรไม่ได้เลย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อได้พุ่งสูงขึ้นมากหลังการระบาดของ COVID โดยเขาไม่ใช่นักวิเคราะห์ทางการเงินเพียงคนเดียว ที่มีความเห็นเช่นนี้

 

Dan Ives นักวิเคราะห์หุ้นอีกรายจาก Wedbush Securities ที่แสดงความเห็นว่า เมื่อมีการทำผลิตภัณฑ์ออกขายในราคาที่ไปถึงจุดที่กระตุ้นคนซื้อ นั่นจะช่วยขับเคลื่อนยอดขายแบบ mass market ได้ และจะสามารถเข้าถึงกลุ่มตลาดลูกค้าที่ยังไม่ได้ครองครองรถยนต์ไฟฟ้า แต่ท้ายที่สุดแล้ว จะมาถึงจุดที่ทั้งราคาและเทคโนโลยีต้องสอดคล้องกันในมุมของผู้บริโภค ซึ่งในจุดนั้นแค่สินค้ามีราคาถูกอย่างเดียว ก็ไม่สามารถสร้างยอดขายได้

กลับมายังกรณีศึกษาของ Tesla ที่ยังสามารถทำกำไรจากรุ่นเริ่มต้นอย่าง Model 3 ได้ ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่า เป็นเพราะบริษัทยังสร้างรายได้ จากการเก็บค่าบริการรายเดือนของระบบขับขี่อัตโนมัติ แถมยังสามารถสร้างรายได้ในระยะยาว รวมถึงขายเทคโนโลยีให้กับบริษัทอื่นด้วย นอกจากนั้น ยังมีเครือข่ายที่ชาร์จ Tesla Supercharger ซึ่งทั้งหมดนี้อาจชดเชยส่วนที่ขาดทุนจากการขาย EV ราคาถูกได้ และแนวคิดการทำธุรกิจแบบที่ Tesla เป็นอยู่ อาจพลิกวงการรถยนต์ให้หันมาสร้างกำไร จากการทำอย่างอื่นแทนการผลิตรถเพื่อจำหน่าย

 

ที่มา: insideevs