ผู้ที่ชื่นชอบ Volkswagen Golf แต่อยากได้ประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่า น่าจะถูกใจข่าวนี้ เพราะเวอร์ชั่นแวน Golf Valiant และ เวอร์ชั่นยกสูง Golf Alltrack ใกล้จะออกขายที่ยุโรปในปลายปีนี้ โดยทางการได้เผยรายละเอียดเบื้องต้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2020 พร้อมระบุว่าจะมีให้เลือกสี่รุ่นย่อย ประกอบด้วย Golf, Life, Style และ R-Line พิเศษชาวเยอรมันสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน เป็นต้นไป
มาเริ่มต้นที่ Volkswagen Golf Valiant ก่อน ซึ่งมีความเป็น Coupé เล็กน้อยด้วยแนวหลังคาหลังลาดลง ทั้งยังดูเรียบแบนกว่าและยาวกว่า ด้วยสัดส่วนมิติตัวถังยาว 4,633 มิลลิเมตร พร้อมฐานล้อยาว 2,686 มิลลิเมตร มากกว่ารุ่นก่อนหน้า 66 มิลลิเมตร ไฟหน้าและไฟท้ายเป็น LED ในทุกรุ่นย่อย
ห้องโดยสารกว้างขวางขึ้นด้วยความยาวที่มากขึ้น 48 มิลลิเมตร ผู้โดยสารทั้ง 5 ที่นั่งจึงสะดวกสบายมากขึ้น รวมถึงพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่มากกว่าเดิม โดยก่อนพับเบาะอยู่ที่ 611 ลิตร สูงกว่าเดิม 6 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,642 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลงและยังสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า 22 ลิตร นอกจากนั้น ยังสามารถติดตั้งระบบเตะเปิดประตูหลังได้ ส่วนลูกเล่นอื่นมี หน้าจอสัมผัสขนาด 8.25 นิ้ว และ ระบบฟอกอากาศอัตโนมัติ
ขุมพลังของ Volkswagen Golf Valiant มีรายละเอียดเบื้องต้นว่าเป็น เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid eTSI ผนวกขุมพลังเทอร์โบ Direct Injection เข้ากับระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ สามารถตัดการทำงานเครื่องยนต์ขณะที่ปล่อยไหลได้ ช่วยลดมลพิษ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ dual clutch 7 จังหวะ
นอกจากนั้น ยังมีเครื่องยนต์ดีเซล TDI AdBlue มาพร้อมกับ SCR catalytic converters สองชุด ลดมลพิษมากกว่าเคย จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DSG 7 จังหวะ ส่วนระบบความปลอดภัยที่ให้มาในทุกรุ่นย่อย ประกอบด้วย
- ระบบช่วยรักษารถยนต์ให้อยู่ในช่องจราจร Lane Assist
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถยนต์ออกจากช่องจราจร Lane Departure Warning System
- ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อเสี่ยงชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนได้ Front Assist with City Emergency Braking System and Pedestrian Monitoring
- ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อพบรถยนต์สวนเลน ทำงานได้แม้จะกำลังเลี้ยว Oncoming Vehicle Braking
- ระบบเชื่อมต่อกับสาธารณูปโภคอื่น เพื่อตรวจเช็คอุบัติเหตุ Car2X Traffic Hazard Alert
สำหรับ Volkswagen Golf Alltrack จะมาพร้อมกับชุดแต่งเฉพาะตัว เสริมด้วยไฟหน้า LED matrix ห้องโดยสารตกแต่งพิเศษเต็มด้วยระบบแสดงผลดิจิตอล ด้านการขับขี่ยกสูงช่วงล่างให้พร้อมลุย และ ให้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MOTION มาด้วย ทั้งยังรองรับการลากจูงน้ำหนักสูงสุด 2,000 กิโลกรัม และ ยังมีระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Travel Assist ทำงานได้ถึงความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ที่มา : Volkswagen