Volkswagen Golf โฉมที่แปดได้ส่งตัวแรงมาให้ชมกันแล้วในรหัส GTI ขุมพลังเบนซินเทอร์โบ ทั้งยังมีทางเลือกแบบ Plug-in Hybrid ในรหัส GTE และ ดีเซลในรหัส GTD ทุกรุ่นพกพากำลังมาไม่ต่ำกว่า 200 แรงม้า พร้อมตกแต่งให้แตกต่างกันออกไป ด้านกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นในงาน Geneva Motor Show 2020 ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมนี้

Volkswagen Golf ตัวแรง มาพร้อมกับไฟหน้า LED เชื่อมต่อกับแถบไฟ LED บนกระจังหน้ายาวตลอดแนว แต่ละรุ่นจะมีแถบสีต่างกัน กันชนหน้าเปลี่ยนใหม่เป็นช่องลมรังผึ้งขนาดใหญ่ ด้านข้างมีล้อ ขนาด 17 – 19 นิ้ว ให้เลือก รับกับสเกิร์ตข้างตัดสีดำ ด้านหลังมีสปอยเลอร์หลังคาและไฟท้าย LED ส่วนท่อไอเสียต่างกัน โดย GTI ปลายเดี่ยวออกสองฝั่ง ส่วน GTD เป็นปลายคู่ออกฝั่งเดียว และ GTE ไม่มีปลายท่อไอเสียให้เห็น

ห้องโดยสารคงเอกลักษณ์ของ Golf ตัวแรงจากในอดีต ทั้งพวงมาลัยทรงสปอร์ต 3 ก้าน, หัวเกียร์ทรงลูกกอล์ฟ และ เบาะผ้าลาย tartan ซึ่งแต่ละรุ่นจะใช้สีตกแต่งที่ต่างกัน ทั้งในส่วนของตัวเบาะและก้านพวงมาลัย ในรุ่นท็อปสุดจะเพิ่มระบบ Digital Cockpit มาตรวัดขนาด 10.25 นิ้ว และ หน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อ We Connect ทั้งยังมีระบบไฟส่องสว่าง ambient lighting รอบคัน ปรับสีได้ 30 สี



ขุมพลังของ Volkswagen Golf ตัวแรงแต่ละแบบ มีรายละเอียดโดยสังเขป ดังนี้

GTI

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส EA888 evo4 แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ

GTE (Plug-in Hybrid)

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส EA211 แบบ 4 สูบ ขนาด 1.4 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 114 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion กำลังสูงสุดทั้งระบบ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุดทั้งระบบ 400 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DSG 6 จังหวะ สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว เป็นระยะทาง 60 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดได้ 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง

GTD

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส EA288 evo4 แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ

ช่วงล่างของ Volkswagen Golf ตัวแรง ใช้แบบ strut ในด้านหน้า และ multi-link ในด้านหลัง พร้อมนำระบบควบคุมการทรงตัวแบบใหม่มาใช้เป็นครั้งแรกกับ Vehicle Dynamics Manager ทำงานร่วมกับระบบ DCC โช๊คอัพปรับรูปแบบการทำงานได้ทั้ง COMFORT, ECO และ SPORT พิเศษในรุ่น GTI และ GTD จะได้ช่วงล่างที่เตี้ยกว่ารุ่นปกติ 0.6 นิ้ว ส่วนระบบความปลอดภัยมีทั้ง

  • Travel Assist ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทำงานถึงความเร็ว 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • Front Assist ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ ตรวจจับคนเดินถนนได้
  • Lane Assist lane keeping system ระบบหน่วงพวงมาลัยกลับเข้าช่องจราจร
  • Car2X ระบบเชื่อมต่อรถยนต์เข้ากับรถยนต์คันอื่น หรือ สาธารณูปโภคที่รองรับ

ที่มา : Volkswagen