เผยภาพ Teaser มาหลายครา ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Skoda Enyaq iV รถยนต์ไฟฟ้า EV คันแรกของค่ายเสียที ทั้งยังครองความเป็นคันแรกในด้านอื่นรวมถึงรถยนต์ Production จาก Skoda ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยทำมา และ เป็นรถยนต์คันแรกที่ใช้ platform แบบ MEB แต่ไม่ได้ผลิตที่โรงงานต้นกำเนิด ส่วนมิติตัวถัง : ยาว 4,648 มิลลิเมตร และ กว้าง 1,877 มิลลิเมตร
Skoda Enyaq iV ออกแบบมาโดยเน้นความลู่ลม มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.27 Cd หนึ่งในจุดเด่นคือกระจังหน้ามีไฟ LED 130 จุด สามารถเปล่งแสงได้ทั้งชิ้น แต่เป็นอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งเพิ่ม ส่วนไฟหน้าและไฟท้ายเป็น LED โดยมาตรฐาน ล้อมีขนาด 18 – 21 นิ้ว รัดด้วยยางแรงเสียดทานต่ำ
ห้องโดยสารมีเบาะสองแถว สะดุดตาด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 13 นิ้ว มาพร้อมกับมาตรวัดขนาด 5.3 นิ้ว ปรับการทำงานได้สี่รูปแบบ ทั้งยังมีหน้าจอ head-up display แสดงค่าแบบเสมือนจริง ส่วนพื้นที่เก็บของยังคงความเป็น Skoda ด้วยกล่องเก็บของใต้ที่วางแขนกลางความจุ 6.2 ลิตร และ อีกที่ใต้คอลโซลกลาง ความจุ 11.4 ลิตร
Skoda Enyaq iV ทุกคันใช้ระบบไฟฟ้า EV มีให้เลือกด้วยกันหลายระดับความแรง ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ขับเคลื่อนล้อหลัง
- 60 iV มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 177 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 62 kWh ขับขี่ได้ไกลสุดราว 389 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.7 วินาที
- 80 iV มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 201 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 82 kWh ขับขี่ได้ไกลสุดราว 508 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.5 วินาที
ขับเคลื่อนสี่ล้อ
- 80x iV มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 262 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 82 kWh ขับขี่ได้ไกลสุดราว 458 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.9 วินาที
- v RS มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 302 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 82 kWh ขับขี่ได้ไกลสุดราว 458 กิโลเมตร ทำอัตราเร่ง0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Skoda Enyaq iV สามารถชาร์จด่วนอัดไฟจากระดับ 5% ถึง 80% ได้ ภายในเวลา 38 นาที หากใช้ที่ชาร์จขนาด 125 kW ส่วนการชาร์จผ่าน AC wallbox ขนาด 11 kW จะใช้เวลาราว 6 – 8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ ส่วน platform ที่ใช้เป็นแบบ MEB นับเป็นครั้งแรกที่ platform นี้ไม่ได้ผลิตจากโรงงานในเยอรมนี
Skoda Enyaq iV เปิดตัวแล้วในวันที่ 1 กันยายน 2020 โดยจะเริ่มผลิตที่โรงงานใน Mladá Boleslav สาธารณรัฐเช็ก ในปี 2021 และพร้อมเปิดรับจองแล้ว ทั้งยังมีรุ่นตกแต่งพิเศษในช่วงแรกในชื่อ Founders Edition ผลิตจำกัด 1,895 คัน สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นในอังกฤษ และยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยอยู่ที่ 30,450 – 46,995 ปอนด์ (ราว 1,270,000 – 1,960,000 บาท)