มาชมทายาทรถสปอร์ตสัญชาติเกาหลีอย่าง All NEW Hyundai Veloster ที่มีคิวเปิดตัวในงาน Detroit Auto Show เช่นกัน เห็นได้ชัดว่าในเรื่องของการออกแบบนั้น ทาง Hyundai ยังคงรักษาเอกลักษณ์ประตูแบบ 2 + 1 เอาไว้ ส่วนเรื่องขุมพลัง มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ โดยรุ่นที่แรงที่สุดมาในรหัส N ตามที่มีสื่อมวลชนหลายเจ้าคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
All NEW Hyundai Veloster มีมิติตัวถัง ยาว x กว้าง x สูง : 4,239 x 1,800 x 1,399 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ : 2,649 มิลลิเมตร ส่วนการออกแบบนั้น ยังคงเอกลักษณ์ของรุ่นเดิมเอาไว้ ทั้งในเรื่องของการมีประตูหลังบานเดียว และเส้นสายตัวถัง แต่มีการขัดเกลาให้ดูลู่ลมขึ้น ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED กระจังหน้าออกแบบใหม่ ส่วนแนวหลังคาจะเตี้ยกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งยังสั่งพ่นสีดำได้
ขนาดล้อที่ใหญ่ที่สุดที่มีให้เลือกคือ 18 นิ้ว กันชนหลังมีดิฟฟิวเซอร์อยู่ด้วย ปลายท่อไอเสียออกกึ่งกลาง โดยเป็นแบบปลายเดี่ยว ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และปลายคู่ ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เทอร์โบ ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก ดังนี้
- สีดำ Ultra Black
- สีขาว Chalk White
- สีเงิน Sonic Silver
- สีเทา Thunder Gray
- สีส้ม Sunset Orange
- สีแดง Racing Red
- สีเทา Space Gray
ห้องโดยสารออกแบบมาโดยให้ความสำคัญกับคนขับ ทั้งยังเลือกวัสดุตกแต่งได้ว่าจะให้เป็น ผ้า, ผ้า/ หนัง หรือหนัง โทนสีจะเน้นไปที่สีดำ แต่เบาะจะมีสีขาวให้เลือกด้วย พร้อมใช้สีแดงตัดสี บริเวณพวงมาลัย แถบคาดเบาะ และการเดินด้ายบริเวณเบาะ
ระบบเครื่องเสียงเป็นของ Infinity พร้อมลำโพง 8 ทิศทาง หน้าจอสัมผัสมีขนาด 7 – 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ Android Auto และ Apple CarPlay นอกจากนั้น ยังมีหน้าจอ Head-up Display และระบบชาร์จแบบไร้สาย ที่ส่งสัญญาณเตือนผู้ใช้งาน เมื่อชาร์จอุปกรณ์จนไฟเต็ม, มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในบริเวณชาร์จ ที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และเตือนผู้ใช้งานไม่ให้ลืมอุปกรณ์ เมื่อจะลงจากรถ
ขุมพลังของ All NEW Hyundai Veloster รุ่นปกติ (ไม่นับรุ่น N) มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,999 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 81.0 x 97.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 179 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า
- เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร 1,591 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 77.0 x 85.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 264 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ ส่งกำลังผ่านล้อคู่หน้า
รุ่นที่ใช้ขุมพลังเทอร์โบจะมาพร้อมกับ ช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-Link พร้อมกันโคลงหน้า – หลัง ส่วนระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย ระบบเบรกอัตโนมัติ Forward Collision-Avoidance Assist (FCA), กล้องมองหลัง และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
มาที่ตัวแรงอย่าง All NEW Hyundai Veloster N กันบ้าง
รถรุ่นนี้จะทำตลาดโดยเน้นภาพลักษณ์สมรรถนะสูง จึงมีหน้าตาที่แตกต่างไปด้วยกันชนหน้าอีกแบบ ที่มีช่องดักลมใหญ่กว่าเดิม เสริมด้วยสเกิร์ตรอบคัน และล้อขนาด 18 – 19 นิ้ว ด้านหลังจะมาพร้อมกับกันชนหลังทรงใหม่ และสปอยเลอร์หลังที่ใหญ่กว่ารุ่นปกติ ปลายท่อไอเสียจะเป็นปลายเดี่ยวทรงกลม ออก 2 ฝั่ง สำหรับสีตัวถังมีให้เลือก ดังนี้
- สีดำ Ultra Black
- สีขาว Chalk White
- สีแดง Racing Red
- สีฟ้า N-exclusive Performance Blue
ห้องโดยสารยังคงเน้นไปที่สีดำ แต่มีอุปกรณ์เปลี่ยนไปหลายรายการ ได้แก่ เบาะผ้าทรงสปอร์ต พร้อมเดินด้ายสีฟ้า, พวงมาลัย – กันเตะประตู – แดชบอร์ด N-Design, หัวเกียร์ และหน้าปัดที่มี Shift Light ที่ทำงานเมื่อเร่งรอบเครื่องยนต์ จนใกล้ถึง Red Line
ขุมพลังของ All NEW Hyundai Veloster N เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ อัตราส่วนกำลังอัด 9.5 : 1 ให้กำลังสูงสุด 275 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 353 นิวตันเมตร ที่ 1,450 – 4,700 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
All NEW Hyundai Veloster จะผลิตขึ้นที่ประเทศเกาหลี โดยรุ่นธรรมดาจะเริ่มผลิตในเดือนมีนาคมนี้ ส่วนรุ่น N จะเริ่มผลิตในเดือนกันยายน มีกำหนดการออกจำหน่ายที่ประเทศสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 4 ตามลำดับ