ยอดขายรถยนต์ SUV ของ Ford ที่ยุโรปในปี 2018 ได้สูงขึ้นมาอีก 19% บริษัทจึงเตรียมเสริมทัพ SUV ด้วย All NEW Ford Puma พร้อมชูจุดเด่นมากมายในฐานะครั้งแรกของ segment ในด้านต่างๆ อย่างติดตั้งระบบเตะเปิด, เบาะนวด และ กล้องมองหลังมุมกว้าง 180 องศา ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกถึง 10 สี ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- สีน้ำเงิน Blazer Blue
- สีขาว Frozen White
- สีแดง Race Red
- สีเงิน Solar Silver
- สีดำ Agate Black
- สีแดง Lucid Red
- สีเทา Grey Matter
- สีน้ำเงิน Desert Island Blue
- สีเทาดำ Magnetic
- สีขาว Metropolis White
ภายนอกของ All NEW Ford Puma มีการตกแต่งหลักๆ ให้เลือก 2 แบบ ระหว่าง ST-Line และ Titanium โดยอย่างแรกเน้นความสปอร์ต มาพร้อมกับล้อสีดำด้าน Matte Black ขนาด 18 – 19 นิ้ว และตกแต่งด้วยสีดำด้านรอบคัน ทั้งยังมีช่วงล่างสปอร์ตด้วย ส่วน Titanium จะเน้นความหรูหรา ด้วยการหันไปใช้วัสดุโครเมี่ยมตกแต่งแทน ตัดสีรอบคันด้วยสีเทา Metallic Grey ด้านล้อใช้สีเทา Pearl Grey ขนาด 18 นิ้ว
ห้องโดยสารลูกเล่นมากมี เริ่มต้นกับมาตรวัดแบบ true color ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนจอสัมผัสมีขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อหลายแบบ ส่วนเบาะทั้ง 2 แถว มาพร้อมกับผ้าคลุมเบาะถอดซักได้ ดีไซน์เลือกได้ตามใจชอบ หลังคามี Panoramic Sunroof ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลัง มีลูกเล่นปรับระดับพื้นหลังสูง – ต่ำได้ หรือจะถอดฝาปิดพื้นรถออกก็ได้ เพื่อประโยชน์ในการปรับพื้นที่ให้เหมาะกับสัมภาระ
ขุมพลังของ All NEW Ford Puma มีรายละเอียดโดยสังเขป ดังต่อไปนี้
เครื่องยนต์เบนซิน
EcoBoost
เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบตัดการทำงานลูกสูบ กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ
EcoBoost Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ พร้อมระบบตัดการทำงานลูกสูบ กำลังสูงสุด 125 หรือ 155 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ พร้อมแบตเตอรี่ lithium-ion และ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสุด 16 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 50 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ
เครื่องยนต์ดีเซล
EcoBlue (จะตามมาในภายหลัง)
เครื่องยนต์ดีเซล ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ
platform ที่ All NEW Ford Puma ใช้เป็นแบบ B-Car Architecture ร่วมกับ Ford Fiesta พร้อมปรับปรุงช่วงล่างใหม่ ทั้งเปลี่ยนด้านหลังเป็นแบบ twist-beam, โช๊คอัพใหญ่ขึ้น, บูทยางแข็งขึ้น และ ปรับจุดยึดด้านบนให้มีแรงเสียดทานลดลง ด้านระบบความปลอดภัยล้ำหน้ากว่ารถยนต์ระดับเดียวกัน เพราะทำงานร่วมกับเซนเซอร์ ultrasonic 12 จุด, เรดาร์ 3 จุด และ กล้องรอบคัน 2 จุด ส่วนระบบที่โดดเด่น มีดังนี้
- Pre-Collision Assist with Pedestrian Detection ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ พร้อมตรวจจับคนเดินถนน
- Adaptive Cruise Control with Stop & Go ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
- Active Park Assist with Perpendicular Parking ระบบถอยจอดกึ่งอัตโนมัติ ทั้งเข้าซองและจอดขนาน
- Lane-Keeping System ระบบรักษารถยนต์ให้อยู่ในช่องทาง พร้อมเพิ่มแรงต้านบนพวงมาลัยโดยอัตโนมัติ เมื่อระบบพบว่าถนนลื่นไถลกว่าปกติ
- Local Hazard Information ระบบแชร์ข้อมูลการจราจรเบื้องหน้า ผ่านระบบ Cloud
All NEW Ford Puma เปิดตัวเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน และจะเริ่มออกจำหน่ายในยุโรปภายในปี 2019 โดยประกอบที่โรงงานแห่งใหม่ในประเทศโรมาเนีย ซึ่งบริษัทได้ลงทุนไปเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตตั้งแต่ปี 2008 รวมเป็นมูลค่า 1,500 ล้านยูโร (ราว 52,000 ล้านบาท)
ที่มา: Ford