DS 4 รุ่นล่าสุดเปิดตัวแล้วเพื่อบุกตลาด Premium C-Segment มีให้เลือกสามสไตล์การตกแต่ง ประกอบด้วย DS 4, DS 4 CROSS และ DS 4 PERFORMANCE LINE ครบถ้วนทั้งขุมพลังเบนซิน, ดีเซล และ PHEV ด้านรายละเอียดมิติตัวถัง ยาว x กว้าง x สูง : 4,440 x 1,830 x 1,470 มิลลิเมตร
DS 4 มาพร้อมกับไฟหน้า MATRIX LED โดย DRL มีไฟ LED อยู่ 98 ตำแหน่ง กระจังหน้าเป็นแบบสามมิติ โดดเด่นด้วยมือเปิดประตูแบบจมไปในตัวถัง ล้อรองรับขนาดใหญ่สุด 20 นิ้ว ในรุ่น CROSS ตกแต่งสไตล์ SUV ด้วยกันกระแทกกันชน, ชายล่างตัวถังสีดำ และ ราวหลังคา ปิดท้ายกับ PERFORMANCE LINE เน้นความสปอร์ตกับการตกแต่งภายนอกรอบคันด้วยสีดำ Black Pack
ห้องโดยสารมีวัสดุตกแต่งให้เลือกมากมายรวมไปถึง Alcantara, หนัง Grain Leather สีเทา Pebble Grey และ หนัง Nappa สีน้ำตาล Criollo Brown ส่วนมาตรวัดและหน้าจอแสดงผล เชื่อมต่อกันรวมขนาดสูงสุด 21 นิ้ว ทั้งยังมีเครื่องเสียง FOCAL ELECTRA กำลังขับ 690 วัตต์ พร้อมลำโพง 14 ตำแหน่งมาให้รวมไปถึงระบบกรองอากาศ PM2.5 ด้านพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายรถอยู่ที่ 430 ลิตร
DS 4 ใช้ platform แบบ EMP2 ซึ่งมีชิ้นส่วนใหม่กว่า 70% ส่วนขุมพลังระบุว่า มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน PureTech กำลังสูงสุด 130, 180 และ 225 แรงม้า พร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ดีเซล BlueHDi กำลังสูงสุด 130 แรงม้า ทั้งหมดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ทั้งยังระบุว่ารุ่น 225 แรงม้า เป็น PHEV เครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ 180 แรงม้า จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 110 แรงม้า ขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้ไกลสุด 50 กิโลเมตร
DS 4 มาพร้อมกับระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติระดับที่สอง ซึ่งมีระบบตรวจจับให้ผู้ขับขี่จับพวงมาลัยตลอดเวลา โดยระบบสามารถควบคุมรถยนต์ได้เอง ตามสภาพการจราจรทั้งยังแซงได้, ปรับความเร็วก่อนเข้าโค้ง และ ตามป้ายจราจร นอกจากนั้น ยังมีกล้องอินฟราเรด DS NIGHT VISION ไว้ตรวจจับสัตว์และคนเดินถนนระยะไกลสุด 200 เมตร เวลาที่ทัศนวิสัยไม่ดี
DS 4 เปิดตัวเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2021 และจะออกจำหน่ายในไตรมาสสุดท้ายของปีเดียวกัน พร้อมทางเลือก 7 สีตัวถัง ประกอบด้วย สีมุก Pearl Crystal, สีเทา Platinum Grey, สีแดง Red Velvet, สีขาว Pearl White, สีดำ Perla Nera Black รวมไปถึงสีใหม่อย่าง สีทอง Cooper Gold และ สีเทา Lacquered Grey
ที่มา: DS