Honda N-Van เข้ามาเสริมทัพ N-Series เป็นครั้งแรกในปี 2018 และได้รับการพัฒนาเรื่อยมาจนถึงรุ่นปรับอุปกรณ์ครั้งล่าสุดที่เห็นนี้ โดยทางการเปิดเผยรายละเอียดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2024 ซึ่งในโอกาสนี้ยังเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของกลุ่ม N-Series อีกด้วย โดยสิ่งที่แตกต่างจากเดิมคือทางเลือกสีใหม่ ทั้งภายนอกและภายในรวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายนอกของ Honda N-Van รุ่นปรับอุปกรณ์ ตกแต่งด้วยสีดำด้านและสีดำเงา Viano Black บนกระจังหน้า, มือเปิดประตูนอก, คิ้วป้ายทะเบียนหลัง และฝาตบเต็มวงขนาด 12 นิ้ว ทั้งยังเพิ่มตัวถังสีใหม่ทั้งสีเหลือง Autumn Yellow Pearl และ สีเขียว Botanical Green Pearl ด้านอุปกรณ์เพิ่มระบบไล่ฝ้าให้กับกระจกมองข้าง ส่วนห้องโดยสารเปลี่ยนสีใหม่เป็นสีน้ำตาล Khaki
ขุมพลังของ Honda N-Van รุ่นปรับอุปกรณ์ มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือกด้วยกัน 2 แบบดังนี้
- แบบ 3 สูบ ขนาด 658 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 60.0 x 77.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 53 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 64 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ
- แบบ 3 สูบ ขนาด 658 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 60.0 x 77.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.8 : 1 กำลังสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 104 นิวตันเมตร ที่ 2,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ
Honda N-Van รุ่นปรับอุปกรณ์ เพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Honda Sensing มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย พร้อมกับเพิ่มระบบตัดกำลังเมื่อเหยียบแป้นผิดขณะออกตัว โดยระบบนี้จะมีในรุ่นเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น สำหรับราคาจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย แบ่งตามขุมพลังได้ดังนี้
- ขุมพลัง NA ราคา 1,365,100 – 1,991,000 เยน (ราว 325,000 – 474,000 บาท)
- ขุมพลังเทอร์โบ ราคา 1,883,200 – 2,016,300 เยน (ราว 448,000 – 480,000 บาท)
ที่มา: Honda, car.watch.impress