Mercedes-AMG ได้เปิดเผยข้อมูลของ E63 S เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งความเปลี่ยนแปลง
ไม่ได้มีเพียงการเปลี่ยนเครื่องยนต์ V8 5.5 ลิตรเทอร์โบคู่ มาใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร
เทอร์โบคู่เท่านั้น แต่ยังมีการเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากล้อหลัง มาเป็น 4 ล้ออีกด้วย

2018-Mercedes-E63-AMG-S-11

ภายนอกแตกต่างจาก E-Class ทั่วไปด้วยฝากระโปรงหน้าทรงใหม่, กระจังหน้าสองชั้น
คาดกลางด้วยเส้นโครเมี่ยม พื้นสีดำ, ซุ้มล้อขยายออกมาอีก 17 มิลลิเมตร เพื่อให้รองรับกับ
ล้อขนาด 19 นิ้ว, กันชนหน้า-หลังทรงใหม่, ครีบอากาศบริเวณซุ้มล้อหน้า, สเกิร์ตข้าง,
สปอยเลอร์หลังขนาดเล็ก และ ปลายท่อไอเสียคู่ออก 2 ฝั่ง ส่วนรุ่นที่แรงกว่าอย่าง E 63 S
จะเพิ่มล้อขนาด 20 นิ้ว และ มีเส้นโครเมี่ยมสีเงินตกแต่งด้านในของช่องดักลมกันชนหน้า

2018-Mercedes-E63-AMG-S-20

ภายในตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ โทนวัสดุสีดำ พร้อมไฟตกแต่งรอบห้องโดยสารตั้งแต่บริเวณ
แผงประตูพาดผ่านคอลโซลหน้าและยังมีไฟบริเวณที่พักขาและคอลโซลกลางอีกด้วย เบาะเปลี่ยนเป็น
ทรงที่สปอร์ตขึ้นพร้อมกับมีพวงมาลัยฐานตัดมาให้

2018-Mercedes-E63-AMG-S-4

2018 Mercedes-AMG E63 มีขุมพลังเพียงรุ่นเดียวกับ เครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่
ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ AMG Speedshift MCT 9 จังหวะส่งกำลังลงพื้นทั้ง 4 ล้อผ่านระบบ
4Matic+ พร้อมระบบกระจายแรงบิดแปรผัน สำหรับข้อมูลสมรรถนะของแต่ละรุ่นมีดังต่อไป

2018-Mercedes-E63-AMG-S-6

E63 ให้กำลังสูงสุด 571 แรงม้า (PS) ที่ 5,750-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 76.47 กก-ม.
(750 นิวตันเมตร) ที่ 2,250-5,000 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ภายใน 3.5 วินาที

E63 S ให้กำลังสูงสุด 611 แรงม้า (PS) ที่ 5,750-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 86.67 กก-ม.
(850 นิวตันเมตร) ที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ภายใน 3.3 วินาที

2018-Mercedes-E63-AMG-S-7

ความเร็วสูงสุดของทั้ง 2 รุ่นจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่สามารถปลดล็อคเป็น
300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ด้วยการติดตั้ง AMG Driver Package เพิ่มเติม ถึงพละกำลัง
จะมหาศาล แต่ E63 มาพร้อมกับระบบตัดการทำงานให้เหลือเพียง 4 สูบ เมื่อตั้งระดับ
การขับขี่เอาไว้ใน Comfort Mode ซึ่งจะควบคุมรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ระหว่าง
1,000 – 3,250 รอบ/นาที เพื่อช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้น

2018-Mercedes-E63-AMG-S-40

สำหรับผู้ที่ครอบครอง E63 S จะมีลูกเล่นเพิ่มอีก 1 อย่างใน Race Mode ซึ่งก็คือ Drift Mode
ที่จะส่งกำลังทั้งหมดลงล้อคู่หลัง พร้อมกับปิดระบบ Electronic Stability Program ทิ้ง และ
ยังเปลี่ยนระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา ซึ่ง Drift Mode จะเปิดอยู่ตลอดจนกว่าคนขับจะสั่งปิดเอง

2018-Mercedes-E63-AMG-S-42

ช่วงล่างมาพร้อมกับ AMG Sport Suspension ทั้งหน้า-หลัง, Rear Differential Lock, ESP
3 ระดับ, และพวงมาลัยแบบ Electromechanical Speed Sensitive Sports สำหรับระบบเบรก
ด้านหน้าใช้จานเบรกขนาด 360 มิลลิเมตรพร้อมคาลิปเปอร์ 6 พอต ด้านหลังใช้จานเบรกขนาด
360 มิลลิเมตรพร้อมคาลิปเปอร์ 1 พอต ส่วนรุ่น C63 S จะมาพร้อมกับจานเบรกหน้าขนาด 390
มิลลิเมตร

2018-Mercedes-E63-AMG-S-37

ทั้งคู่สามารถเลือกติดตั้งจานเบรกเซรามิคขนาด 402 มิลลิเมตรในด้านหน้าและ 360 มิลลิเมตร
ในด้านหลัง สำหรับกำหนดการเปิดตัวของ 2018 Mercedes-AMG E63 จะอยู่ในงาน Los Angeles
Auto Show ในวันที่ 16 พฤศจิกายน และเริ่มออกจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า นอกจากนี้
จะมีตัวถัง Estate ตามมา สำหรับในงานเปิดตัวจะมี Edition 1 ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษได้รับการตกแต่ง
ภายในด้วยหนัง Nappa สีดำเดินด้ายสีเหลืองพร้อมตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์และมีลูกเล่นอื่นๆ
อีกด้วย

ที่มา : carscoops, motortrend