Ferrari F12 Berlinetta มีทายาทมาสืบสานตำนานต่อแล้วในชื่อ Ferrari 812 Superfast
ซึ่งยังคงเอกลักษณ์การใช้เครื่องยนต์ขนาด V12 วางหน้าเอาไว้อยู่ พร้อมปรับปรุงช่วงล่าง
และระบบส่งกำลังใหม่ ทั้งยังเปลี่ยนแนวทางการออกแบบอีกด้วย

Ferrari-812-Superfast-3Ferrari-812-Superfast-2

Ferrari 812 Superfast มาพร้อมกับไฟหน้า LED ส่วนไฟท้ายเป็นทรงกลม 4 ดวง ซึ่ง
ได้แรงบันดาลใจมาจาก 1969 Ferrari 365 GTB4 นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วนตัวถังที่ช่วย
รีดลมดียิ่งขึ้น ทั้งบริเวณกันชนหน้า และกันชนหลังที่มาพร้อมกับ Aerodynamic Bypass
นอกจากนี้ ยังมีสีตัวถังพิเศษซึ่งเป็น สีแดง Rosso Settanta ซึ่งเปิดตัวในโอกาสฉลอง
แบรนด์ครบรอบ 70 ปี

ภายในของ Ferrari 812 Superfast เน้นพื้นที่กว้างขวาง และให้ความสะดวกสบายมา
พร้อมกับช่องแอร์กลางรูปแบบใหม่ ทั้งยังมีเบาะทรงสปอร์ต, พวงมาลัยทรงใหม่ และ
ระบบ Infotainment รุ่นล่าสุด

Ferrari-812-Superfast-6

ขุมพลังของ Ferrari 812 Superfast เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V12 6.5 ลิตร ระบบ
Direct Injection แรงอัด 350 บาร์ ให้กำลังสูงสุด 800 แรงม้า (PS) ที่ 8,500
รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 73.21 กก-ม. (718 นิวตันเมตร) ที่ 7,000 รอบ/นาที
ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 จังหวะ ที่เปลี่ยนเกียร์ได้ไวขึ้น
กว่าเดิม

Ferrari-812-Superfast-4

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ของ Ferrari 812 Superfast สามารถทำได้
ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้มากกว่า 340 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับ
อัตราส่วนน้ำหนัก หน้า : หลัง อยู่ที่ 47 : 53% ส่วนน้ำหนักตัวถังพร้อมอุปกรณ์
เสริมที่ไม่หนักมาก อยู่ที่ 1,525 กิโลกรัม

Ferrari 812 Superfast ยังมาพร้อมกับระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ Virtual Short
Wheelbase 2.0 ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก Ferrari F12TDF ให้ตอบ
สนองไวขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ Ferrari 812 Superfast ยังเป็น Ferrari รุ่นแรก
ที่มาพร้อมกับพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ทั้งยังมีระบบ Side Slip Control
5.0 รุ่นล่าสุดอีกด้วย

Ferrari-812-Superfast-1Ferrari-812-Superfast-5

ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ferrari 812 Superfast ต้องอดใจรออีกนิด เพราะ
ค่ายม้าพยศได้ประกาศแล้วว่าจะมีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน
Geneva Motor Show ที่จะจัดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้แล้ว

 

ที่มา : gtspirit, motormag