Mazda เตรียมเรียกรถยนต์จำนวน 2,300,000 คันทั่วโลก กลับมาดำเนินการตรวจสอบ-แก้ไข
หลังจากที่พบปัญหา 2 อย่างประกอบไปด้วย ชิ้นส่วนบานพับฝาท้าย และ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล
เกี่ยวกับการทำงานของกล่อง ECU ซึ่งมีรถยนต์ 4 รุ่นได้รับผลกระทบจากข้อบกพร่องในครั้งนี้
ในส่วนแรก เป็นเรื่องของบานพับของฝาท้ายที่พ่นสีไม่เรียบร้อย จนนำไปสู่การเกิดสนิม ซึ่งอาจ
ทำให้ชิ้นส่วนนี้ ชำรุดจนไม่สามารถทำงานได้ สำหรับรถยนต์รุ่นที่พบปัญหาประกอบไปด้วย
Mazda 3, CX-3, และ CX-5 ทีผลิตระหว่างเดือนธันวาคม 2007 ถึงเดือนธันวาคม 2015
ส่งผลกระทบต่อรถยนต์ทั่วโลก จำนวนราว 1,800,000 คัน และ ในญี่ปุ่นเองอีกราว 390,000 คัน
อีกปัญหาที่เกี่ยวข้องในเครื่องยนต์ดีเซล จะจำกัดความเสียหายในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น
เท่านั้น มีปริมาณทั้งสิ้น 117,030 คัน ประกอบไปด้วยรุ่น Demio (Mazda 2), Axela (Mazda 3), และ
CX-3 ที่ผลิตระหว่าง ปี 2014-2016 หลังจากที่พบว่ากล่อง ECU ทำงานบกพร่อง จนเป็นเหตุให้เกิด
เขม่าสะสม อยู่ในวาล์วไอเสีย มีผลให้เกิดการสั่นสะเทือน เสียงดัง และ เครื่องยนต์หยุดทำงานในที่สุด
หากทิ้งไว้ระยะเวลานาน จึงต้องทำการ Update Firmware กล่อง ECU ทั้งนี้มีรายงานว่ามีลูกค้าในญี่ปุ่น
ร้องเรียนถึงปัญหานี้เป็นจำนวน 846 คน แต่ไม่มีรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าว
สำหรับประเทศไทย ต้องรอข่าวคราวว่ารถในประเทศไทยเข้าข่ายดังกล่าวหรือไม่
เพื่อรอการเรียกรถกลับไปตรวจสอบ และ แก้ไข จากปัญหาดังกล่าว
แต่ Mazda ประเทศไทยชี้แจงว่า การ RECALL คือ การเรียกรถกลับไปตรวจสอบ และ
แก้ไข ไม่ใช่การเรียกรถคืน หรือ ซื้อคืน ตามที่สำนักข่าวในไทยบางแห่งใช้คำไม่ถูกต้อง
ในการนำเสนอข่าว
.