เนื่องในโอกาสที่โรงงานของ Lotus ใน Hethel ครบรอบ 50 ปีทางผู้ผลิตจึงนำ Elise 250 Cup ที่เคย
ออกขายในช่วงต้นปีมาต่อยอดเป็น 250 Special Edition ด้วยการรีดน้ำหนักให้เบากว่าเดิมด้วยการถอด
ชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นออกและเปลี่ยนไปใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งนอก-ใน จนน้ำหนักตัวถังนั้นลดลงเหลือ
899 กิโลกรัมเท่านั้น
ชายกันชนหน้า, สปอยเลอร์หลัง, ฝากระโปรงท้าย, และชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าล้วนทำมาจากวัสดุคาร์บอน
ไฟเบอร์ ล้อทำจากวัสดุ Forged สามารถเลือกสีได้ว่าจะเอาสีเงินหรือสีดำ สำหรับหลังคานั้นสามารถสั่งเพิ่ม
ได้ด้วยว่าจะให้ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์หรือไม่ สำหรับสีตัวถังนั้นเลือกได้ 4 สีประกอบไปด้วย Classic
Metallic Blue, Red, Yellow, และ White
ภายในมาพร้อมกับเบาะ bucket seat ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งลูกค้าเลือกสีได้ว่าจะเอาสีน้ำเงินเข้ม
หรือสีเทาเข้มพร้อมเดินด้ายสีตัดกัน สำหรับอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้เป็นพื้นฐานต้องระบุเองว่าจะให้ใส่อะไรมา
บ้างไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ, Cruise Control, เครื่องเสียง, พรมปูพื้น, ผ้ายางปูพื้น, และวัสดุซับเสียง
ภายใน
เครื่องยนต์นั้นยกของ Elise Cup 250 มาใช้เป็นเบนซิน 4 สูบ 1.8 ลิตร Supercharger ให้กำลังสูงสุด 246
แรงม้า (PS) ที่ 7,200 รอบ/ นาที แรงบิดสูงสุด 35.69 กก-ม. (250 นิวตันเมตร) ที่ 3,500-5,500 รอบ/ นาที
ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะส่งกำลังผ่านล้อหลัง ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมงใน 4.3 วินาที
ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 248 กิโลเมตร/ ชั่วโมง สำหรับการทำเวลาต่อรอบที่สนามทดสอบที่สนาม Hethel นั้นอยู่
ที่ 1.34 นาทีทำให้มันเป็น Elise ที่ทำเวลาต่อรอบได้ดีที่สุด
ช่วงล่างสามารถปรับโหมดให้เป็น Sport หรือ Race Mode พร้อมโช๊คจาก Bilstein และ สปริงจาก Eibach
ระบบ เบรกเป็น 2 พอตในด้านหน้าจาก AP Racing และ 1 พอต จาก Brembo ในด้านหลัง นอกจากนี้ยังมี ABS
ที่ปรับแต่งมาใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะพร้อม Differential ไฟฟ้า Lotus Elise 250 Special Edition ผลิต
จำนวนจำกัดเพียง 50 คันเท่านั้นและจะมีขายนอังกฤษ, ยุโรป, รวมไปถึงญี่ปุ่นด้วยสนนาราคา 47,900 ปอนด์
หรือราว 2,108,000 บาท
.