นอกจากสภาพของรถยนต์ ยี่ห้อ และปัญหาที่พบในรถยนต์รุ่นนั้นๆ สีของตัวถังนั้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง
ที่มีผลต่อราคาขายต่อในวงการรถยนต์มือสองด้วย ซึ่งทางเว็บไซต์ iseecars.com ในประเทศสหรัฐฯ
ได้รวบรวมสถิติการซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง ที่มีอายุ 3 ปีเป็นจำนวน 1,600,000 คัน ในปีที่ผ่านมา
เพื่อทำการวิเคราะห์ว่า สีใดมีราคาขายต่อดีที่สุด และ สีใดขายต่อออกไวสุด ซึ่งมีผลดังนี้
เปอร์เซ็นต์ราคาขายต่อที่ตกลง เทียบกับ สีตัวถังของรถ
สีส้ม | 21.6 % |
สีเหลือง | 22.0 % |
สีเขียว | 24.5 % |
สีน้ำตาล | 28.5 % |
สีแดง | 29.1 % |
สีเทา | 29.5 % |
สีขาว | 29.5 % |
สีน้ำเงิน | 29.9 % |
สีดำ | 30.2 % |
สีเงิน | 30.6 % |
สีเบจ | 31.2 % |
สีทอง | 33.5 % |
ทั้งนี้จากการสำรวจเดียวกัน ยังทำการหาค่าเฉลี่ยระยะเวลา ที่รถแต่ละคันอยู่ในตลาด
ซึ่งแบ่งตามสีของตัวถัง มีผลดังต่อไปนี้
สีเทา | 41.4 วัน |
สีดำ | 42.1 วัน |
สีทอง | 42.6 วัน |
สีขาว | 42.8 วัน |
สีน้ำเงิน | 43.6 วัน |
สีส้ม | 44.1 วัน |
สีเขียว | 45 วัน |
สีน้ำตาล | 46.2 วัน |
สีเงิน | 46.6 วัน |
สีแดง | 49 วัน |
สีเหลือง | 49.5 วัน |
โดยสรุปแล้วรถยนต์ อายุ 3 ปีจะราคาตกไปโดยเฉลี่ย 29.8% และ จะอยู่ในตลาดโดยเฉลี่ยเป็นเวลา 43.9 วัน
ทั้งนี้มีการวิเคราะห์ด้วยว่า สาเหตุที่รถสีเจ็บๆ ราคาขายต่อดี เป็นเพราะส่วนใหญ่เป็นรถสปอร์ตนั่นเอง ซึ่งรถ
เหล่านี้ มักเป็นรถหายาก และ เจ้าของมักจะดูแลดี และ ใช้งานน้อย ทำให้ราคาขายต่อดีไปด้วย นอกจากนี้
ยังพบด้วยว่า รถสีส้มมักจะผ่านการใช้งานโดยเฉลี่ยเพียง 43,790 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ
รถทุกสีที่อยู่ที่ 58,457 กิโลเมตร อีกด้วย
.
ที่มา : motortrend, iseecars