ในที่สุด Volkswagen ได้เสนอแผนฟื้นฟู เครื่องยนต์ดีเซลฉาว ให้กับ EPA ได้สำเร็จแล้ว ซึ่งจะ
เข้าสู่กระบวนการพิจารณา เพื่ออนุมัติอย่างเป็นทางการต่อไปภายในเดือนหน้า ทั้งนี้ถ้าแผนดังกล่าว
อนุมัติใช่ว่าจะจบง่ายๆ เพราะมีการประเมินว่าผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ ต้องสูญเงินไม่ต่ำกว่า 18,000 ล้าน
ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว 630,000 ล้านบาท และ ค่าใช้จ่ายนี้จะครอบคลุมเฉพาะลูกค้าในสหรัฐฯเท่านั้น
สาเหตุที่ค่าใช้จ่ายสูงขนาดนี้ เกิดมาจากแผนฟื้นฟูที่เข้าสู่ขั้นตอนรออนุมัตินั้น รวมไปถึงข้อเสนอ
ซื้อรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตรคืน จากลูกค้าชาวสหรัฐฯ จำนวน 470,000 คันด้วย
ซึ่งรถยนต์เหล่านี้ไม่สามารถนำไปขายต่อได้ และ ต้องกำจัดทิ้งสถานเดียว ทั้งนี้ลูกค้าสามารถ
เลือกที่จะรับเงินชดเชย พร้อมกับนำรถเข้ารับการซ่อมแซม ถ้าพวกเขาไม่ประสงค์ที่จะกำจัดรถทิ้ง
โดยที่ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ถูกประเมินไว้ที่ราว 10,300 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว 362,000 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายต่อไป คือค่าปรับที่ VW ต้องจ่ายให้กับทางการ ซึ่งบริษัทสำรองเอาไว้ที่ 2,700 ล้านดอลล่าร์
สหรัฐฯ หรือราว 94,000 ล้านบาท นอกจากนี้จะมีการเตรียมเงินอีก 2,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ
ราว 70,000 ล้านบาท ในการพัฒนารถยนต์ปลอดมลพิษไปอีก 10 ปี นอกจากนี้สำนักข่าว Reuters
ยังคาดการณ์ด้วยว่าตั้งแต่เกิดเรื่องมา ค่าใช้จ่ายต่อคนที่ VW ต้องจ่ายให้กับเจ้าของรถยนต์ดีเซลฉาวนั้น
ไม่ต่ำกว่า 5,100 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว 179,000 บาทต่อคน ซึ่งรวมไปถึงเงินเยียวยา ค่าซ่อมแซม
และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ไม่เพียงแค่นั้น VW ยังเสนอเงินจำนวน 5,000 – 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว 175,000 – 351,000 บาท
ให้กับลูกค้าทุกคน ที่ฟ้องร้องบริษัทเพื่อแลกกับถอนฟ้องในคดีดังกล่าว ทั้งนี้ต้องติดตามดูต่อไปว่า
ทางการสหรัฐฯ จะเห็นดีเห็นงามกับแผนเสนอดังกล่าวหรือไม่ แต่ปัญหาคือหลายฝ่ายเชื่อว่าค่าใช้จ่ายนั้น
บานปลายแน่นอน เพราะ แผนฟื้นฟูนี้ยังไม่รวมรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ TDI 3.0 ลิตรอีก 85,000 คัน
ในสหรัฐฯ ด้วย แต่ที่หนักคือยังมีโจทก์ในประเทศอื่นๆอีกที่ VW นำเครื่องยนต์ดีเซลฉาวไปขาย
ต้องติดตามต่อว่า VW จะฝ่าวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร
ที่มา : motortrend, motorauthority