หลังจากที่ Fiat 500 ได้ผ่านการ Minorchange ไปในฤดูร้อนที่ผ่านมานั้น เวอร์ชั่นที่ร้อนแรงกว่า
อย่าง Abarth 595 ที่ประกอบไปด้วยรุ่นย่อย 3 รุ่น จึงได้รับการปรับปรุงบ้าง ซึ่งหน้าตานั้นจะเปลี่ยนไป
เล็กน้อย ด้วยงานออกแบบด้านหน้า ที่ได้อิทธิพลมาจาก Fiat 124 Spyder พร้อมช่องลมกันชนหน้า
ที่ใหญ่กว่าเดิม 18% สำหรับสีสันของตัวถังนั้น มีให้เลือกมาถึง 15 เฉดสี ตั้งแต่โทน pastel, metallic,
และ two tone นอกจากนี้ ทุกรุ่นยังมีล้อลายใหม่ขนาดตั้งแต่ 15-17 นิ้วให้เลือก ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำนั้นเบากว่า
ล้อเดิมอยู่ 7%
ภายในห้องโดยสารนั้น ในรุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมกับเบาะผ้าลายพิเศษ เมื่อขยับมารุ่นกลางจะได้เบาะหนัง
ซึ่งเลือกสีได้ 3 สี แต่ในรุ่นท็อปนั้น จะเปลี่ยนมาใช้เบาะ Bucket Seat พร้อมเข็มขัดนิรภัยจาก Sabelt
ทั้งยังเลือกตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara เป็นออพชั่นเสริมได้ด้วย ส่วนเครื่องเสียงนั้นมาพร้อมกับระบบ
Uconnect และหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็น 7 นิ้วที่มีความละเอียดสูงกว่าได้
ขุมพลังของทุกรุ่นเป็นแบบเบนซิน 4 สูบ 1.4 ลิตรเทอร์โบ แรงกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย โดยที่รุ่น 595
ซึ่งเป็นรุ่นเบาสุด ใช้เทอร์โบ IHI RHF3 P ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด
21.00 กก-ม. (206 นิวตันเมตร) สำหรับ 2 รุ่นหลังจะใช้เทอร์โบ Garret GT 1446 ซึ่งรุ่น 595 Turismo
ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 23.45 กก-ม.(230 นิวตันเมตร) และรุ่น 595
Competizione ให้กำลัง สูงสุด 183 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 25.49 กก-ม. (250 นิวตันเมตร)
ทุกรุ่นให้กำลังสูงสุดพร้อมกันที่ 5,500 รอบ/นาที และ แรงบิดสูงสุดที่ 3,000 รอบ/นาที
สำหรับระบบส่งกำลัง นั้นมีให้เลือกทั้งธรรมดา 5 จังหวะ และ อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อม Paddle Shift
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ 7.8, 7.3, และ 6.7 วินาที ตามลำดับ และ ความเร็วสูงสุดนั้นอยู่ที่
225 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ลูกค้า ยังสามารถติดตั้งเฟืองท้าย Limited Differential ได้อีกด้วย
ทุกรุ่นมาพร้อมกับ โช๊คอัพหลังจาก Koni และ ในรุ่นท็อปนั้นจะเพิ่มโช๊คอัพหน้ามาให้ด้วยเป็นมาตรฐาน
สำหรับระบบเบรกในตัวท็อปนั้น เป็นของ Brembo 4 pots ด้านหน้ามาพร้อมกับจานเบรกขนาด 305 มิลลิเมตร
สำหรับกำหนดการออกจำหน่ายของ Abarth 595 ในตลาดยุโรปนั้นจะเริ่มขึ้นในเดือนนี้เป็นต้นไป
ที่มา : carscoops, abarthcars