หลังจากที่ Alfa Romeo สร้างกระแสได้พอสมควรในครั้งที่เผยโฉม Giulia Quadrifoglio ทั้งใน
เรื่องการออกแบบและตัวเลขสมรรถนะที่ผู้ผลิตอ้างไว้แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถจับจอง Quadrifoglio
ได้เนื่องจากมันเป็นตัวท็อปที่ไม่ต่างอะไรกับ M3 ในตระกูล Series-3 ของ BMW หรือ C63 จากเครือ
ญาติ C-Class ของ Mercedes-Benz ทาง Alfa-Romeo จึงนำเสนอ Giulia รุ่นที่คนธรรมดาทั่วไปซื้อ
มาใช้กันซึ่งแยกได้ 3 รุ่นย่อย

giulia_3_4_ant_bianca_uff 02_3_4_post_alto_bianca2_uff
alfa-romeo-giulia-007-1

มาดูที่ภายนอกนั้นยังคงดูดีอยู่แม้ว่าจะไม่มีฝากระโปรงหน้าพร้อมช่องดักลมและกันชนหน้า-หลังที่ไม่มี
ดิฟฟิวเฟอร์หรือสปอย์เลอร์รอบคันอีกต่อไป ซึ่งใช่ว่าไม่ดุจะหน้าตาไม่ดีแต่ก็ยังดูหรูได้เพราะไฟหน้ากับ
ไฟหลังระหว่างรุ่นย่อยนั้นเป็นรูปทรงเดียวกัน สำหรับท่อไอเสียปลายคู่ออก 2 ฝั่งนั้นจะเหลือเป็นปลาย
เดี่ยวออกคู่เช่นเคยในรุ่นย่อยอื่นๆ

giulia_01_3_4_ant_back_uff
alfa-romeo-giulia-006-1
alfa-romeo-giulia-008-1

Giulia นั้นแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยประกอบไปด้วย Giulia, Super, และ Quadrifoglio ซึ่งอุปกรณ์ที่ให้
มาเป็นมาตรฐานสำหรับตลาดยุโรปนั้นมี Forward Collision Warning, Autonomous Emergency
Braking, Lane Departure Warning, และหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ขยับไปที่รุ่น Super จะมาพร้อมกับ
ล้อขนาด 17 นิ้วซึ่งสามารถเพิ่มไฟหน้า Xenon, พวงมาลัยแบบสปอร์ต, และตกแต่งภายในรอบคันด้วย
วัสดุอลูมิเนียมด้วยการสั่งซื้อ Sport Pack สำหรับรุ่นท็อปอย่าง Quadrifoglio นั้นเป็นรุ่นสมรรถนะสูงที่
ชิ้นส่วนตัวถังส่วนใหญ่ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์, ชุดแต่งรอบคัน, ล้อขนาด 19 นิ้ว, และเบรกเซรามิก
มาให้เป็นมาตรฐาน

03-2017-alfa-romeo-giulia-geneva-1 04-2017-alfa-romeo-giulia-geneva-1

เครื่องยนต์นั้นมีให้เลือก 3 แบบโดยเริ่มต้นกับ

– เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร Supercharger ให้กำลัง สูงสุด 203 แรงม้า (PS) ที่
5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 33.65 กก-ม. (330 นิวตันเมตร) ที่ 1,750 รอบ/นาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะลงล้อคู่หลัง

11-2017-alfa-romeo-giulia-geneva-1 12-2017-alfa-romeo-giulia-geneva-1

ตามมาด้วยเครื่องยนต์ดีเซลตัวแรก จากผู้ผลิตรายนี้ซึ่งเป็นแบบ 4 สูบแถวเรียง 2.2 ลิตรเทอร์โบ
ซึ่งมีให้เลือกกับ 2 ระดับความแรง

– แบบแรก Standard จะให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/ นาทีและแรงบิดสูงสุด
38.74 กก-ม. (380 นิวตันเมตร) ที่ 1,500 รอบ/ นาที

– แบบ High Power จะให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/ นาที และแรงบิดสูงสุด
45.88 กก-ม. (450 นิวตันเมตร) ที่ 1,570 รอบ/ นาที ทั้งคู่ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
หรืออัตโนมัติ 8 จังหวะลงล้อคู่หลัง

hp-1_0_0_0

สำหรับรุ่นสุดท้ายซึ่งสงวนไว้ให้ Quadrifoglio ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 2.9 ลิตรเทอร์โบคู่พร้อม
เทคโนโลยีจาก Ferrari ให้กำลังสูงสุด 517 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/ นาทีและแรงบิดสูงสุด
61.18 กก-ม. (600 นิวตันเมตร) ที่ 2,500-5,000 รอบ/ นาทีส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ ชั่วโมงใน 3.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 306 กิโลเมตร/ ชั่วโมง
ซึ่ง Alfa Romeo แจ้งว่ารุ่นย่อยรุ่นนี้ทำเวลาต่อรอบ Nurburgring ไว้ที่ 7:39:00 นาทีอันเป็นเวลา
ที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์ 4 ประตู

hp3_0_0

มีอีก 2 สิ่งที่ Alfa Romeo นั้นภูมิใจนำเสนอคือการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังเพราะทุกรุ่นย่อยนั้นล้วนมี
อัตราการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 และตัวถังมีน้ำหนักเบาเพราะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้นหนักเพียง
1,374 กิโลกรัมในขณะที่รุ่น Quadrifoglio นั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ 1,524 กิโลกรัมเท่านั้น Alfa Romeo Giulia
จะเปิดให้จองในตลาดยุโรปตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนเป็นต้นไปพร้อมสีสันตัวถังละลานตาถึง 13 เฉดสีและ
การตกแต่งภายในอีก 18 แบบสำหรับราคานั้นยังไม่เป็นที่เปิดเผยในขณะนี้

.

ที่มา/ ภาพ : autoblog, autoexpress