ได้เวลาเปิดเผยอย่างเป็นทางการเสียทีกับตัวแทนของ Q37 ในชื่อ Q60 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตแบบ 2+2 ที่นั่ง
สำหรับตลาดบนซึ่งนับว่าคุ้มค่าสมการรอคอยหลังจากที่เผยโฉมต้นแบบครั้งแรกในปี 2008 ภายนอกนั้น
เอาใจหลักพลศาสตร์สุดๆกับค่า cd เพียง 0.28 อันเนื่องมาจากงานออกแบบตัวถังและกระจังหน้าแบบ
Active Grille Shutter ซึ่งติดตั้งมาให้ในทุกคันโดยที่มักจะปิดอยู่เสมอนอกจากคนขับเค้นกำลังสูงสุด
กระจังหน้าถึงจะเปิดเพื่อระบายอากาศ
ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ LED พร้อม Light Guide หน้าตาเหมือนตาคนทั้งคู่ ส่วนเส้นสายหลังคานั้นค่อน
ข้างชันในขณะที่ฝาท้ายนั้นมีสปอยเลอร์ในตัวลงมาที่กันชนก็จะพบกับท่อไอเสียปลายกลมออก 2 ข้างพร้อม
ชายกันชนสีดำตัดสีตัวถัง ส่วนล้อที่ใส่มานั้นมีขนาด 19 นิ้วเป็นมาตรฐานแต่มีแบบ 20 นิ้วให้เลือกในรุ่น Select
Sport ซึ่งล้อหลังไม่ได้โตขึ้นอย่างเดียวแต่ยังกว้างขึ้นเพื่อการยึดเกาะถนนที่ดีกว่าอีกด้วย
ภายในนั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบโดยที่รุ่นมาตรฐานนั้นใช้อะลูมิเนียมในการตกแต่ง ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็น
ไม้สีดำได้ ส่วนรุ่นที่หรูขึ้นมาอย่าง Sport และ Premium นั้นจะหันมาใช้คาร์บอนไฟเบอร์พร้อมกับเบาะ
หนังให้เลือกหลายสีสันทั้งขาวและแดงและยังใช้ไฟเบอร์สีเงินในการตกแต่งภายในด้วย ระบบเครื่องเสียง
นั้นมาพร้อมกับลำโพง 13 ตัวจาก Bose และยังมีระบบ Infiniti InTuition ซึ่งเป็นการตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆ
สำหรับคนขับแต่ละคน ไม่ต้องมานั่งปรับทุกครั้งที่ขึ้นรถ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ, ตำแหน่งเบาะ, การตั้งค่า
เครื่องเสียง, และระบบนำทาง
เครื่องยนต์นั้นมีให้เลือก 2 แบบพร้อมกำลัง 3 ระดับเริ่มต้นที่เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบให้กำลังสูงสุด
211 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 35.69 กก-ม. (350 นิวตันเมตร) ตามมาด้วยเครื่องยนต์ตัวใหม่ V6 3.0
ลิตรเทอร์โบคู่โดยที่พี่รองนั้นให้กำลังสูงสุด 304 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 40.78 กก-ม. (400 นิวตันเมตร)
และรุ่นท็อปสุดที่ยังใช้เครื่องยนต์ตัวเดิมแต่ให้กำลังสูงสุดมากขึ้น 405 แรงม้า (PS) ที่ 6,400 รอบ/ นาที
และแรงบิดสูงสุด 48.43 กก-ม. (475 นิวตันเมตร) ที่ 1,600-2,500 รอบ/ นาที
ทั้งหมดทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะส่งกำลังลงล้อคู่หลังซึ่งมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือกด้วย
ซึ่งในอย่างหลังนั้นปกติจะถ่ายถอดกำลังล้อหน้า:หลังในอัตราส่วน 50:50 แต่สามารถตั้งค่าให้ส่งกำลัง
ลงล้อคู่หลังแบบเต็มร้อยได้ด้วย สำหรับลูกค้าเครื่องยนต์ V6 จะได้ลูกเล่นปรับการทำงานของพวงมาลัย
ได้ถึง 6 แบบได้แก่ Standard, Snow, Eco, Sport, Sport+, และ Customize และยังมีช่วงล่างแบบ
Dynamic Digital Suspension สำหรับลูกค้าในรุ่น Sport ซึ่งจะปรับค่าความแข็งด้วยระบบไฟฟ้าเมื่อ
คนขับกดปุ่ม Sport และ Sport+
จนแล้วจนรอด Infiniti ยังไม่เปิดเผยราคาของตัวเลขสมรรถนะและราคาของ Q60 และแจ้งเพียง
แค่ว่าพร้อมออกขายในฤดูร้อนปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนคู่แข่งนั้นมีทั้ง BMW 4 Series, Cadillac ATS
Coupe, Mercedes-Benz C-Class Coupe, Audi A5, และ Lexus RC ที่พึ่งเผยโฉมในงานเดียวกัน
ที่ Detroit Auto Show นั่นเอง