กลับมาอีกครั้งกับมหกรรมงานจัดแสดงยานยนต์ซึ่งจัดโดยบริษัทสื่อสากล ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-11 ธันวาคม 2017 ท่านที่สนใจมาร่วมชมงานในวันธรรมดา ท่านสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ จะเปิดเร็วขึ้นเป็น 11.00 น. และเลิกงาน ในเวลา 22.00 น. ของทุกวัน
สำหรับงาน Motor Expo ในปี 2017 นี้ ใช้ธีมประจำงานว่า “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง – New Age Vehicles.. A Distant Dream comes true”
ในปีนี้ แม้ว่าเราจะผ่านช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกในเดือนตุลาคมมาอย่างลำบากยิ่ง…แต่ในหลายส่วนฝ่ายก็ได้ตระหนักถึงการทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ บริษัทรถยนต์..กลับมาลุยงาน เปิดตัวรถใหม่กันอย่างเต็มรูปแบบชนิดไว้ลายส่งท้ายปี และสื่อมวลชนทั้งหลายก็เตรียมพร้อมรายงานข่าวกันอย่างสุดความสามารถโดยใช้สื่อหลากรูปแบบไม่ว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์หรือกระดาษ ทุกคนล้วนทำงานแข่งขันกันอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ผู้บริโภคปลายทางมีความสุขกับการรับข่าวสารและเลือกซื้อรถมาเป็นขวัญใจคันใหม่ของครอบครัว
อย่าลืมติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากทางเพจ Headlightmag ใน Facebook เพราะนอกจากจะมีบทความนี้แล้ว ทางคุณหมู ธีรพัฒน์ ยังได้ทำกระทู้เจาะลึกสำหรับรถรุ่นต่างๆ และมีรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับรถบางรุ่นที่คุณอาจสนใจเป็นพิเศษ
ติดตาม-เตรียมชม-เตรียมเงิน-ขอวีซ่าภรรยา แล้วก้าวเดินไปข้างหน้ากับเราได้เลยครับ!
ASTON MARTIN
ถึงไม่หล่อแบบ 007 แต่มี DB11 ก็เผ็ดสะใจ
บูธของ Aston Martin ส่งรถมาโชว์หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Vanquish Coupe สปอร์ต GT รุ่นเรือธงของค่ายที่จำหน่ายมาได้พักใหญ่แล้ว และ Rapide ซีดานที่ทรงแหลมลิ่มทิ่มประตูยิ่งกว่ารถสปอร์ตอีกหลายคัน แต่ดาวเด่นของงานนี้ คือคันกลาง
DB11 เป็นรถ GT Coupe แบบ 2+2 ที่นั่งซึ่งเผยโฉมมาตั้งแต่ปี 2016 และเป็นผลิตผลแรกที่เกิดมาจากความร่วมมือของ Aston Martin กับ Daimler A.G (Mercedes-Benz และ AMG) บอดี้ภายนอก เปลี่ยนสไตล์สามเหลี่ยมคมๆจาก DB9 ในยุคก่อน มาเป็น Design Language ใหม่โดย Marek Reichman
แต่เดิมนั้น DB11 จะมีเครื่องยนต์ V12 5.2 ลิตร ทวินเทอร์โบ 608 แรงม้า (PS) อยู่แล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดตัว DB11 V8 เพิ่ม ซึ่งแม้จะเปลี่ยนมาใช้ขุมพลัง V8 วางเทอร์โบคู่ไว้ตรงกลางระหว่างแบงก์ลูกสูบ ความจุ 4.0 ลิตร 510 แรงม้า (PS) อัตราเร่งบนทางตรงและความเร็วปลายจะช้ากว่ารุ่น V12 ลง แต่การที่น้ำหนักตัวลดลงมา 115 กิโลกรัม เหลือ 1,760 กิโลกรัม ทำให้อัตราส่วนการกระจายน้ำหนักเปลี่ยนจาก หน้า/หลัง 51 : 49 เป็น 49 : 51 ส่งผลให้มีความคล่องแคล่วในโค้งและขับสนุกยิ่งขึ้น
DB11 ทั้ง 2 รุ่น ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF สนนราคาของรุ่น V8 อยู่ที่ 19,990,000 บาท
AUDI
ผงาดเต็มพิกัด จัดเต็มอัตรา Sportback A5 แวก้อนมืดซ่า A4
Audi Thailand ภายใต้การดูแลของผู้แทนจำหน่ายรายใหม่ Meister Technik รุกตลาดเต็มที่หลังจากเริ่มต้นโดยการนำเข้าบางโมเดลและได้รับการตอบสนองที่น่าพึงพอใจจากลูกค้า โดยตลอดปีที่ผ่านมาก็ได้มีการเสริมทัพด้วยโมเดลใหม่อย่าง Q5 และรุ่นย่อยใหม่ๆ ที่ปรับราคาและสเป็คให้เหมาะกับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม
คันที่รอต้อนรับอยู่หน้าบูธ คือ R8 Coupe V10 นั้น แม้จะเปิดรับจองมานานตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ก็ยังคงความเด่นโดยถือเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นสูงสุดของค่าย ใช้เครื่องยนต์ V10 5.2 ลิตร พื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกับ Lamborghini Huracan ปรับจูนแรงม้าลดลงเหลือ 540 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ S Tronic 7 จังหวะ ไปสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตั้งราคาเอาไว้ที่ 18,999,000 บาท
A5 Sportback เป็นรถคูเป้ 5 ประตูหลังคาเตี้ยลาด เน้นด้านรูปทรงที่ดูโฉบเฉี่ยวมากกว่า A4 Saloon ฝากระโปรงท้ายเปิดยาวกินบริเวณกระจกบานหลังแบบรถแฮทช์แบ็ค มีให้เลือก 2 รุ่น คือ A5 Sportback 40TFSI 2.0 ลิตรเบนซินเทอร์โบขับเคลื่อนล้อหน้า 190 แรงม้า ราคา 3,299,000 บาท และรุ่น A5 Sportback 45TFSI Quattro S-Line 2.0 ลิตรเบนซินเทอร์โบขับเคลื่อนสี่ล้อ 252 แรงม้า พร้อม ช่วงล่างสปอร์ต ล้ออัลลอย 19 นิ้ว หลังคา Panoramic Sunroof เบาะหน้าหุ้มหนัง Fine Nappa และเครื่องเสียง Bang & Olufsen ราคา 4,299,000 บาท
อ่านรายละเอียดอุปกรณ์มาตรฐานและสีที่มีให้เลือก คลิกที่นี่
A4 Avant 45TFSI Quattro S-Line Black Edition รถแวก้อนแบบครอบครัว ที่ตกแต่งรูปลักษณ์จนดูดุดันเป็นสปอร์ตแวก้อน ใช้ขุมพลัง 2.0 ลิตรเทอร์โบ 252 แรงม้าพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่งกำลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ S-Tronic 7 จังหวะเช่นเดียวกับ A5 Sportback 45TFSI ตกแต่งภายนอกด้วยล้ออัลลอย Audi Sport ลาย 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว สี Titanium แบบด้าน หลังคากระจก Panoramic Sunroof เบาะหน้าหุ้มหนัง Fine Nappa เครื่องเสียง Bang & Olufsen และฝากระโปรงท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า มีภายในสีดำเพียงสีเดียว ตั้งราคาไว้ 3,249,000 บาท (แพงกว่า A4 ซาลูน 252 แรงม้า 100,000 บาท)
อ่านรายละเอียดอุปกรณ์มาตรฐานของ A4 Avant Black Edition คลิกที่นี่
TTS เสริมไลน์สำหรับคนที่รักความแรงมากกว่าปกติจากรุ่น TT และมาพร้อมกับล้ออัลลอยที่ไม่ต้องไปเปลี่ยนก็สวย พละกำลัง 286 แรงม้า มาจากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบที่ได้รับการปรับจูนใหม่ ส่งกำลังผ่านเกียร์ S tronic 6 จังหวะสู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro ตั้งราคาไว้ที่ 4,599,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการแนบเอกสารมาฝากสื่อฯบอกให้แฟนๆ Audi ได้ทราบด้วยว่าในช่วงนี้จะมีการปรับสเป็คและราคาอีกหลายรุ่น อาทิเช่น A4 4 ประตู รุ่น 45TFSI 252 แรงม้า จะเพิ่มหลังคาซันรูฟ (แบบปกติ ไม่ใช่ Panoramic) และเปลี่ยนล้อเป็น 19 นิ้ว แต่ปรับราคาลง 150,000 บาท เหลือ 2,999,000 บาท และ Q7 รุ่น 2.0 ลิตร 40TFSI 252 แรงม้า จะเปลี่ยนชุดเครื่องเสียงเป็นแบบธรรมดา (ไม่ใช่ BOSE) แต่ก็ลดราคาลงเหลือ 4,299,000 บาท เป็นต้น
BMW/MINI
เลือกตามอัธยาศัย โมเดลใหม่ รุ่นย่อยใหม่ และ..i8 สีใหม่
รถแทบจะทุกรุ่นที่มีขาย เอามาให้ลูกค้าชมหมด ไม่ว่าจะไป X1, X4 รวมไปถึง 330e Iconic รถถ่าน 252 แรงม้าที่นับเป็นรถเสียบปลั๊กราคาถูกสุดของเซกเมนต์ และยังมี BMW i8 Pure Impulse สีเหลืองด้านราคา 12,389,000 บาท (Standard BSI) มาให้เลือก (มอเตอร์โชว์ทุกงานเราจะได้เห็น i8 สีใหม่ๆไปตลอดจนกว่าจะตกรุ่น..คาดว่านะครับ แต่อย่างไรก็ตาม เก็บ i8 ไปก่อนเพราะงานนี้ BMW มีรถใหม่ที่ถูกกว่า 12 ล้าน และน่าสนใจไม่แพ้กัน
630d Gran Turismo M Sport ภาพลักษณ์ใหม่ของซีรีส์ 6 ซึ่งจากเดิมจะมีแต่รถคูเป้ 2 และ 4 ประตู คราวนี้เปลี่ยนผันไปเป็นบอดี้ฐานล้อยาวแฮทช์แบ็ค..ซึ่งจะว่าไปก็คือเอามาทำตลาดแทน 5 Gran Turismo เดิมนั่นล่ะ เห็นทรงดูเปรียวๆอย่างนี้ ฐานล้อยาวกว่าซีรีส์ 5 และในขณะที่เจ้า 5 นั้นไม่มีเครื่องหกสูบเรียงให้เลือก 630d มาพร้อมเครื่องดีเซลเทอร์โบหกเม็ด 3.0 ลิตร 265 แรงม้า 620 นิวตันเมตร แรงแทบลากบ้านได้ ตกแต่งแบบ M Sport มีล้อ 19 นิ้ว หลังคา Panoramic ประตูดูด จอ iDrive แบบเต็มพร้อมระบบสั่งการด้วยวิธีขยับมือ เครื่องเสียง Harman/Kardon จำหน่ายในราคา 4,739,000 บาท (BSI Standard)
ดูภาพ Official เพิ่มเติม และรายละเอียดอุปกรณ์มาตรฐาน คลิกได้นี่
X3 xDrive20d Highline รถนำเข้า ราคา 3,699,000 บาท (BSI Standard) เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรดีเซล B47 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ภายในตกแต่งแบบ Highline มีจอกลางขนาด 10.25 นิ้ว หน้าปัดแบบ Full TFT และมีหลังคา Panoramic roof มาให้
อ่านรายละเอียด ชมภาพ Official เพ่ิ่มเติมได้ที่นี่
ทางเลือกใหม่ของซีรีส์ 5 กับ 530e Plug-in Hybrid เปลี่ยนจากขุมพลังแบบปกติเป็น 2.0 ลิตรเบนซินเทอร์โบ 184 แรงม้า พ่วงมอเตอร์ 133 แรงม้า ทำให้ได้พลังร่วมกัน 252 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร มีให้เลือก 2 รุ่น คือ 530e Luxury ตกแต่งเน้นหรู ด้วยล้อ 18 นิ้ว ลายไม้ภายในแบบ Fineline และมีจอสำหรับเบาะหลัง ราคา 3,639,000 บาท และ 530e M Sport ล้อ 19 นิ้ว ชุดแต่ง M Sport รอบคัน มีจอ HUD ภายในตกแต่งด้วยวัสดุดำเงา ราคา 3,939,000 บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ 530e คลิกตรงนี้ครับ
M760Li สีด้าน เป็นรถตกแต่งสีพิเศษตามสไตล์ BMW Individual ภายนอกใส่ชุดแต่ง M Aerodynamics และล้ออัลลอย M ลาย Double spoke ขนาด 20 นิ้ว สปอยเลอร์ท้าย M ใช้เครื่องยนต์ V12 สูบที่ให้พลังแรงถึง 610 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทำให้เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาแค่ 3.7 วินาที ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 13,539,000 บาท
M2 LCI เป็นเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ของรถสมรรถนะสูงคันเล็กแต่แรง ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 3.0 ลิตร 370 แรงม้าแบบเดิม ไฟหน้าจะเปลี่ยนจากทรงกลมเป็นหกเหลี่ยม ราคาขายพร้อม BSI Standard เริ่มที่ 5,939,000 บาทเท่ากับรถรุ่นเดิม
M4 Coupe LCI ใหม่ เปลี่ยนไฟหน้าเป็นแบบหกเหลี่ยมแนวเดียวกับ 430i LCI ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้พลังสูงสุด 431 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ภายในมีเบาะนั่งแบบ M Sport บุหนังแท้ Merino และตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม พร้อมแถบโครเมียมสีดำ มีจอ HUD และเครื่องเสียง Harman Kardon ราคาจำหน่ายพร้อม BSI Standard อยู่ที่ 8,439,000 บาท
นอกจากรถรุ่นที่ได้กล่าวไปข้างบนแล้ว ก็ยังมีการนำ 320d Gran Turismo M Sport รุ่นย่อยใหม่ ตกแต่งด้วยชุดกันชนและชุดแต่งภายนอกสไตล์ M Sport เพิ่มล้ออัลลอย 19 นิ้ว และพวงมาลัยสามก้านทรงสปอร์ตที่แตกต่างจากอีกสองรุ่น สนนราคาอยู่ที่ 2,999,000 บาท เป็นรถประกอบในประเทศ
นอกจากนี้ก็ยังมี 330e Iconic ทางเลือกใหม่ราคา 2,259,000 บาท ตัดอุปกรณ์ออกจากรุ่น Luxury บางตัว ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังได้ช่วงล่าง พลังและระบบขับเคลื่อนแบบเดียวกัน พวงมาลัยทรงปกติ แต่ได้เบาะสีแดงแบบรุ่น M Sport ภายในตกแต่งสีเงินแบบ M Sport จอกลางขนาดเล็กเท่า 320d Iconic
โปรโมชั่นสำหรับ BMW ในงาน Motor Expo
BMW Freedom Choice เพิ่มความยืดหยุ่นมากกว่าสัญญาเช่าซื้อทั่วไป ดาวน์เริ่มต้น 15% และเปิดทางเลือกเมื่อสิ้นสุดสัญญา 4 แบบ คือส่งมอบรถคืน BMW Thailand ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องการขายต่อมือสอง หรือ ทำสัญญาใหม่กับ BMW คันใหม่ต่อ แต่ถ้าอยากจะเก็บรถไว้ใช้ ก็ชำระเงินก้อนสุดท้ายที่เหลือ และถ้าเงินมีเหลือไม่พอ ก็ขยายเวลาผ่อนชำระก้อนสุดท้ายนี้ออกไปได้สูงสุด 4 ปี
ส่วนฝั่ง MINI ก็ส่ง John Cooper Works Countryman มาเป็นรถใหม่ แข่งในกลุ่มอเนกประสงค์พรีเมียมขนาดกระทัดรัด แต่แฝงไว้ด้วยความซุกซนสไตล์ MINI ซึ่งอันที่จริงต้องบอกว่าไม่ใช่ซนธรรมดา เพราะมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALL4 และได้เครื่องยนต์รุ่นพิเศษที่ปรับจูนความแรงเพิ่มจาก 192 เป็น 231 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์ 8 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อม Paddleshift ภายนอกตกแต่งด้วยล้ออัลลอย JCW ขนาด 19 นิ้วและคาลิเปอร์เบรกสีแดง ราคาขายอยู่ที่ 3,548,000 บาท พร้อมแพ็คเกจ BSI เอ้ย โทษ MSI Standard)
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า MINI
ลูกค้าต้องจองภายในวันที่ 11 ธันวาคม และรับมอบรถภายในวันที่ 31 ธันวาคมเพื่อรับสิทธิประโยชน์ดังนี้
- รับฟรีเลย iPhone X กับลำโพงไร้สาย Harman Kardon Esquire Mini Wireless Bluetooth Speaker
- ฟรี MSI 3 ปีหรือ 60,000 กิโลเมตร และการรับประกันนาน 3 ปีพร้อม Mobility Service ระยะเวลา 5 ปี
CHEVROLET
อาจไม่คูลแบบ Hugo แต่ถ้าอยากดู Colorado ก็มาที่นี่
เลิกขายรถเก๋งไปแล้ว ก็เหลือแค่ปิคอัพ/PPV และ SUV ดังนั้นรถที่อยู่ในบูธก็จะมีแต่ Colorado, Trailblazer และ Captiva กับรถกระบะจากยุคพ่อยังไม่เกิด จอดเคียงข้างกันไป 2 คัน ส่วนรถที่ใหม่สุดสำหรับงานนี้ ก็น่าจะเป็น Colorado กระบะรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี “รถกระบะ Chev” (ไม่ใช่ 100 ปีของค่าย)
สิ่งที่รุ่นพิเศษ Centennial Edition ฉลองครบรอบ 100 ปี กระบะ Chevrolet ที่แตกต่างจากรุ่นปกติ คือ
- Logo โบว์ไท ด้านหน้า และ ด้านหลังรถ แบบพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี
- สัญลักษณ์ฉลองครบรอบ 100 ปี ที่ประตูคู่หน้า
- โรลบาร์สีดำเงา และ พื้นปูกระบะไลน์เนอร์ (เพิ่มมาใน รุ่น LTZ)
- คิ้วซุ้มล้อภายนอก 4 ล้อ สีดำ
- ล้ออัลลอย สีดำ ขนาด 18 นิ้ว
- สติ๊กเกอร์สีดำ ตกแต่งฝากระโปรงหน้า
- แผงประตูด้านหน้า ประทับหมายเลขพิเศษ Serial Number เฉพาะคัน
มีให้เลือกทั้งบอดี้แบบ X-Cab และ 4 ประตู C-Cab ราคาตั้งแต 814,000 บาท ไปจนถึง 1,103,000 บาท สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวรถทั้งหมดได้ คลิกที่นี่เลยครับ
โปรโมชั่นของ Chevrolet
ใช้ได้ที่ศูนย์บริการทั่วประเทศและในงาน Motor Expo โดยยึดถือโปรโมชั่นเดียวกัน
โปรพิเศษสำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
FORD
เข้าถึงป่าต้อง Ranger เข้าถึงเธอต้อง Everest
ยังไม่มีรถใหม่ในงานปีนี้ แต่ถ้าชอบ Ford ก็ยังสัมผัสกันได้กับ Ranger, Ranger Wildtrak, Everest, Focus และ Ecosport
โปรโมชั่นจาก Ford
- Ecosport รับข้อเสนอแรง YES-Year End Sale ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 60 เดือน
- Ranger รุ่น XLT และ Everest รุ่น Titanium 2.2 AT รับดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
FOTON
บรรทุกน้อย บรรทุกใหญ่ บรรทัดฐานใหม่ ที่แตกต่าง
รถกระบะก็ยังคงเป็นรุ่น Tunland ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่รุ่น Flatbed ราคา 546,000 บาท ไปจนถึงรุ่น 4×4 ราคา 826,200 บาท ส่วนรถตู้ที่ขาย ก็ยังมีรุ่น View CS2 เครื่องยนต์ดีเซล Cummins ของอเมริกา ขนาด 2.8 ลิตร 130 แรงม้า ราคา 899,000 บาท และมีรถบรรทุกเล็ก Aumark C4W และ C6W ราคาตั้งแต่ 650,000-750,000 บาท
โปรโมชั่นในงาน
- สำหรับ Foton Tunland ฟรีประกันภัยชั้น 1 ทั้งรุ่น Singlecab และ 4 ประตู
- Foton Tunland 4 ประตู ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.29% ฟรีค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลารับประกัน 5 ปี
- Foton Tunland Singlecab ฟรีค่าบำรุงรักษาตลอดระยะเวลารับประกัน 5 ปี
- View CS2 ฟรีประกันภัยชั้น 1 ดอกเบี้ยต่ำสุด 2.29%
HONDA
ศรีราชาคือซอสพริก แต่สีของวัยชิค ต้อง Rallye Red
เปิดตัวสีใหม่ให้กับ Civic โดยมีสีแดง Rallye Red เป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนเบื่อสีโทนขาว ดำ เกรย์สเกลทั้งหลาย แต่จะมีเฉพาะรุ่น 1.8EL และรุ่น 1.5 Turbo RS เท่านั้นที่สามารถสั่งสีนี้ได้ (รุ่นอื่น และตัว Hatchback คงต้องรอ หรือไม่ก็พวกเรานั่นแหละช่วยสร้างกระแสเรียกร้องให้ Honda เขาใจอ่อน)
ข้อเสนอพิเศษของ Honda ในงาน Motor Expo
- ออกรถ Honda รุ่นใดก็ได้ ในงาน รับกระเป๋าเดินทาง Samsonite ขนาด 29 นิ้ว มูลค่า 16,900 บาท
- ลูกค้าเก่าที่เคยมี Honda อยู่แล้ว รับสิทธิ์ลดดอกเบี้ยลง 0.15% จากเรตของลูกค้าทั่วไป
- Brio/Brio Amaze รับดอกเบี้ย 2.19% หรือแคมเปญ Honda ช่วยผ่อนเดือนละ 2,500 บาท 12 เดือน
- Honda City รับดอกเบี้ย 1.79%
- Jazz ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99%
- Mobilio ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99% หรือแคมเปญ Honda ช่วยผ่อน เดือนละ 1,000 บาท 12 เดือน
- Honda BR-V รับดอกเบี้ย 1.79% หรือแคมเปญ Honda ช่วยผ่อนเดือนละ 2,000 บาท 12 เดือน
- Honda HR-V ดอกเบี้ย 1.79% หรือแคมเปญ Honda ช่วยผ่อน เดือนละ 1,000 บาท นาน 12 เดือน
- Civic รับดอกเบี้ย 1.99%
- Accord/Accord Hybrid ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.19%
- CR-V ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99% พร้อมขยายวารันตี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากเดิมเพิ่ม 2 ปีหรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตรแล้วแต่อย่างใดถึงก่อน และ เลือกแพ็คเกจระหว่าง A) บัตรของขวัญโรงแรมเครือ Centara 5,000 บาท+ บัตรน้ำมัน 3,000 บาท+ บัตรรับประทานอาหาร MK 2,000 บาท หรือ B) รับบัตรน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท
HYUNDAI
H-1 บรรทุกเด็ก Grand Starex สำหรับผู้ใหญ่ มี Ioniq เสียบปลั๊ก อย่าลืมพักชมรถต้นแบบ
Hyundai จะเป็นหนึ่งในค่ายที่พยายามนำรถต้นแบบหรือรถเทคโนโลยีใหม่มาโชว์พลังสมองของทีมเกาหลีอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นเจ้า Ioniq Electric ในภาพนี้ เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อนโพลีเมอร์ จุไฟ 28kWh ซึ่งเมื่อชาร์จไฟจนเต็มแล้วสามารถวิ่งเป็นระยะทางได้มากกว่า 250 กิโลเมตร มีกำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 295 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถึงแม้จะมีหน้าตาแบบนี้ แต่ Ioniq เป็นรถที่จำหน่ายจริงมาได้พักใหญ่แล้ว ในต่างประเทศจะมีให้เลือกทั้งรุ่น Hybrid รุ่น Plug-in และ All Electric ซึ่งจะมีจุดต่างจากคันอื่นตรงที่ไม่มีกระจังหน้า ทางทีมวิศวกร Hyundai กำลังพยายามสร้างให้ Ioniq วิ่งได้ไกลขึ้นจาก 250 เป็น 320 กิโลเมตรภายในสิ้นปีหน้า
Hyundai RN30 รถต้นแบบของสายซิ่งที่ “ควร” จะนำมาผลิตขายจริงอย่างมาก ลองนึกถึงรถแฮทช์แบ็คขนาดกำลังเหมาะ ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 380 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 451 นิวตันเมตร แล้วยังมีระบบ eLSD (ลิมิเต็ดสลิปไฟฟ้า) ที่กระจายแรงขับไปสู่ล้อทั้งสี่ตามสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีความล้ำหน้าทางการสร้าง ด้วยการพัฒนาวัสดุพลาสติกความทนทานสูงมาใช้แทนวัสดุ CFRP ที่พบในบรรดาซูเปอร์คาร์ ทำให้น้ำหนักตัวเบากว่าปกติ
โปรโมชั่นพิเศษในงาน
- Hyundai H-1 ทุกรุ่น ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก ฟรี คูปองบำรุงรักษารถยนต์พร้อมค่าแรงและค่าอะไหล่นาน 1 ปี (ต้องจองภายในงาน Motor Expo เท่านั้น)
- Grand Starex ทุกรุ่น รับดอกเบี้ยพิเศษ เริ่มต้นที่ 0.99% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน หรือเลือกรับเงื่อนไขพิเศษอื่น โดยตกลงกันเองกับเจ้าหน้าที่ผู้ขาย
- Ioniq ไม่มีโปรโมชั่น เพราะมาโชว์ ยังไม่ได้มาขาย
ISUZU
เคียงข้างอย่างฉันมิตร แซยิดอย่างยืนยง ซื่อตรงต่อสิ่งนั้น
เป็นค่ายที่ไม่ต้องกลัวว่าเปิดงานมอเตอร์โชว์มาจะต้องนั่งเขียนรายละเอียดรถใหม่หลายๆรุ่น เพราะเปิดมาก็จะเจอแต่พี่ก้อง เอ้ย! MU-X กับ D-Max อยู่แล้ว แต่งานนี้ Isuzu บอกว่าขอแค่มี D-Max ไมเนอร์เชนจ์ก็มั่นใจแล้วว่าตำแหน่งแชมป์ยอดขายรถกระบะมาแบบใสๆ
D-Max ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร ที่มีการปรับปรุงย้ายตำแหน่งปั๊มเพาเวอร์เพื่อลดเสียงรบกวนในการทำงาน และ 3.0 ลิตรบล็อคโตสายโมฯชื่นชอบ ไฟหน้าเปลี่ยนใหม่ มีคิ้วโครเมียมคาดแล้วชี้หางคิ้วขึ้นบนดูคล้ายหนวดกุ้งมังกร แต่พอมาดูภายในแล้วยิ่งกว่า เพราะมีการใช้วัสดุนุ่มบุเพิ่มในหลายจุด เรียกได้ว่าขนาดรถรุ่น Spacecab 1.9 ธรรมดาๆยังตกแต่งมาดูดีใช้ได้ สนนราคาเริ่มตั้งแต่ 497,000 ไปจนถึง 1,099,000 บาท
ชมภาพ Official ราคาขายแต่ละรุ่น และอุปกรณ์ต่างๆ คลิกที่นี่
โปรโมชั่นของ Isuzu
- สำหรับผู้ที่จองซื้อรถในงาน Motor Expo สำหรับสิทธิ์ลุ้นทองคำและบัตรน้ำมันฟรี
- หรือรับบัตรน้ำมันพันบาทฟรีแบบไม่ต้องลุ้น ถ้าจองและทำสัญญาเช่าซื้อผ่าน Isuzu Leasing
- โปรฯดอกเบี้ย 1.30% สำหรับ Isuzu MU-X
JAGUAR/LAND ROVER
Velar ล้ำแต่แพง สวยและแรงต้อง F-type
สำหรับฝั่ง Land Rover ก็ยกทัพบรรดาขับสี่มาให้ดูกันพร้อมหน้า แต่ตัวเด็ดของค่าย คือ Velar SUV ที่เกิดมาสอดตรงกลางระหว่างรุ่นเล็กอย่าง Evoque และรุ่นไม่ค่อยเล็กอย่าง Range Rover Sport รถที่นำมาโชว์คันนี้คือรุ่น Velar 2.0 S R-Dynamic สี Firenze Red มาพร้อมล้อ 21 นิ้วและอุปกรณ์ทันสมัยอย่างหน้าปัดจอ TFT และเครื่องเสียง Meridian มีหลังคากระจก Panoramic แบบติดตายตัว ราคา 6,499,999 บาท (พิมพ์ไม่ผิด หกล้านห้าทอน 1 บาทจริงๆ)
สำหรับฝั่ง Jaguar นั้น นอกจากจะมีรถซาลูนของทางค่ายมาโชว์แล้ว ตัวที่จัดว่าเด็ดสุดคือ Jaguar F-Type Coupe รุ่นพิเศษ 400 Sport AWD ขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งจุดแตกต่างระหว่างรุ่นปกติกับรุ่นนี้ ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ รุ่นปกติจะใช้เครื่องยนต์ V6 ซูเปอร์ชาร์จ 340 แรงม้า แต่ 400 Sport จะได้เครื่องยนต์ที่เอามาจากรุ่น S และปรับจูนพลังจนไปจบที่ 400 แรงม้า ภายในมีการแซมวัสดุตัดเย็บสีเหลือง และใช้เบาะที่โครงทำมาจากแม็กนิเซียม จึงจะเบากว่าเบาะรุ่นปกติ 8 กิโลกรัม ราคาของรุ่น 400 Sport อยู่ที่ 11,999,000 บาท ส่วนรุ่นคูเป้ 340 แรงม้าราคา 8,999,000 บาท และรุ่น R-Dynamic 340 แรงม้า เปิดประทุน ราคา 9,999,000 บาท
ข้อเสนอพิเศษในงาน Motor Expo
Jaguar และ Land Rover ทุกรุ่น (ยกเว้น Velar) รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน พร้อมแคมเปญ Worry-free รับประกัน 5 ปี ซ่อมบำรุงฟรี 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 5 ปี
KIA
เยอรมันจับมือเกาหลี ขับหลังพลังดี มีล็อครอบออกตัว
อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีรถให้เขียนถึงมากกว่าแค่ขนมปังฮิพฮอพอย่าง Soul เพราะเราเองก็ไม่คาดฝันมาก่อนหน้านี้ว่า Kia ประเทศไทยจะกล้านำเข้าซาลูนขนาดใหญ่ไซส์เดียวกับซีรีส์ 5 อย่าง Stinger มาขาย แม้จะเป็นรุ่น 2.0 ลิตร 4 สูบ แต่ก็ติดตั้งเทอร์โบชาร์จทำกำลังจนได้มากถึง 255 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ตั้งราคาไว้ 2,990,000 บาท
Soul EV ภาคต่อของ Soul รถทรงกล่องขวัญใจวัย Hip แต่เปลี่ยนขุมพลังขับเคลื่อนมาเป็นไฟฟ้า ใช้มอเตอร์กำลังสูงสุด 81.4 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 285 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไออ้อนโพลิเมอร์ ความจุไฟ 30kWh วิ่งได้ไกล 250 กิโลเมตร มีอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานครบครัน จำหน่ายในราคา 2,297,000 บาท
โปรโมชั่นสำหรับ Kia ในงาน Motor Expo
สำหรับรถตระกูล Grand Carnival ได้วารันตี 5 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร ช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี ฟรีประกันภัยชั้น 1 ปีแรก และรับรถภายในสิ้นปี ได้บัตรเติมน้ำมัน 5,000 บาท และเลือกรับเพิ่มระหว่าง A) ซ่อมบำรุงระยะ 30,000 กิโลเมตร+ฟรีบันไดข้างติดตั้งจากเกาหลี หรือ B) ฟรีดอกเบี้ยผ่อนชำระในปีแรก
MASERATI
รถหรูย่อมแพง แต่หรูสวยแรงต้องมาเซอ
มีทุกสิ่งให้เลือก ตราบใดที่เป็นโลโก้อาวุธคู่กายโปไซดอน เริ่มตั้งแต่รถสปอร์ตซาลูนอย่าง Ghibli และตัวหรูของค่ายอย่าง Quattroporte ไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 9,890,000 บาทกับรุ่นดีเซล และจบที่ 17,890,000 บาทกับรุ่น GTS 3.8 ลิตร V8 ทวินเทอร์โบ 530 แรงม้า เป็นอีกซาลูนคันนึงที่สามารถทำความเร็วทะลุ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ ส่วน Maserati Gran Turismo Sport นั้น ถึงแม้จะทำตลาดด้วยบอดี้นี้มา 10 ปีแล้ว แต่ถ้าคุณต้องการรถสไตล์ GT เครื่อง V8 เสียงดุดันสไตล์อิตาเลียน ชนิดที่ไม่ถูกกรองความลั่นด้วยการใช้เทอร์โบ นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณแล้ว กับพลัง 4.7 ลิตร 460 แรงม้า ราคา 15,500,000 บาท
สำหรับรถใหม่สุดในงานนี้ของ Maserati ก็เห็นจะเป็น SUV ตัวแรงอย่าง Levante S GranSport ซึ่งใช้เครื่องยนต์ F160 3.0 ลิตร V6 เบนซินทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงถึง 430 แรงม้า ราคา 12,490,000 บาท จัดว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งที่มาเสริมทัพให้ค่ายนี้มีรถที่เหมาะกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าหลากรสนิยมมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ Levante ที่ขายจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 275 แรงม้า ราคา 7,990,000 ในรุ่น Base และ 8,390,000 บาทในรุ่น GranLusso
สำหรับการตกแต่งแบบ GranSport นั้นจะเน้นภายในสีเข้มและดูสปอร์ตสมชื่อ ในขณะที่ GranLusso จะเน้นความหรูหราแบบผู้ใหญ่มากกว่า
MAZDA
CX-5 ใหม่จริง ทิ้งโค้งแม่น แล่นตามสั่ง เบาะหลังแม่ไม่ด่า
มี CX-5 ใหม่ ซึ่งเพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อ 13 พฤศจิกายน มางานนี้พร้อมกับป่าวประกาศว่าเปิดตัวมาแค่ครึ่งเดือนยอดจองทะลุ 1,500 คันไปเรียบร้อยแล้ว ใน CX-5 ใหม่นี้ แม้จะใช้เครื่องยนต์รุ่นเดิม แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดบางจุดภายในเครื่องเพื่อให้มีเสียงการทำงานเงียบลง เปลี่ยน Body panel ภายนอกยกชุดใหญ่ ปรับเลื่อนตำแหน่งเสาหลังคา และทำตัวถังเตี้ยลงแต่กลับมีพื้นที่ภายในโปร่งโล่งสบายกว่าเดิม และที่สำคัญคือเบาะหลังนั่งสบายขึ้นกว่าเดิมแบบรู้สึกได้
Mazda CX-5 มีให้เลือก 5 รุ่น กับ 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ ทั้งเบนซิน 2.0 ลิตร 165 แรงม้าขับเคลื่อนล้อหน้า และ 2.2 ลิตรดีเซล 175 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า/ขับเคลื่อน 4 ล้อ สนนราคาเริ่มต้นที่ 1,290,000 บาท ไปจนรุ่นท้อป 2.2 XDL AWD 1,770,000 บาท รุ่นท้อปสุดของเครื่องเบนซิน (2.0SP) และดีเซล (2.2XDL 4WD) มาพร้อมระบบเรดาร์ครูสคอนโทรล (MRCC)
อ่านบทความ รีวิว CX-5 (First Impression) คลิกที่นี่
ดูรายละเอียดอุปกรณ์ ราคา แต่ละรุ่นย่อยของ CX5 คลิกที่นี่
โปรโมชั่นพิเศษของ Mazda สำหรับงาน Motor Expo
- Mazda 2 – วางดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.69% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
- Mazda 3 – เงินดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.33% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1
- Mazda CX-3 – ดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.33% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1
- Mazda BT-50 Pro ดาวน์เริ่มต้นเพียง 30,000 บาท หรือรับดอกเบี้ยต่ำสุด 2.60% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร
- Mazda CX-5 โฉมใหม่ล่าสุด ดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปีหรือ 60,000 กิโลเมตร
- Mazda MX-5 ดาวน์ 25% รับดอกเบี้ยต่ำสุด 2.15% ฟรีประกันภัยชั้น 1 และโปรแกรมรับประกันคุณภาพนาน 5 ปีหรือ 140,000 กิโลเมตร
MERCEDES-BENZ
ไฮบริดมากมี S350dเลิศล้ำ Maybach อยากคลำแต่น่าจดจำต้อง AMG
ปีนี้ถ้าใครชอบรถแปลกรถแรงจากค่ายดาวสามแฉกก็ไม่น่าผิดหวัง คนที่ชอบสปอร์ตซาลูนหน้าตาเรียบร้อยแต่หมัดหนักอย่าง E63S สามารถสั่งจองรถได้ในแบบ Special Order (ไม่มีการประกาศราคา แต่อยากได้บริษัทก็จัดให้) แต่ถ้าหากคุณพบว่าการขับรถที่ทรงเหมือนชาวบ้านนั้นผิดกฎของตระกูล ก็ไม่ต้องห่วงเพราะมี AMG GT Facelift ที่มาเปิดตัวใหม่ 2 รุ่น
Mercedes-AMG GT C Roadster – ถ้าคุณยังจำกันได้กับซูเปอร์คาร์สีกล้วยหอมแสบที่ครองสถิติความเร็วทุกหัวข้อของเว็บเราอย่าง GT S ก็คงไม่ต้องอธิบายมาก GT C ก็คือเวอร์ชั่นหลังคาอ่อนเปิดประทุนได้ เครื่องยนต์ M178 DE40 V8 4.0 ลิตร วางเทอร์โบคู่ไว้ระหว่างฝาสูบสองฝั่งเหมือนกัน ใช้อ่างน้ำมันเครื่อง Dry-sump แบบรถแข่งเหมือนกัน แต่ในกรณีของ GT C จะได้รับการปรับจูนเพิ่มกำลังจาก 522 เป็น 558 แรงม้า (PS) ส่งกำลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ AMG Speedshift DCT 7 จังหวะ ตั้งราคาเริ่มต้นเอาไว้ที่ 16,800,000 บาท ซึ่งราคานี้จะไม่รวมของแต่งอย่างที่เห็นในรถโชว์ เช่นล้ออัลลอยฟอร์จราคาประมาณ 150,000 และสีพิเศษ 100,000 บาท ถ้าจะเอารถสเป็คตามคันที่โชว์เลย ก็ประมาณ 17.49 ล้านบาท
แต่ถ้าอยากได้ที่สุดของความแสบ คุณต้องเจอเพ็ดดีกรีถอดแบบจากรถสนามอย่าง Mercedes-AMG GT R ซึ่งเป็นบอดี้หลังคาแข็ง 2 ประตู ปรับจูนเครื่องยนต์จนได้กำลังเพิ่มเป็น 585 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดมากถึง 700 นิวตันเมตร มีเบาะนั่งแบบ AMG Sport Bucket Seat ภายนอกมีหางหลังทรง GT-wing และล้ออัลลอยแบบฟอร์จของ AMG ลาย 10 ก้าน ล้อหน้า 19 นิ้ว ล้อหลัง 20 นิ้ว ราคาเริ่มต้น 17,400,000 บาท ซึ่งอย่างที่บอกว่าเป็นราคาเริ่มต้นครับ ถ้าจะเอาแบบไอ้กล้วยดิบคันที่เห็นในภาพนี้ คุณต้องเพิ่มค่าล้อ (สีพิเศษ) 140,000 บาท ทำสีเขียวอย่างนี้ 520,000 บาท เบรกตัวท้อป 570,000 บาท และชุดแต่ง Carbon Fiber Package II มีกระจกมองข้างกับหางหลังคาร์บอน 260,000 บาท ทำไปทำมาจะจบที่ 19.43 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดอุปกรณ์และชมภาพ Official ของ GT C และ GT R ได้ คลิกที่นี่
สำหรับเศรษฐีที่ชื่นชอบการนั่งเบาะหลัง และต้องการบางสิ่งที่เหนือกว่า S-Class ทาง Mercedes-Benz ก็มีรถหรูแบรนด์ในเครือ อย่าง Maybach S560 Premium ซึ่งมอบความสบายด้วยฐานล้อที่ยาวกว่า S-Class ไปอีกถึง 200 มิลลิเมตร เพิ่มอุปกรณ์ภายในและปรับวัสดุตกแต่งให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก ทางด้านขุมพลังนั้น มีการปรับลดความจุจาก 4.7 ลงมาเหลือ 4.0 ลิตร ใช้เครื่องแบบเดียวกันกับ C63 และ E63 (469 แรงม้า) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 G Tronic ภายนอกของสเป็คไทย จะได้ล้อฟอร์จ 20 นิ้วลายกึ่งๆอารมณ์ DTM มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาถูกแสนถูก แค่ 17,440,000 บาท
ดูรายละเอียดและรูปเพิ่มเติมได้ที่นี่
แต่ Maybach 17 ล้าน…อาจจะแพงไปสำหรับหลายๆคน ดังนั้น เรากลับมาซบ S-Class กันดีกว่า
หลังจากทำตลาดด้วย S500e Plug-in Hybrid มาสักพัก พอ Mercedes-Benz ทำการไมเนอร์เชนจ์ให้กับ S-Class โฉมใหม่ กลับตัดรุ่น S500e ออก แล้วทำตลาดด้วยรุ่นดีเซลเพียวๆไร้มอเตอร์อย่าง S350d แทน รถรุ่นใหม่นี้ใช้เครื่องยนต์ OM656 ซึ่งเป็นบล็อคใหม่ล่าสุดแบบ 6 สูบเรียง ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร (จริงๆคือ 2,927 ซี.ซี. น่าจะปัดเศษลงเป็น 2.9) ให้พลัง 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ลดลงจากสมัย S500e (442 แรงม้า/650 นิวตันเมตร) แต่น่าจะโดนใจเศรษฐีต่างจังหวัดที่รวยชนิดคนเมืองหลวงอาย แต่ชื่นชอบรถดีเซลที่ไม่ซับซ้อนแบบไฮบริด
S350d รุ่นที่ทำมาจำหน่าย ตกแต่งมาในแบบ AMG Premium พร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ชุดแต่งรอบคัน AMG Style ช่วงล่าง AIRMATIC มีหลังคา Panoramic Glassroof เบาะนั่งภายในหุ้ม Nappa พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิที่ตัวเบาะหน้าและหลัง พร้อมฟังก์ชั่นนวด 6 โหมดสำหรับเจ้านายบนเบาะหลัง อยากเป็นเจ้าของ? ก็เตรียมเงินไว้ 7,640,000 บาทครับ
อ่านรายละเอียดอุปกรณ์มาตรฐานทั้งหมดของ S350d AMG Premium คลิกที่นี่
สำหรับคนที่ชื่นชอบการสัมผัสลมทะเล E300 Cabriolet AMG Dynamic ก็น่าสน รถรุ่นนี้จะใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ 245 แรงม้ากับเกียร์ 9 จังหวะแบบเดียวกับ C300 Cabriolet แม้แต่หน้าตาภายนอกก็ดูเกือบเหมือนกัน โครงสร้างพื้นฐานแพลทฟอร์ม MRA เหมือนกัน แต่ E300 จะมีขนาดโตกว่า (เพราะสตาร์ทจากตัวถัง MRA ขนาดกลางของ E-Class Saloon แทนที่จะเป็น C) นอกจากนี้ เพื่อให้ดูคุ้มกับการที่แพงกว่า C300 เกือบล้าน จึงต้องจัดออพชั่นมาให้เต็มขั้น ทั้งล้อ 19 นิ้ว Keyless Go มีหน้าปัดแบบ TFT ยกแผงแบบ E-Class ตัวท้อป และมีเครื่องเสียง Burmester Sound System ให้ ถ้าคุณพอใจจะจ่าย 5,190,000 บาท
ดูรายละเอียดอุปกรณ์มาตรฐานทั้งหมดได้ที่นี่
แคมเปญ Motor Expo
- ซื้อ C350e รุ่นไหนก็ได้ รับ iPhone X 1 เครื่องและประกันภัยชั้น 1 ปีแรก (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
- จองรถโดยใช้บัตร MercedesCard รับเครดิตยอดเงินคืนสูงสุด 6,000 บาท พร้อม VIP Code JOOX Music สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถและรับรถภายใน 31 ธ.ค. 2017
- ลูกค้าที่สมัคร MercedesCard และได้รับการอนุมัติ รับโปรแกรมชุดตรวจสุขภาพเครือโรงพยาบาลกรุงเทพมูลค่าสูงสุด 12,000 บาท
MG
ช่วงล่างเข้าขั้น ออพชั่นเข้าที สมาร์ทเทคโนโลยี ผัวหนีเมียก็รู้
งานนี้ขนรถมาให้ดูกันครบทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็น 3, 5, 7, 9, 11 (ประทานโทษ) MG3, MG5, MG6 และ MG GS แต่รถที่น่าสนใจ..และได้รับความสนใจมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นครอสโอเวอร์เครื่อง 1.5 ลิตรที่เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อ 14 พฤศจิกายนอย่าง MG ZS
MG ZS เป็นรถครอสโอเวอร์ที่มีขนาดตัวใกล้เคียงกับ Honda HR-V, BR-V และขนาดโตกว่า Mazda CX-3 เล็กน้อย จัดเป็นคู่แข่งที่พอจะนำมาเปรียบกันได้ จุดเด่นของ ZS อยู่ที่การพยายามออกแบบภายในให้ดูล้ำสมัยและให้สัมผัสที่ดีกว่ารถระดับราคาเดียวกัน ทุกรุ่นจะมีจอกลางแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ส่วนรุ่นกลางจะเพิ่มระบบ i-SMART สั่งการด้วยเสียงภาษาไทยได้ มีแอร์ออโต้ กล้องมองหลัง และระบบสั่งการและสำรวจสถานะรถผ่านสมาร์ทโฟนแอพพลิเคชั่น
ยิ่งถ้าเป็นในรุ่นท้อปราคา 789,000 บาทนั้น จะได้หลังคา Panoramic Sunroof ล้อ 17 นิ้ว และถุงลมนิรภัยเพิ่มจาก 2 เป็น 6 ใบ
ZS ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 114 แรงม้า ซึ่งมีพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์ของ MG3 และ MG5 รุ่นไม่มีเทอร์โบ ประกบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ดูรายละเอียด เปรียบเทียบอุปกรณ์และราคาของ MG ZS ทุกรุ่น คลิกที่นี่ได้เลยครับ
โปรโมชั่นของ MG ในงาน Motor Expo
MG 5 – ดอกเบี้ยต่ำ 0.99% หรือ ผ่อนเพียงเดือนละ 7,048 บาท ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
MG6 – พิเศษ! ดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี หรือ ผ่อนเพียงเดือนละ 9,752 บาท ฟรี ! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
MITSUBISHI
แหลมฉบังปังสุดขีด ส่ง Athlete แต่งเต็มขั้น
เห็น Ford มี Wildtrak เห็น Chev มี Centenial เห็น Revo มีรุ่น Rocco ทาง Mitsubishi ก็มี Triton Athlete ซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ มาเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าสาวกค่ายสามเพชร โดยมีการเพิ่มชุดแต่งภายนอก เช่นกระจังหน้าลายตาข่ายสีดำ สปอร์ตบาร์ สปอยเลอร์ท้าย ชุดสติกเกอร์สีดำสลับส้ม ส่วนภายในก็มีการตกแต่งสีส้มบนเบาะ และเพิ่มระบบ Cruise Control ให้สำหรับรถรุ่นเกียร์ธรรมดา
Triton Athlete มีให้เลือกขุมพลังเดียว คือ 4N15 2.4 ลิตร Clean Diesel MIVEC 181 แรงม้า มีระบบส่งกำลัง 2 แบบคือเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะและเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย เฉพาะตัวถัง Double Cab 4 ประตู คือรุ่น Plus ยกสูงเกียร์ธรรมดา รุ่น Plus ยกสูงเกียร์อัตโนมัติ และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ
อ่านรายละเอียดอุปกรณ์และชมรูป Official เพิ่มเติมของ Triton Athlete ได้ที่นี่
นอกจากรถขายจริงอย่าง Triton, Mirage และ Attrage แล้ว งานนี้ ก็มีการเอา Concept Car มาโชว์ เจ้า GT PHEV นี้คือรถต้นแบบ SUV แห่งโลกอนาคตที่โชว์ตัวตั้งแต่งาน Paris Motorshow ปี 2016 รถคันนี้คือต้นแบบเค้าร่างของรถ Mitsubishi Outlander รุ่นถัดไป ออกแบบด้านหน้าตามเอกลักษณ์ของ Mitsubishi’s Dynamic Shield ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Plug-in Hybrid ประสานกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ซึ่งใช้ปั่นไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ หรือส่งกำลังขับเคลื่อนไปถึงล้อรถได้ เมื่อชาร์จไฟเต็มแล้ววิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วน สามารถไปได้ไกลถึง 120 กิโลเมตร ถ้าถ้าชาร์จไฟเต็ม+เติมน้ำมันเต็มถังแล้วสามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตร
ชื่อ GT PHEV นั้น ก็ย่อมาจาก Ground Tourer Plug-in Hybrid Electric Vehicle นั่นเอง
โปรโมชั่นของ Mitsubishi ในงาน Motor Expo
สั่งจองรถและรับรถภายใน 31 ธันวาคม รับประกันภัยชั้น 1 ฟรีปีแรก พร้อมรับฟรีโปรแกรม 5 ปีดูแลดีถึงใจ ประกอบด้วย ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะนาน 5 ปี, ฟรีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี, ฟรีการรับประกันคุณภาพ Diamond Warranty นาน 5 ปี และฟรีค่าแรงการเช็คระยะนาน 5 ปี
NISSAN
Intelligent Mobility แรงดีด้วยมอเตอร์ รอจนเผลอแล้วอาจมา แต่ราคายังไม่รู้
Nissan มีนโยบายหลักของค่ายที่จะเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกระดับโลกในอนาคต สำหรับในประเทศไทย จึงต้องปูทางให้ลูกค้าชาวสยามเริ่มรู้จักเทคโนโลยีของค่ายก่อน ไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้พลังแบตเตอรี่อย่าง Leaf หรือรถไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์แต่กินน้ำมันเป็นอาหารอย่าง Note e-Power
Leaf เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร เก็บประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่ Advanced Lithium-ion (Li-ion) ขนาด 40 kWh เติมพลังงานด้วยการเสียบปลั๊กชาร์จไฟ ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ได้สูงสุดถึง 400 กิโลเมตร (มาตรฐาน JC08, Japan) / 240 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA, USA)
ดูภาพ Official และรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างเต็มพิกัดของ Leaf ได้ที่นี่
Nissan Note e-Power เป็นรถที่ประสบความสำเร็จในบ้านเกิดโดยที่ชาวญี่ปุ่นอุดหนุนกันไป 100,000 คันแล้วหลังจากเปิดตัวขายมาได้ 11 เดือน แนวคิดในการทำรถรุ่นนี้ขึ้นมาก็เพื่อเอาใจคนที่อยากจะข้ามไปสู่โลกรถยนต์ไฟฟ้า แต่ที่บ้านหาจุดชาร์จได้ยาก หรือมีความจำเป็นต้องวิ่งระยะไกลๆ แล้วขี้เกียจจอดนอนตบยุงรอชาร์จระหว่างทาง
ขุมพลังของ Note e-Power แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนที่รับผิดชอบด้านการขับเคลื่อนจริงๆ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ที่ปรับกำลังเอาไว้ 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร (น้อยกว่า Leaf) และมีเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ HR12DE 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ โดยไม่มีบทบาทในการส่งกำลังขับเคลื่อนไปที่ล้อใดๆทั้งสิ้น
ส่วนรถยนต์ในสายการผลิตปกติ แม้จะไม่มีรถรุ่นใหม่ๆ เปิดตัว แต่ก็มีการอัปเดต Navara เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาดปี 2018 โดยมีการเพิ่มอุปกรณ์เช่น ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา Around View Monitor ในรุ่นยกสูง เริ่มต้นที่ตัว King Cab Calibre EL ราคา 796,500 บาทเป็นต้นไป และรุ่นท้อปสุด 4 ประตูขับเคลื่อน 4 ล้อยังได้ ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่าคนขับ)
โปรโมชั่นพิเศษของ Nissan ในงาน Motor Expo
- Navara – รับข้อเสนอราคาพิเศษ ดอกเบี้ย 0% และบัตรกำนัล 10,000 บาท รวมถึงประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 สำหรับแพ็คเกจ Nissan Easy Pay เริ่มต้นผ่อนชำระ 4,500 บาท นานสูงสุด 60 เดือน และโบนัสนำรถเก่าแลกซื้อรถใหม่มูลค่า 10,000 บาท สำหรับรุ่นที่ร่วมรายการ
- X-Trail จองและรับข้อเสนอบัตรกำนัลมูลค่า 25,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% เงินดาวน์ 30% และผ่อนชำระนานสูงสุด 48 เดือน รวมถึงฟรีประกันภัยชั้น 1
- Almera และ Note ข้อเสนอบัตรกำนัลมูลค่า 10,000 บาท ประกันภัยชั้น 1 แพ็คเกจ Nissan Easy Pay ผ่อนเริ่มต้น 3,990 บาท นานสูงสุด 60 เดือน และเงินดาวน์ต่ำ เริ่มต้น 19,999 บาทสำหรับรุ่นที่ร่วมรายการ
PORSCHE/BENTLEY
เปิด Cayenne ให้หายคาใจ เปิดราคาใหม่ Bentley ทุกรุ่น
All New Cayenne S 2.9 V6 เทอร์โบคู่ 440 แรงม้า 550 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 8 จังหวะ มีระบบ Rear-axle Steering (เลี้ยวล้อหลัง) เหมือน 911 มีออพชั่นจานเบรกเคลือบ Tungsten-carbide (PCSB-Porsche Surface Coated Brake ซึ่งเป็นคนละอย่างกับเบรกคาร์บอนเซรามิก) ให้เสียเงินเพิ่มโดยรถที่สั่งอุปกรณ์พิเศษนี้ได้จะต้องใช้ล้อขนาดไม่ต่ำกว่า 20 นิ้ว และได้คาลิเปอร์เบรกเป็นสีขาว ใช้เทคโนโลยีตัวถังวัสดุผสมน้ำหนักเบา ทำให้แม้จะมีอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่ม แต่น้ำหนักของรุ่นมาตรฐานลดลงจาก 2,040 เหลือ 1,985 กิโลกรัม
นอกจากนี้ยังมี รุ่น Cayenne แบบมาตรฐาน 3.0 V6 เทอร์โบ 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรให้เลือก สำหรับราคานั้น รุ่นธรรมดา จะอยู่ที่ 9,800,000 บาท รุ่น Cayenne S อยู่ที่ 11,400,000 บาท และได้ข่าวว่าจะมีรุ่น E-Hybrid มาเป็นทางเลือกเสริมโดยอาศัยประโยชน์จากสรรพสามิตอาทรรถถ่าน ทำให้ราคาลงไปเหลือ 7,500,000 บาท แต่ยังได้พลังระดับ 462 แรงม้าอีกด้วย
สำหรับคนที่ชอบ Panamera แต่ไม่ชอบเบาะนั่งหลังแบบแยก (1+1) Porsche เสนอทางเลือกใหม่เป็น Panamera Sport Turismo ซึ่งมีขนาดตัวแทบไม่ต่างจากรุ่นปกติ แต่มีส่วนท้ายรถที่ยกสูงคล้ายรถแวก้อนมากขึ้น และติดตั้งเบาะหลังแบบสามารถนั่ง 3 คนได้ มีเนื้อที่บริเวณเหนือศีรษะมากขึ้นกว่าเดิม
มีขุมพลังให้เลือกสองแบบ Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo 462 แรงม้า ราคา 9,500,000 บาท และรุ่น 4S Sport Turismo (เครื่องเบนซิน V6 เทอร์โบ ไม่ใช้ระบบไฮบริด) 440 แรงม้าราคา 13,700,000 บาท
เปิดตัวที่เมืองนอกมาเกือบปีแล้ว กับบอดี้ฐานล้อยาวกว่าปกติ 150 มิลลิเมตร กับ Panamera Executive ซึ่งจะมีรูปลักษณ์เหมือนนำรุ่นปกติมาขยายความยาวหลังเสา B pillar ออกไป แต่ยังดูหล่อล่ำไม่เก้งก้างเกะกะ แถมคนนั่งหลังมีเนื้อที่วางขาสบายขึ้น เรื่องเรี่ยวแรงนั้นก็ไม่ต้องห่วง เลือกเอาตามความปราณีที่คุณมีต่อ S-Class/ซีรีส์ 7 ที่วิ่งอยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 4 E-Hybrid 462 แรงม้า ราคา 9,500,000 บาท รุ่น 4S 440 แรงม้า ราคา 14,000,000 บาท และปิดแบบจบๆกับ V8 ทวินเทอร์โบ+มอเตอร์กำลังสูง กับ Panamera Turbo S E-Hybrid Executive 680 แรงม้า 850 นิวตันเมตร ราคา 23,100,000 บาท
เผยโฉมไปตั้งแต่ต้นปี เชิญ Headlightmag ไปลองขับไกลถึงแอฟริกาใต้ วันนี้แอบมาเปิดตัวแบบไม่บอกใคร กับ 911 Carrera GTS ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 6 สูบนอนเทอร์โบคู่จาก Carrera S ปรับจูนใหม่จนมีกำลังเพิ่มเป็น 450 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ราคาจะสูงขึ้นจากรุ่น S ประมาณ 6-7 แสนบาท แต่ได้อุปกรณ์เอาใจนักขับครบๆ ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยแบบเซ็นเตอร์ล็อคลาย Turbo S ตัวถัง Wide Body ช่วงล่างไฟฟ้า PASM/PASM Sport แล้วยังมี Sport Chrono Package กับท่อไอเสีย Sport มาให้อีกด้วย
รุ่น Carrera GTS ขับหลัง ราคา 13,500,000 บาท รุ่น GTS Cabriolet 14,600,000 บาท รุ่น Carrera 4 GTS ขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 14,200,000 บาท และ Carrera 4 GTS Cabriolet 15,300,000 บาท อ่านบทความที่ผมไปลองขับของจริงที่สนาม Killarney ได้ คลิกที่นี่เลยครับ
แคมเปญพิเศษของ Porsche
- ลูกค้าที่ลงทะเบียน Online และจองรถภายในงาน ได้สิทธิ์ไปลองขับรถ Track Experience ที่สนามเซปัง ฟรี แต่จำกัด 50 ท่านแรกเท่านั้น
- รับสิทธิ์ซื้อ Package ชุดแต่ง Porsche Tequipment ในราคาพิเศษ
- ส่วนลด 40% สำหรับจักรยาน Porsche และ 50% สำหรับลำโพง 911 Soundbar (ที่เปิดตุ้มๆๆอยู่หน้าบูธนั่นแหละครับ)
- ส่วนลด 45% สำหรับสินค้า Porsche Driver’s Selection
สำหรับ Bentley นั้น ยังไม่มีการเปิดตัวรถใหม่ ก็เลยนำรถที่ขายอยู่แล้วมาโชว์ เช่นรุ่น Bentayga W12 เครื่องยนต์ 12 สูบ 6.0 ลิตร 608 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร เป็น SUV ขนาดยักษ์ที่วิ่งได้เร็วถึง 301 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราคา 22,800,000 บาท และ Flying Spur W12 ซีดานหรู 625 แรงม้าที่วิ่งได้เร็วขนาดซูเปอร์คาร์ยังบอกว่าบ้า (320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ราคา 20,200,000 บาท สังเกตได้ว่าราคาของ Bentley หลายรุ่นจะถูกลง เช่น Bentayga นั้นลดลงจากเดิมล้านกว่าบาท เนื่องจากต้องมีการปรับราคาใหม่ตามวิธีการคิดของสรรพสามิต จึงปรับลดการประกันและบริการ 5 ปี เหลือการประกันคุณภาพ 3 ปี ทั้งนี้ลูกค้าที่ต้องการสิทธิ์แบบเดิมก็สามารถจ่ายเงินเพิ่มซื้อสิทธิ์นั้นกลับมาได้ (พูดง่ายๆ ก็ให้นึกถึงกรณีของ BMW กับวิธีคิดราคาแบบใหม่)
นอกจากนี้ยังมีข่าวฝากบอกว่าใครที่ต้องการรถคูเป้หรูของค่ายอย่าง Continental GT ในงานนี้มีการเปิดรับจองรุ่น W12 ได้แล้วในราคา 21,500,000 บาท
แคมเปญ Motor Expo
ลูกค้าที่จองภายในงาน จะได้ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตของ Bentley ที่เมือง Creww ประเทศอังกฤษ พร้อมเข้าดูการทำงานของทีมออกแบบชุดแต่ง Mulliner
ROLLS-ROYCE
สุดปลายทางของคำว่ารถ สุดรันทดเพราะได้แต่มอง
GHOST Series II รุ่นฐานล้อปกติ แม้จะเป็นซาลูนรุ่นน้องของ Phantom แต่ขนาดตัวจริงก็ใหญ่ใช่เล่นเพราะยาวถึง 5,399 มิลลิเมตร ภายในหรูหราด้วยสีทูโทน Cream Light ตัดกับดำ บรรจงเลือกวัสดุและหนังอย่างดี ไม้วอลนัททำด้วยมือช่างผู้ชำนาญการ แน่นอนระดับนี้ต้องไม้แท้ แม้แต่พรมปูพื้นก็ยังเป็นพรมขนแกะแท้ ส่วนในเรื่องขุมพลังนั้น ก็ใช้เครื่องยนต์ V12 เทอร์โบ ให้กำลัง 570PS ราคาขายอยู่ที่ 31,900,000 บาท
ส่วนรุ่นอื่นที่นำมาโชว์ อาจคุ้นตากันอยู่แล้ว ได้แก่ Rolls-Royce Wraith รถคูเป้ขนาดใหญ่ราคา 33,900,000 บาท และ Rolls-Royce Dawn ซึ่งเป็นรถเปิดประทุน ทุกคันใช้เครื่องยนต์ V12 เทอร์โบและตกแต่งภายในด้วยวัสดุเหนือชั้นที่สุดตามแบบฉบับของ Rolls-Royce
SUBARU
XV 2017 เบ็ดเสร็จด้วยแพลทฟอร์มใหม่ ราคาเอื้อมไม่ไกล ออลวีลไดรฟสำหรับทุกคน
ค่ายดาวลูกไก่ใช้เวทีงาน Motor Expo ในการเปิดผ้าคลุม Subaru XV โฉมใหม่ ซึ่งลุยตลาดในเอเชียมาได้สักพักแล้ว แม้ลักษณะของรถจะดูคล้ายรุ่นเดิม แต่ความเป็นจริง XV ใหม่มีโครงสร้างพื้นฐานตัวถังคนละแบบกับรุ่นเดิม โดยหันไปใช้ Subaru Global Platform ชุดใหม่ ที่มีการปรับปรุงความแข็งแกร่งของตัวถัง รวมถึงจุดยึดช่วงล่างที่ช่วยให้ซับแรงกระแทกได้มากขึ้น แต่ยังคงลักษณะความเป็นครอสโอเวอร์ช่วงล่างหนึบเอาไว้เช่นเดิม
XV ใหม่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Boxer ที่เปลี่ยนไปใช้หัวฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ให้พลัง 156 แรงม้า เกียร์ CVT ล็ออัตราทดพูลเลย์ได้ 7 จังหวะ มีให้เลือก 2 ระดับการตกแต่ง คือรุ่น 2.0i ราคา 1,159,000 บาท และ 2.0iP ราคา 1,259,000 บาท โดยที่รุ่นแพง จะได้ไฟหน้า LED แสนกล เปิด/ปิดอัตโนมัติ ปรับทิศทางตามการเลี้ยวได้ ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ เปลี่ยนแอร์ออโต้จากแบบปกติเป็น Dual Zone เพิ่มจอบนที่คอนโซลกลางขนาด 6.3 นิ้ว
ทั้ง 2 รุ่น มีระบบความปลอดภัยพื้นฐานเท่ากัน ถุงลมนิรภัย 7 ใบ เครื่องเสียงแบบจอ 8 นิ้ว Paddle shift กับ Cruise Control และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ X-Mode แบบเดียวกับ Forester
อ่านบทความ First Impression ทดลองขับ Subaru XV เบื้องต้นได้ที่นี่
ดูรายละเอียดอุปกรณ์เวอร์ชั่นไทยคลิกที่นี่
โปรโมชั่นของ Subaru
ซื้อ Subaru Forester 2.0i รับฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 3 ปี (สามปีครับ พิมพ์ไม่ผิด)
SUZUKI
Way of Life. Away from Wife.
สำหรับบูธ Suzuki ปีนี้ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญ ใครที่คาดหวังจะเห็น Swift บอดี้ใหม่ ขอให้ร้องเพลงรอไปก่อน แต่ครั้นจะไม่มีอะไรใหม่เลยก็คงเฉาเกินไป ดังนั้นสำหรับ Ecocar ซีดานตัวใหญ่ผิดเพื่อนอย่าง Ciaz รุ่น RS จึงได้มีการเพิ่มช่องเป่าลมแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และเพิ่มจุดชาร์จไฟ 12V ใต้ช่องแอร์มาให้ 1 ตำแหน่ง ราคาจำหน่ายของ Ciaz RS ยังคงเท่าเดิมคือ 675,000 บาท
อ่านรายละเอียดอุปกรณ์และชมภาพ Official ของ Suzuki Ciaz RS 2017 คลิกที่นี่
โปรโมชั่น Motor Expo ของ Suzuki
- ฟรีบัตรเติมน้ำมัน 5,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งสำหรับปีแรก เมื่อจองและรับรถก่อน 31 ธ.ค. 2017 (ทุกรุ่น)
- Roadside Assistant Program บริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี 3 ปี สำหรับทุกรุ่น ยกเว้น Carry
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับธนาคารเกียรตินาคิน Ciaz – รับดอกเบี้ย 0% นาน 36 เดือน ส่วน Swift, Celerio และ Ertiga รับดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน
TOYOTA/LEXUS
C-HR เติมความแซ่บ Revo ใหม่เติมความซ่า Lexus ดีไซน์แสนกล้า แต่เห็นราคาปุ๊บคิดถึงบ้าน
ถึงแม้ว่ากำหนดเปิดตัวจะมาในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่ It’s my style ของ Toyota คือไม่ยอมใครอยู่แล้ว ในระหว่างที่คู่แข่งยังไม่มีของใหม่สดมาขาย ก็อาศัยจังหวะเตะตัดขาก่อนโดยเอา C-HR ตัวจริงเสียงจริงมาโชว์ พร้อมทั้งเปิดรับจองกันในงานสำหรับคนที่กล้าได้กล้าเสียโดยไม่ลองขับก่อน มีลูกเล่นเก๋ตอบแทนด้วยการให้ลูกค้าสามารถติดป้ายชื่อตัวอักษรเป็นคำตามที่ลูกค้าต้องการได้ โดยใช้อักษรฟอนท์เดียวกับป้ายรุ่น กระนั้นก็ตามควรเลือกคำที่มันฟังดูดี นึกถึงหน้าคนแปะกับนึกถึงตอนขายต่อด้วยก็ดี
C-HR เป็นคู่แข่งสายตรงของ Honda HR-V และ Mazda CX-3 มีจุดเด่นที่ดีไซน์ล้ำยุคแหกม่านประเพณีสไตล์ตัวถังของ Toyota กระแสหลัก ใช้โครงสร้างพื้นฐานแพลทฟอร์ม TNGA ซึ่งเป็นโครงสร้างแบบที่ใช้กับ Sienta (บางส่วน) และ Camry กับ Corolla Altis เจนเนอเรชั่นถัดไป สำหรับสเป็คประเทศไทย เป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะใช้ขุมพลังขับเคลื่อน 2 แบบ คือเครื่องเบนซิน 1.8 ลิตร 141 แรงม้าตัวเดียวกับที่ใช้ใน Altis 1.8 ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT ล็อคพูลเลย์ได้ 7 จังหวะ กับขุมพลังไฮบริด 1.8 ลิตร ซึ่งยังไม่แน่นอนว่าจะจูนให้มีแรงม้าสูงสุด 122 ตัวเท่าสเป็คญี่ปุ่นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม Toyota เริ่มแง้มราคามาแล้วว่ารุ่นเริ่มต้น 1.8 ลิตรไม่ไฮบริด 9xx,000 บาท และรุ่นท้อปไฮบริดไม่เกิน 1.2 ล้านบาท
อ่านบทความ First Impression ทดลองขับ C-HR Hybrid S สเป็คญี่ปุ่น คลิกที่นี่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เปรียบเทียบขนาดตัวถังกับคู่แข่ง คลิกที่นี่
HiLux Revo ไมเนอร์เชนจ์ ยกทัพกันมาให้ชมหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นตัวท้อปตกแต่งพิเศษที่ทำมาแข่งกับ Wildtrak ของ Ford อย่างเจ้า “Revo Rocco” ที่ได้กระจังหน้าโทนดำ ล้อ 18 นิ้วหุ้มด้วยยาง All-terrain รวมถึงสปอร์ตบาร์และหน้าปัดแบบเฉพาะรุ่น ตั้งราคาไว้ตั้งแต่ 899,000-1,189,000 บาท
ส่วน Revo รุ่นอื่นๆ ก็มีมาให้ชมเช่นกัน แต่ต้องหมายเหตุไว้สักนิด ว่า Revo ที่เป็นบอดี้เตี้ย ทั้งแบบตอนเดียวและตัวถังแค็บจะได้กระจังหน้าดีไซน์เดิม (มีการเปลี่ยนกระจังช่วงกลางเป็นสีดำในรุ่น J Plus ขึ้นมา) ส่วนรุ่นที่ได้กระจังหน้าสไตล์ชายแดนอเมริกันจะมีเฉพาะรุ่น Pre-runner ขับสองยกสูงและรุ่น 4×4 เท่านั้น โดยวางราคาเอาไว้ตั้งแต่ 516,000-1,139,000 บาท
อ่านรายละเอียดราคา Revo ไมเนอร์เชนจ์ทุกรุ่น คลิกที่นี่
ข้อเสนอพิเศษสำหรับงาน Motor Expo
- Yaris Hatchback และ ATIV อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% เมื่อดาวน์ 20% ขึ้นไป ผ่อนนาน 48 เดือน
- Camry-อัตราดอกเบี้ย 1.89% เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป ผ่อนนาน 48 เดือน หรือไปเลือกรับประกันภัยชั้น 1 แทน
- Camry Hybrid-อัตราดอกเบี้ย 1.89% เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป ผ่อนนาน 48 เดือน หรือเลือกประกันภัยชั้น 1 แทน
- Altis เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร อัตราดอกเบี้ย 1.89% เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป 48 เดือน หรือเลือกประกันภัยชั้น 1
- Vios ผ่อนเริ่มต้น 5,500 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 หรือเลือกดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือนแล้วรับอัตราดอกเบี้ย 1.89%
- Avanza, Innova, Sienta และ Fortuner โมเดลปี 2017 อัตราดอกเบี้ย 1.89% เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
- Fortuner ที่เป็นรุ่นโมเดลปี 2015 และ 2016 ฟรีทันทีประกันภัยชั้น 1
- Hilux Revo โฉมก่อนพฤศจิกายน 2017 ดาวน์ต่ำแค่ 27,600 บาท หรือผ่อนเริ่มต้น 3,999 บาท ผ่อนนาน 60 เดือนเมื่อดาวน์ 172,997 พร้อมรับประกันภัยชั้น 1 หรือไม่ก็ไปเลือกรับอัตราดอกเบี้ย 1.89% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือนคล้ายรุ่นอื่น
- Hilux Revo รุ่นล่าสุด และรุ่นตกแต่งพิเศษทุกรุ่น ฟรีทันทีประกันภัยชั้น 1
มาแบบไม่คาดฝัน ชนิดที่คนในบริษัทเองก็บอกว่า Surprise มากกับสปอร์ตคูเป้อย่าง LC500 ที่มาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน V8 5.0 ลิตร 471 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตรที่ได้มาแบบเนื้อๆโดยไม่ต้องพึ่งพาเทอร์โบ ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ภายในหรูหรา หุ้มหนังกลับ Alcantara และใช้เครื่องเสียง Mark Levinson Surround System
อย่างไรก็ตาม การนำ LC500 เข้ามาขายในครั้งนี้เป็นแบบ Special Order ซึ่งจะไม่มีการสต็อครถ ลูกค้าต้องสั่ง และรอ 6 เดือน ไม่สามารถสั่งเพิ่มหรือลดออพชั่นใดๆให้ต่างไปจากสเป็คที่ Lexus Thailand กำหนดมาได้ (เป็นข้อจำกัดของการสั่งรถในกรณีพิเศษที่ไม่ต้องผ่าน Homologation แบบรถปกติ) ถ้าคุณกล้าที่จะโดดเด่นและเป็นเศรษฐีใจถึง ก็เตรียมเงินไว้ 16,950,000 บาท
Lexus LS เรือธงของทางค่ายที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆร้อนๆ รุ่นนี้ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ของ LS ซึ่งเริ่มต้นตำนานจากการเป็นความพยายามในการเจาะตลาดพรีเมียมในอเมริกา และประสบความสำเร็จอย่างสูงในปี 1989 ในปัจจุบัน Lexus พัฒนาดีไซน์ของ LS จนหลุดจากความเป็นรถอนุรักษ์นิยมสู่ความแปลกใหม่ (ที่หลายคนก็บอกว่าแปลกเกินไป) มีขุมพลังให้เลือก 3 แบบ เริ่มต้นจาก LS350 เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 ไร้เทอร์โบ 315 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ มีให้เลือกการตกแต่งระดับเดียวคือ Luxury ในราคา 11,530,000 บาท
จากนั้น ก็ขยับเป็นรุ่น LS500 ที่ใช้เครื่อง 3.5 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ 421 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ มีการตกแต่งระดับเดียวเช่นกัน คือรุ่น Executive ราคา 13,080,000 บาท ต่อมาเป็นรุ่น LS500h ไฮบริด 3.5 ลิตรบวกมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้พลังรวม 359 แรงม้า มีให้เลือก 2 ระดับคือรุ่น Executive 14,500,000 บาท และ Executive Pleat ราคา 15,830,000 บาท
อ่านรายละเอียด สเป็ครถ และอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมได้ที่นี่
นอกจากนี้ยังมีรถตระกูล NX ที่เพิ่งไมเนอร์เชนจ์ รวมถึง SUV ทรงเฉี่ยวอย่าง RX รถซาลูน GS และ ES กับรถรุ่นอื่นๆมาจัดแสดง และนับแต่นี้ต่อไป รุ่นต่างๆที่ใช้เครื่องยนต์ 8AR-FTS 2.0 ลิตรเทอร์โบ ซึ่งแต่เดิมจะใช้ชื่อว่ารุ่น 200t จะเปลี่ยนเลขเป็น 300 แทน (ตอนแรกตกใจนึกว่าเลิกขาย 2.0 เทอร์โบไปแล้ว)
ข้อเสนอสำหรับ Motor Expo
สำหรับผู้ที่จองรถ LS ใหม่ในงาน จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมทริป Lexus Test Drive The World ซึ่งจะพาไปลองขับรถของ Lexus ที่ประเทศญี่ปุ่น และเยี่ยมชมโรงงานผลิต งานฝีมือ และ Intersect by Lexus
VOLVO
ไฮบริดดึงสะใจ. ความปลอดภัยเต็มขั้น. โปรโมชั่นแสนพิเศษ. Made in มาเลย์
งานนี้ท่านจะได้พบกับรถของวอลโว่เกือบครบทุกอนุกรม มีตั้งแต่ V40, S60, V60, S90 ไปจนถึง SUV ขนาดใหญ่อย่าง XC90 ซึ่งรุ่นเล็กที่จำหน่ายมานานนั้น ก็มีการออกแคมเปญกระตุ้นในด้านราคา เช่น Volvo V40 T4 ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 9,900 บาท Volvo S60 D4 ราคาพิเศษ 1,899,000 บาท และ 1,999,000 บาทสำหรับรุ่น V60 D4 กรุณาสอบถามกับเจ้าหน้าที่ขาย และลองเปรียบเทียบอุปกรณ์ต่างๆ ระหว่างรุ่นราคาปกติและ Special Price ดูก่อนซื้อ
รถใหม่ที่สุดสำหรับงานนี้ ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก (หาจังหวะถ่ายรูปแทบไม่ได้) ก็คือ XC60 SUV ขนาดกลางคู่แข่งกับ BMW X3 และ Mercedes-Benz GLC มีขุมพลังให้เลือก 2 แบบ ในรุ่น D4 จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อคสหกรณ์ไวกิ้ง ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ มีให้เลือกรุ่นเดียวคือ D4 Momentum ราคา 3,090,000 บาท
กับอีกขุมพลังหนึ่งคือ T8 Twin Engine 2.0 ลิตรเบนซินเทอร์โบ บวกพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำให้มีกำลังขับเคลื่อนรวมถึง 407 แรงม้า มีการตกแต่งให้เลือกสองระดับ กับรุ่น Momentum 3,290,000 บาท และรุ่น R-Design ตัวท้อปจัดเต็ม ชุดแต่งภายนอก และล้ออัลลอยลาย R-Design ราคา 3,590,000 บาท รถ XC60 ในประเทศไทย ผลิตจากมาเลย์และนำเข้ามาประเทศไทย
นอกจากมีความโดดเด่นที่พลังขับเคลื่อนกับราคาแล้ว XC60 ยังมีอุปกรณ์สนับสนุนด้านความปลอดภัยรอบคัน และยังมีโหมดระบบช่วยในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ชนิดเร่งได้เอง เบรกชะลอความเร็วได้เอง
อ่านรายละเอียดอุปกรณ์เพิ่มเติมของ XC60 ได้ที่นี่
——////—–
Pan Paitoonpong
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ และภาพถ่าย โดยผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
30 พฤศจิกายน 2017
Copyright (c) 2017 Text and Pictures
Use of such content either in part
or in whole without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com
30 November 2017
Copyright © 2009-2017 Headlightmag.com, All rights reserved.