หลังปล่อยให้ลูกค้าชาวไทยรออยู่พักใหญ่ เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการทดสอบขั้นสุดท้ายให้เรียบร้อยเสียก่อน สำหรับ B-SUV รุ่นใหม่จาก Mitsubishi ล่าสุด ทีมงาน Headlightmag ได้รับการยืนยันชัดเจนแล้วว่า Mitsubishi XForce HEV จะถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก หรือ World Premiere ที่ประเทศไทย วันที่ 20 มีนาคม ก่อนเผยโฉมต่อสายตาสาธารณชน ณ งาน Bangkok International Motor Show 2025 ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม (รอบสื่อมวลชน) ถึงวันที่ 6 เมษายน 2025
สำหรับ Mitsubishi XForce HEV ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ จะมีความแตกต่างกับเวอร์ชั่นที่เปิดตัวไปแล้วในตลาดอื่นๆ โดยขุมพลังที่นำมาติดตั้ง จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นขุมพลัง HEV เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการปรับปรุงในหลายด้าน แตกต่างจากเวอร์ชั่นต่างประเทศซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินล้วน และมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกันกับ Xpander HEV







สำหรับขุมพลัง HEV ใน Mitsubishi XForce เวอร์ชั่นไทย คาดว่าจะมาพร้อมโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ ดังนี้
- Normal Mode เป็นโหมดที่สมดุลและเหมาะสมที่สุดสำหรับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
- Wet Mode เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนที่เปียกลื่น โดยช่วยป้องกันการลื่นไถล
- Gravel Mode เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางทางลูกรัง เพิ่มเสถียรภาพการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่นและขรุขระ
- Tarmac Mode เหมาะกับการขับขี่บนถนนลาดยาง ที่ให้พละกำลังและการควบคุมการขับขี่ที่คล่องตัว
- Mud Mode ทางโคลน เพิ่มการตอบสนองและการควบคุมที่ทรงพลังบนถนนดินโคลนสมบุกสมบัน
- EV โหมดการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%
- EV Charge โหมดชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่
ด้านงานออกแบบภายนอกจะดูไม่แตกต่างจากเวอร์ชั่นต่างประเทศเท่าไหร่นัก ยกเว้นล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่ มีการติดตั้งฝาครอบระหว่างก้านล้อ (Aerowheel Cover) เพื่อลดอากาศหมุนวนด้านข้างล้อ ช่วยลดอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงตามหลักวิศวกรรม ตลอดจนการปรับโลโก้ HEV ตามจุดต่างๆ ของตัวรถ




สำหรับสเป็คและข้อมูลตัวรถด้านอื่นๆ คาดว่าจะมีความใกล้เคียงกันกับ XForce รุ่นเครื่องยนต์เบนซินล้วน ที่ทยอยเปิดตัวไปแล้วในต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยมีรายละเอียดเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
ขนาดและมิติตัวถัง
Dimension
- ความยาว 4,390 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,810 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,660 มิลลิเมตร
- ความยาวฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร
- ระยะตำ่สุดใต้ท้องรถ 222 มิลลิเมตร
- นำ้หนักตัวรถ 1,245 กิโลกรัม
- Mitsubishi XForce : 4,390 x 1,810 x 1,660 / 2,650 มิลลิเมตร
- Toyota Yaris Cross : 4,310 x 1,770 x 1,615 / 2,620 มิลลิเมตร
มุมองศาและขีดจำกัดการลุย
- มุมไต่ (Approach angle) 21.0 องศา
- มุมจาก (Departure angle) 30.5 องศา
- มุมคร่อม (Breakover angle) 20.5 องศา


อุปกรณ์ / options ของ Mitsubishi XForce เวอร์ชั่นอินโดนีเซีย มีดังนี้
XForce Exceed 1.5 CVT มีอุปกรณ์ ดังนี้
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
- ยาง ขนาด 225/50R18
- ไฟหน้าแบบ LED
- ไฟท้ายแบบ LED
- ระบบรักษาสมดุลการขับขี่ขณะเข้าโค้ง Active Yaw Control (AYC)
- ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำ
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง
- หน้าจอชุดมาตรวัด พร้อมหน้า MID ขนาด 4.2 นิ้ว
- หน้าจอชุดเครื่องเสียง ขนาด 8 นิ้ว
- ระบบแสดงข้อมูลตัวรถบนหน้าจอกลาง Adventurous
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual-zone
- เครื่องปรับพร้อมจอแสดงผลแบบ Digital
- สวิตซ์เครื่องปรับอากาศแบบ Piano-type
- ปุ่ม Push Start/Stop
- เบรกมือไฟฟ้า EPB
- ระบบ Brake Auto Hold
- กระจกมองหลังตัดแสดงอัตโนมัติ
- ช่องชาร์จไฟแบบ USB Type-A 1 ตำแหน่ง
- ช่องชาร์จไฟแบบ USB Type-C 1 ตำแหน่ง
- ถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Lead Car Departure Notification (LCDN)
- ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง Blind Spot Warning (with Lane Change Assist function)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)

XForce Ultimate 1.5 CVT มีอุปกรณ์เพิ่มขึ้นจากรุ่น Exceed ดังนี้
- ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ฝาท้ายไฟฟ้า Power tailgate พร้อม Kick Sensor (ระบบเตะเปิด – ปิด)
- โหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่
- Normal
- Wet
- Gravel
- Mud
- ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำ – ขาว Melange – นำ้ตาล Mocha
- หน้าจอชุดมาตรวัด Digital ขนาด 8 นิ้ว
- หน้าจอชุดเครื่องเสียง ขนาด 12.3 นิ้ว
- รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
- ชุดเครื่องเสียง Dynamic Sound Yamaha Premium
- ลำโพง coaxial two-way
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
- ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light
- แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger
- ระบบกรองอากาศ Nanoe X
- ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง TPMS






สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี ได้แก่
- สีขาวมุก Quartz White Pearl
- สีเงิน Blade Silver Metallic
- สีเทา Graphite Grey
- สีดำ Jet Black Metallic
- สีแดง Red Metallic
- สีเหลือง Energetic Yellow Metallic
สำหรับรายละเอียดทั้งหมด รวมถึงราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Mitsubishi XForce HEV ที่เตรียมเปิดตัวช่วงปลายเดือน มีนาคม นี้ สามารถติดตามต่อได้ในทุกช่องทางของ Headlightmag เช่นเคย