การรอคอยสิ้นสุดลงแล้วเสียที เมื่อ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
จัดงานเแถลงข่าวแนะนำรถเก๋งรุ่นใหม่ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์
เช้าวันนี้ 15 กันยายน 2009 และพร้อมเปิดรับจองที่โชว์รูมทั่วประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้ ก่อนเปิดขายทางการ 16 ตุลาคม เป็นต้นไป
มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
จัดงานแถลงข่าวแนะนำมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ซึ่งจะเปิดรับจองล่วงหน้าตั้งแต่ 16 กันยายนนี้
ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ 16 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 9 ของมิตซูบิชิ
แลนเซอร์ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยมาพร้อมแนวคิด
“Sensational Intelligence” ที่ให้ลูกค้าได้มากกว่าทั้งในเรื่องของความทันสมัยและอัจฉริยะ
ในการขับขี่ โดยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 ขนาด ที่ให้ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน
เป็นเยี่ยม ได้แก่ เครื่องยนต์ Flexible Fuel Vehicle หรือ FFV ขนาด 1.8 ลิตร จำนวน 3 รุ่น
รองรับการใช้น้ำมันได้หลากหลายตั้งแต่เบนซินธรรมดาไปจนถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 85
และเครื่องยนต์ ขนาด 2.0 ลิตร รองรับถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 พร้อมตั้งราคาขายเริ่มต้น
ที่ 831,000 บาท ถึง 1,034,000 บาท ทั้งนี้เพื่อสร้างความไว้วางใจและความมั่นใจให้กับลูกค้า
บริษัทฯ ยังได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับทุกส่วนของการดำเนินงานทั้งด้าน การขาย การบริการ
และอะไหล่ รวมทั้งจัดกิจกรรมการขายและกิจกรรมทางการตลาด ตลอดจนการใช้กลยุทธ์
การสื่อสารที่ตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไปพร้อมๆ กัน โดยมั่นใจว่าจะมียอดจองรถมิตซูบิชิ
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ เกินเป้าการขายที่ตั้งไว้จำนวน 4,000 คัน ภายใน 6 เดือนแรกอย่างแน่นอน
“แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ เจนเนอเรชั่นที่ 9 เป็นรถคุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับโลกทั้งในเรื่อง
ระบบความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังให้สมรรถนะ
ที่เป็นเยี่ยมตามแบบฉบับรถเก๋งของมิตซูบิชิ เราพัฒนารถรุ่นนี้ขึ้นเพื่อให้เป็นรถเก๋งรุ่นใหม่
ที่ให้คุณค่าทั้งในแง่ของการใช้งานและความรู้สึก โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สะท้อนตัวตน
ของรถเก๋งสไตล์มิตซูบิชิที่ให้ความประทับใจทั้งในแง่ความรู้สึก การใช้งานสำหรับทุกความ
ต้องการ และความปลอดภัยในการขับขี่ซึ่งสอดคล้องกับรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต รวมทั้ง
ประสิทธิภาพในการควบคุมและตอบสนองโดยเฉพาะอย่างยิ่งอารมณ์ในขณะขับขี่
ที่สะท้อนความเป็นมิตซูบิชิ จากสิ่งเหล่านี้ทำให้ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่า มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์
ที่พรั่งพร้อมไปด้วยนวัตกรรมรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะสามารถตอบสนองความต้องการ
ของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์กลุ่มนี้ได้อย่างแน่นอน “ มร.มูราฮาชิ กล่าว
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ได้รับการออกแบบที่สานต่อภาพลักษณ์ของรถเก๋งสไตล์สปอร์ต
ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดย ประกอบไปด้วยรุ่น GT ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด เหมาะกับทั้งผู้หญิง
และผู้ชาย ช่วยเสริม “คุณค่าด้านอารมน์” สำหรับลูกค้าผู้ชาญฉลาดที่ให้ความสำคัญทั้งกับ
ความทันสมัย สมรรถนะ และความอัจฉริยะในการขับขี่ ในขณะที่รุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS
และ GLX ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้หญิงเป็นหลัก
โดยสะท้อนให้เห็นถึง “คุณค่าด้านเหตุผล” ด้วยรูปลักษณ์สวยงาม เพราะบริษัทฯ เชื่อว่า
ผู้หญิงจะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของรถยนต์กลุ่มนี้
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
1. การออกแบบ …โดดเด่นสะท้อนภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ตของมิตซูบิชิ
โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ….สะท้อนความปราดเปรียวและหรูหรา
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ สะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ของรถเก๋งจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จากการออกแบบ
โฉมหน้าใหม่ โดดเด่นด้วยเส้นสายที่สะท้อนความปราดเปรียว สมรรถนะ และความล้ำสมัย
บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของมิตซูบิชิได้เป็นอย่างดี ด้วยส่วนหน้าที่ลาดเอียงลงตามแบบฉบับ
รถเก๋งของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประกอบกับเส้นสายเรียบง่ายของฝากระโปรงรถ ที่ยังให้ความปลอดภัย
ไปถึงคนเดินถนน พร้อมกระจังหน้าใหม่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูช่วยเสริมให้รถดูปราดเปรียวและ
ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น
ด้วยรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต ทำให้มิตซูบิชิ แลนซอร์ อีเอ็กซ์ เหนือกว่าในเรื่องอากาศพลศาสตร์
(โดยให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน เพียง 0.29) โดยรุ่น GT รุ่น GLS-Ltd. และ รุ่น GLS มาพร้อม
กระจังหน้าโครเมียม ไฟตัดหมอกหน้า และปลายท่อสเตนเลส พร้อมเสริมอารมณ์สปอร์ตให้กับ
รุ่น GT ยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน และสปอยเลอร์หลัง
ไฟหน้า 2 สไตล์ รูปทรงใหม่ ดุดัน ที่ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ได้แก่ ไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์
แบบฮาโลเจน สำหรับรุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS และ รุ่น GLX และไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ แบบ
ไบซีนอน (Bi-Xenon) พร้อมระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าและระบบเพิ่มความส่องสว่างด้านข้าง
ขณะเข้าโค้ง (AFS) สำหรับรุ่น GT ในขณะที่ด้านหลังตัวรถออกแบบให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วย
ชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่กว้างขึ้น พร้อมจัดวางแนวเฉียงขึ้นช่วยให้เห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม
และยังช่วยเสริมให้มีดีไซน์ที่สวยงามและทันสมัยยิ่งขึ้น
ล้ออัลลอย ออกแบบมาเฉพาะสำหรับแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ โดยในเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร FFV
รุ่น GLS-Ltd. รุ่น GLS และรุ่น GLX ใช้ล้ออัลลอยล์ขนาด 16 นิ้ว ในขณะที่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร
รุ่น GT มาพร้อมล้ออัลลอยด์ ขนาด 18 นิ้ว ใหญ่สุดในรถระดับเดียวกัน
(2) การออกแบบภายใน ….เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบาย ผ่อนคลายตลอดการเดินทาง
จากการออกแบบที่ยึดความต้องการของผู้ใช้รถเป็นหลัก ทำให้ได้มาซึ่งห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น
รับกับฟังก์ชั่นการใช้ งานที่ให้ความรู้สึกที่เหนือกว่าในทุกๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งคนโดยสาร
หรือคนขับ ห้องโดยสารกว้างที่สุดในรถระดับเดียวกันถึง 1,985 มม. ในขณะที่ความสูงของ
ห้องโดยสารตอนหน้าอยู่ที่ 905 มม. ให้ความโอ่โถงสบายเทียบเท่ารถยนต์ซีดานขนาดใหญ่
แผงคอนโซลหน้าทรงโค้งให้ความรู้สึกกว้างสบาย ผนวกกับการออกแบบในส่วนรายละเอียด
เพื่อให้ความสะดวกสูงสุด ทั้งในด้านการขับขี่ ทัศนวิสัย และการมองเห็น เพิ่มอารมณ์สปอร์ต
และเสริมความโดดเด่นของห้องโดยสารยิ่งขึ้นด้วยชุดอุปกรณ์หุ้มหนัง** แอร์อัตโนมัติ**
และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น *
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มาพร้อมห้องโดยสาร 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ ห้องโดยสารโมโนโทนสีดำ
สไตล์สปอร์ตในรุ่น GT และ GLS-Ltd. และห้องโดยสารแบบทูโทน สีดำ-เบจในรุ่น GLS
และ GLX ให้ความรู้สึกหรูหราและผ่อนคลาย
เพิ่มความเท่ และสบายยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังแบบสปอร์ตใน รุ่น GT และ GLS-Ltd. และเบาะผ้า
สีเบจสองสไตล์ ในรุ่น GLS และ GLX พร้อมความพิถีพิถันในการออกแบบเบาะนั่งด้านหน้าใหม่
เพื่อความรู้สึกกระชับและสบายกว่าในขณะนั่ง รวมทั้งช่วยในการลดแรงกระแทก
เบาะหลังมีขนาดใหญ่ พร้อมพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่งในรุ่น GT และ GLS-Ltd. เพิ่มความ
สะดวกสบายยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังสามารถปรับพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มความสะดวกในการบรรทุกสัมภาระ
จอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ทันสมัย ด้วยจอแสดงผลเรืองแสงสีแดงแบบ LED
ง่ายต่อการอ่านและการใช้งานขณะขับขี่รถ ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น แสดงผลข้อมูล
ได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทาง
ขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา อุณหภูมิเครื่องยนต์
อุณหภูมิภายนอกตัวรถ รวมไปถึงการเตือนต่างๆเมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ
2. เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก…เพื่ออรรถประโยชน์สูงสุดในการขับขี่
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รุ่น GT ใช้ระบบพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น เทคโนโลยี
ที่ตอบสนองทุกการเดินทาง สามารถเลือกปรับการใช้งานหลากหลายได้โดยไม่ต้องละมือจาก
พวงมาลัยเพื่อการควบคุมที่ดีกว่า ทั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงที่ง่ายต่อการปรับ เลือกเพล
งและระบบเสียง ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
(Cruise Control) เพื่อการควบคุมความเร็วให้คงที่เพิ่มความสะดวกสบาย และช่วยลดอาการเมื่อยล้า
จากการขับขี่ระยะทางไกลๆ
เพิ่มประโยชน์ใช้สอยในทุกตารางนิ้วด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บของ
ขนาดใหญ่ พร้อมช่องวางขวดน้ำบริเวณข้างประตู ถาดเก็บของและกล่องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่
แบบมีฝาปิดที่คอนโซลกลาง ในขณะที่เบาะหลังมาพร้อมที่พักแขน ที่วางแก้ว และช่องเก็บของ
บริเวณประตูหลัง
ระบบเครื่องเสียงวิทยุซีดี MP3 แบบ 6 แผ่น พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่งในรุ่น GT รุ่น GLS-Ltd.
และ GLS ในขณะที่รุ่น GLX มาพร้อม วิทยุซีดี MP3 แบบ 1 แผ่น พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง
ระบบกุญแจรีโมท พร้อมระบบควบคุมการปลดล็อกฝากระโปรงท้าย นอกจากนี้รถทุกรุ่นยังติดตั้ง
ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอัจฉริยะ Mitsubishi Motors ETACS (Electric Total
Automobile Control System) ซึ่งควบคุมระบบไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่
ไม่ว่าจะเป็นระบบปิดไฟหน้าและไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ ระบบสัญญาณกันขโมย**
ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม (immobilizer) และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ภายในรถ
3. ระบบขับเคลื่อน…เทคโนโลยีล้ำสมัยให้ทั้งสมรรถนะที่โดดเด่นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ขนาดเล็กและเบา บล็อก 4B10 ขนาด 1.8 ลิตร FFV
และ 4B11 ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC MIVEC เสื้อสูบอลูมิเนียม ฝาครอบวาล์วแบบ
พลาสติกพิเศษ พร้อมโครงสร้างการวางท่อร่วมไอเสียไว้ด้านหลัง และการติดตั้งแผ่นสแตนเลส
ครอบท่อร่วมไอเสียโดยรอบเพื่อป้องกันความร้อน มาพร้อม MIVEC ระบบวาล์วแปรผันที่
ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วทั้งไอดีและไอเสียให้แปรผันสัมพันธ์กับอัตราเร่งในทุกๆรอบเครื่องยนต์
และทุกสภาพการขับขี่ จึงให้ทั้งสมรรถนะและการประหยัดน้ำมันที่เป็นเยี่ยม
ระบบเกียร์อัจฉริยะ CVT พร้อมติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III
แบบ 6 จังหวะ เติมเต็มอารมณ์สปอร์ต และเร้าใจยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่น Sport Mode ให้การ
ปรับเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและแม่นยำ เหมาะสมในทุกรอบความเร็วของเครื่องยนต์
เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อน ตอบสนองทุกอัตราเร่ง พร้อมการประหยัดน้ำมัน
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ รุ่น 1.8 ลิตร ถือเป็นรถยนต์ FFV รุ่นแรกที่ผลิตจำนวนมาก
เพื่อการจำหน่ายในประเทศไทยติดตั้งเครื่องยนต์ทันสมัยรองรับได้ทั้งน้ำมันเบนซินและ
แก๊สโซฮอลล์ทุกชนิดจนถึง E85 ทั้งนี้เพื่อตอบสนองนโยบายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
ของรัฐบาลในฐานะวาระแห่งชาติ รวมทั้งสนับสนุนเกษตรกรไทยและสร้างความแข็งแกร่ง
ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
มั่นใจในสมรรถนะแม้เติมน้ำมันที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเบนซิน 100 % ไปจนถึงน้ำมัน
เบนซินที่ผสมเอทานอล (แก๊สโซฮอลล์) ได้ทุกสัดส่วนตั้งแต่ E0 ถึง E85 เพราะด้วย
สมองกลอัจฉริยะของเครื่องยนต์ “INTELLIGNET ECU” ระบบจะทำการตรวจวิเคราะห์
และคำนวณสัดส่วนของเอทานอลที่มีอยู่ในถังน้ำมันเชื้อเพลิง และปรับการฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
ให้มีส่วนผสมระหว่างน้ำมันกับอากาศที่เหมาะสมที่สุดในทุกสภาวะของเครื่องยนต์ โดยอัตโนมัติ
เพื่อให้ได้มาซึ่งสมรรถนะที่ดีที่สุด
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ FFV 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงที่ 139 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด
172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ในขณะที่รุ่น 2.0 ลิตร ซึ่งรองรับทั้งเบนซิน 91 95 แก๊สโซฮอล์ E10
และ E20 ให้กำลังสูงสุด 154 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 198 นิวตัน-เมตร ที่ 4,250 รอบต่อนาที
ทุกรุ่นผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
4. ระบบช่วงล่าง…ใหม่ แข็งแกร่ง อีกระดับของการควบคุมและเสถียรภาพในการขับขี่
ช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยส์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลัง
แบบมัลติลิงค์พร้อมคอยส์สปริง และเหล็กกันโคลง ช่วยให้รถมีการทรงตัวเป็นเยี่ยมและ
ง่ายต่อการควบคุม ยิ่งไปกว่านั้นในรุ่น GT ยังมีการติดตั้งเหล็กค้ำโช้คหน้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการเข้าโค้งเมื่อใช้ความเร็วสูง
เพื่อให้ได้กำลังสูงสุดและการควบคุมที่ดีที่สุด รวมไปถึงการทรงตัวและความสะดวกสบาย
ในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ จึงมาพร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้วและ 18 นิ้ว
โดยในรุ่น GT มาพร้อมล้ออัลลอยล์ขนาดใหญ่สุดในรถระดับเดียวกัน แบบ 10 ก้านขนาด 18 นิ้ว
พร้อมยาง 215/45R18 เพิ่มการยึดเกาะถนนและการเข้าโค้งพร้อมสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม
ในขณะที่รุ่น GLS-Ltd. GLS และ GLX มาพร้อมล้ออัลลอยล์ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางแบบ
205/60 R16 เพื่อความแม่นยำในการเข้าโค้งและสะดวกสบายในการขับขี่ โดดเด่นด้วย
รัศมีวงเลี้ยวที่แคบที่สุดในรถระดับเดียวกันเพียง 5.0 เมตร
5. มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัย…ได้มาตรฐานโลก
ตัวถังของรถมิตซูบิชิแลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ RISE Body เอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส พร้อม
คานเหล็กนิรภัยในประตู นอกจากนี้ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยส่วนรับแรงกระแทก
ด้านข้างแบบ Ultra High Tensile Steel จึงทำให้สามารถปกป้องแรงกระแทกจากการชน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม
(immobilizer) ระบบสัญญานกันขโมย** และมั่นใจยิ่งกว่าด้วยระบบเบรก ABS พร้อม
ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA)
ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า** และระบบเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า
แบบดึงกลับอัตโนมัติพร้อมระบบผ่อนแรง** อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก
ด้วยดิสก์เบรกขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับล้อขนาด15 นิ้วขึ้นไป สำหรับรุ่น GLS-Ltd.
รุ่น GLS และ GLX พร้อมรองรับล้อขนาด 16 นิ้วขึ้นไปสำหรับรุ่น GT
เบาะนั่งคู่หน้าสไตล์สปอร์ตที่ได้รับการออกแบบเฉพาะช่วยปกป้องอันตรายที่จะเกิดกับคอ
ในขณะที่ฝาประโปรงและกันชนหน้ามาพร้อมโครงสร้างที่จะช่วยซึมซับแรงกระแทก
เพื่อลดการบาดเจ็บรวมทั้งปกป้องคนเดินถนน เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด
พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระแทกจากการชนเพื่อความปลอดภัย
เมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า รวมทั้งลดอาการบาดเจ็บที่หน้าอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รุ่น GT มาพร้อมไฟหน้าติดตั้งระบบเพิ่มความสว่างขณะเข้าโค้ง (AFS) ช่วยเพิ่มพื้นที่
ในการมองเห็นสำหรับการขับขี่ยามค่ำคืน
ด้านบริการหลังการขาย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยึดแนวทาง DIAMOND ด้วยการเน้นคุณภาพสูงสุด
ของศูนย์บริการทั้ง 129 แห่ง ให้มีความพร้อมทั้งด้านการบริการ การขาย และอะไหล่ ด้วยการ
สร้างบุคลากรให้มีทักษะ เชี่ยวชาญในทุกด้าน ทั้งด้านความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่
ของรถมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ โดยการจัดอบรมพนักงานขาย พนักงานช่างศูนย์บริการ
อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังจัดสำรองอะไหล่สิ้นเปลืองไว้ เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนลูกค้า
ที่มาใช้บริการได้ทันท่วงที พร้อมการกำหนดราคาของอะไหล่ มิตซูบิชิ แลนเซฮร์ อีเอ็กซ์
ให้สามารถแข่งขันได้
มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น และมี 5 สีตัวถังให้เลือก
ทั้ง สีแดง สีบรอนซ์เงิน สีบรอนซ์ทอง สีเทาดำ และสีดำ พร้อมราคาขาย:
1. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 1.8 MIVEC GLX ราคา 831,000 บาท
2. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 1.8 MIVEC GLS ราคา 886,000 บาท
3. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 1.8 MIVEC GLS-Ltd. ราคา 899,000 บาท
4. มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ 2.0 MIVEC GT ราคา 1,034,000 บาท
ข้อมูลการขาย
1. เป้าหมายการขายในช่วง 6 เดือนแรก (ถึง มีนาคม 2553) 4,000 คัน
2. กิจกรรมการตลาด
– เปิดรับจองล่วงหน้า : ตั้งแต่ 16 กันยายน เป็นต้นไป
– เปิดขายอย่างเป็นทางการ : ตั้งแต่ 16 ตุลาคม เป็นต้นไป
– งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 16-18 ตุลาคม (10:00-21:00)
– กิจกรรมโรดโชว์ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด : ตุลาคม 2552- มีนาคม 2553
3. เปิดขายอย่างเป็นทางการ
– ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 129 แห่งทั่วประเทศ
4. ข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว
– ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง “ไดมอนด์ อินชัวรันส์” (นี่กะว่าจะแถมประกันชั้น 1 กันตั้งแต่เปิดตัวเลยเหรอ!!!)
———————————-///———————————–