ความร่วมมือระหว่างสองค่ายจากสองฟากยานยนต์โลกมิได้เพิ่งเริ่มต้นแต่ผูกสัมพันธ์ก่อนหน้านั้นแล้ว
ย้อนกลับไปปี 2005 กลุ่ม PSA เจ้าของแบรนด์เปอโยต์และซีตรองเริ่มขอความร่วมมือกับมิตซูบิชิส่งรถยนต์ SUV Outlander รุ่นล่าสุดของตน
ไปจำหน่ายในถิ่นยุโรปเพราะตอนนั้นทั้งคู่ยังขาดรถประเภทนี้ระหว่างนั้นกระแสความนิยมเอสยูวี
ช่วงนั้นก็เริ่มฮิตขึ้นมาบ้างและกระแสรถแนวครอสโอเวอร์ (ผสมผสานระหว่างเอสยูวีและรถเก๋งทำให้รถดูไม่สูงนัก)
ก็เริ่มมีแล้วการอยู่เฉยๆโดยที่ไม่คิดกอบโกยเฉพาะหน้าไปก่อนถือว่าเสียโอกาสอย่างมากและภาพแห่งความยิ่งใหญ่ของแบรนด์คงจะต้องเสียไป
ถึงจะพัฒนาเองทั้งหมดแต่ก็ต้องใช้เวลานานเกินกว่าตลาดจะรอไหว
ผลผลิตการเซ็นสัญญาครั้งนั้นจึงได้ Peugeot 4007 และ Citroen C-crosser ที่เคาะรูปร่างมาจาก Mitsubishi Outlander เกือบทั้งคัน
ยกเว้นการออกแบบรายละเอียดด้านหน้าทั้งหมดให้ตรงตามเอกลักษณ์ของแบรนด์และรายละเอียดบางจุด เ
ช่น รายละเอียดไฟท้าย,โลโก้ตามจุดต่างๆ ถูกแนะนำตัวเมื่อปลายปี 2006 ตามหลังเวอร์ชันต้นแบบประมาณ 1 ปีกว่า
PSA เคลมว่ารถของตนเป็นรถแนวครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่งที่ต้องการแชร์ตลาดนี้บ้าง
วันนี้ก็มีการเซ็นสัญญาร่วมกันพัฒนารถไฟฟ้าสำหรับตลาดยุโรปให้มิตซูบิชิมอเตอร์สประเทศญี่ปุ่นเป็นแม่งานทั้งหมด
เพราะโครงการนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน Mitsubishi I MIEV หลังใช้เวลาศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกันตั้งแต่มิถุนายน 2008
กำหนดวางจำหน่ายของทั้งสามแบรนด์คือสิ้นปี 2010 จนไปถึงต้นๆปี 2011 PSA group ตั้งยอดขายมากกว่า 10,000 คันในยุโรป
การร่วมกันพัฒนาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายร่วมกันคือการก้าวมาเป็นกลุ่มผู้นำตลาดรถพลังงานทดแทนเป็นการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคไร้น้ำมันให้เร็วที่สุดตามความต้องการของโลก
ค่ายรถยนต์ยุโรปส่วนใหญ่จึงต้องปรับตัวกันรุนแรงเพราะช่วง 10 ปีขาดแคลนเทคโนโลยีไฮบริดอย่างหนัก
ทำให้ภาพลักษณ์ในเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดูจะหลากหลายน้อยกว่าค่ายรถญี่ปุ่น
แต่โชคดีที่สามารถพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีวิวัฒนาการล้ำหน้าตลอดเวลาเราจึงเห็นเครื่องดีเซลที่ลดมลภาวะ สะอาด
มีสมรรถนะและประหยัดน้ำมันไปในตัว
การข้ามขั้นไปพัฒนารถไฟฟ้าและพลังเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ของค่ายรถยุโรปจึงเป็นทางที่ควรเดินมากกว่าจะพัฒนารถไฮบริด
ที่จะต้องตามหลังโตโยต้าไปอีก 10 ปี ดังนั้นความร่วมมือนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นพัฒนารถไฟฟ้าอย่างเต็มตัว