ภารกิจที่สำคัญของ Mini ณ เวลานี้คือการพยายามพัฒนารถยนต์ Mini เจเนเรชั่นใหม่ให้เหลือเพียงแค่ 5 โมเดลจน
กลายเป็นรถยนต์รุ่นหลักที่สามารถพึ่งพายอดขาย จากแต่ก่อนที่มัวแต่พึ่งพายอดขาย Mini Original (รุ่น 3 ประตู) เป็น
หลัก คราวนี้ Mini ต้องคิดหัวแตกว่าจะทำยังไงให้ Mini ทุกรุ่นขายดีและมีที่ยืน

ในระหว่างที่ Mini ค่อย ๆ ทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์แต่ละเฉพาะตัวถังเข้าสู่ตลาด Mini ก็
จัดการเผยโลโก้ใหม่ที่มาแนว Flat Design อันเป็นปรัชญาการออกแบบภาพกราฟิกยุคใหม่ที่เน้นความเรียบง่ายตั้งแต่
ลายเส้น, การจัดวางและการลงสี

แนวคิดของโลโก้ใหม่คือ ขจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปมากที่สุดเพื่อเหลือสิ่งสำคัญมากที่สุด ดังนั้นฟอนต์, ดีไซน์, การใช้โทนสี
จึงได้แรงบันดาลใจบนหลักการของความชัดเจนและความถูกต้องซึ่งก็สอดคล้องกับภาพพจน์แบรนด์ Mini ที่จะมีรถยนต์
เหลือเพียงแค่ 5 รุ่นหลักเท่านั้น

ในอนาคต Mini Core Product ทั้ง 5 รุ่นก็ต้องแตกเพื่อโตและขยายตนเองเพื่อให้แตะในกลุ่ม Premium Compact
Class (ปัจจุบัน Mini จับตลาด Premium Small Class ซึ่งก็จำกัดกลุ่มลูกค้าและยอดขาย) โดยเฉพาะ Mini Clubman
โฉมใหม่ที่ขยายขนาดสอดคล้องกับการคาดการณ์ว่าลูกค้ามีความต้องการรถคอมแพคท์ระดับหรูที่มีอัตราเติบโตสูง 4%
หรือรถยนต์คอมแพคท์หรูมีสัดส่วนการตลาดสูงถึง 27% ในปี 2020

ปัจจุบัน Mini ได้ยกเลิกสายการผลิต Roadster และ Coupe ในอนาคตก็อาจจะยุบสายการผลิต Paceman ทิ้งด้วย
เช่นกัน

ที่มา : Carscoops