เวลานี้คงไม่มีบริษัทรถยนต์หน้าไหนที่จะเฉยเมยตลาดรถไฟฟ้าอีกต่อไป เพราะถ้ากล้า
ทำรถออกมาดีจริงและผู้บริโภคก็มองเห็นประโยชน์จริง มันก็สามารถทำยอดขายเป็น
กอบเป็นกำได้แน่ แต่ถ้าทำไม่ถึง เห็นทีต้องยอมรับสภาพและปรับปรุงพัฒนาให้ผู้บริโภค
ยอมรับได้เท่านั้น

Mercedes-Benz ก็ถือเป็นค่ายที่เห็นความสำคัญของรถยนต์พลังไฟฟ้า แต่ก็ยังไม่ชัดเจน
มากจนกระทั่ง Tesla ได้ถือกำเนิดขึ้น เมื่อนั้นแหล่ะ Mercedes-Benz ก็รีบกระโจนเข้า
สังเวียนรถไฟฟ้าแบบไม่คิดหน้าหลัง

2016_05_23_MB

แต่สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ Mercedes-Benz ต้องตัดสินใจกระโจนเข้าสู่
ตลาดรถไฟฟ้าอย่างเต็มตัวนั่นเป็นเพราะรัฐบาลเยอรมนีประกาศออกมาแล้วว่าจะออก
งบส่งเสริมการซื้อรถไฟฟ้าของครัวเรือน 1.2 พันล้านยูโร

Thomas Weber ผู้บริหารแผนกพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ประจำ Mercedes-Benz
จึงวางรากฐานบริษัทพัฒนารถไฟฟ้ารุ่นใหม่ 4 รุ่นที่จะเตรียมจำหน่ายภายในปี 2020 นี้
ประกอบไปด้วยรถซีดาน 2 รุ่นและเอสยูวี 2 รุ่น

เรื่องน่ามหัศจรรย์คือรถไฟฟ้าทั้ง 4 รุ่นจะต้องแชร์งานวิศวกรรมและชิ้นส่วนประกอบร่วม
กันให้มากที่สุดตั้งแต่ ขุมพลัง แม้กระทั่งกระจกบังลมและโครงสร้างหลังคา มีแนวทาง
การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อบ่งบอกว่ามันคือรถปลอดมลพิษ

ก็แน่นอนว่า Mercedes-Benz จะต้องทำรถไฟฟ้าสำหรับแข่งกับ Tesla โดยตรง และ
จะต้องมากำราบ Audi ที่คิดจะทำรถไฟฟ้าออกขายในปี 2018 อีกด้วย

มีความเป็นไปได้สูงว่า Mercedes-Benz จะพัฒนารถไฟฟ้าทั้ง 4 รุ่นแยกต่างหากจาก
C-Class, S-Class, GLA และ GLC โดยลงทุนพัฒนาพื้นตัวถังและงานวิศวกรรมแบบ
ใหม่ที่ชื่อว่า MEA (Modular Electric Architecture) ที่ดัดแปลงมาจากพื้นตัวถัง
MRA สำหรับรถซีดาน 2 รุ่นและเอสยูวีขนาดคอมแพคท์ซึ่งมีจุดเด่นด้านระบบส่งกำลัง
ที่มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังหรือแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

ส่วนรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดก็จะใช้พื้นตัวถังใหม่ที่ดัดแปลงมาจาก MFA

แหล่งข่าวภายใน Mercedes-Benz ยังแอบปล่อยข่าวมาว่าพวกเขากำลังพัฒนารถ
ไฟฟ้าที่มีพละกำลังตั้งแต่ 101 แรงม้าจนไปถึง 536 แรงม้า

ไฮไลต์สำคัญคือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนที่ผลิตโดย Accumotive จนทำให้
มีระยะทางวิ่งสูงสุดมากกว่า 400 กิโลเมตรจนทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ารถไฟฟ้ามันเป็นรถ
ทางเลือกที่สมบูรณ์แบบนอกเหนือจากรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน, ดีเซลและ Hybrid

ที่มา : Autocar