Mercedes-Benz อาจจะนำความได้เปรียบในประวัติศาสตร์เอสยูวีเหนือคู่แข่งมา
ประยุกต์และต่อยอดความสำเร็จใหม่ให้กลายเป็นเอสยูวีรุ่นใหม่ที่โดนใจคนรุ่นใหม่
และคนรุ่นเก่า และแน่นอนว่าแผนการนี้ก็จะทำให้ Mercedes-Benz จะมีไลน์อัพ
เอสยูวีที่มีบุคลิกทิ้งห่างจากคู่แข่งไปอีกขั้นหนึ่ง
Mercedes-Benz G-Class หรือ G-Wagen เปรียบเสมือนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม
เอสยูวีของค่ายนี้ ถ้าปล่อยให้มันตายจากสายลมคงไม่ดีแน่ Mercedes-Benz จึงเตรียม
ปรับปรุงและพัฒนา G-Class โฉมต่อไปให้ทันสมัยขึ้นและสำคัญที่สุดความขลังของ
ตระกูล G-Class ก็จะถูกนำไปถ่ายทอดลงสู่เอสยูวีขนาดเล็กรุ่นใหม่นามว่า GLB
Mercedes-Benz ได้วางแผนพัฒนา GLB ให้เป็นเอสยูวีแทรกกลางระหว่าง GLA และ
GLC ด้วยรูปลักษณ์ที่ฉีกออกไปคือการนำแรงบันดาลใจดีไซน์จาก G-Class มาประยุกต์ใช้
จับตลาดลูกค้าที่ต้องการเอสยูวีแนว icon โดดเด่นที่มีดีไซน์เหลี่ยมกล่องในราคาที่สัมผัส
ได้ง่ายขึ้นมาก
แหล่งข่าวต้นทางเข้าใจว่า Mercedes-Benz GLB น่าจะถูกออกแบบด้วยดีไซน์ที่คล้าย ๆ
รถต้นแบบ Ener-G-Force การตีความรถสไตล์ G-Class ย้อนยุคให้เข้ากับ Design Theme
แบบล่าสุด
ในเมื่อมันเกิดเป็นรุ่นหลานของ G-Class ขนาดนี้ Mercedes-Benz GLB ก็ต้องมี
งานวิศวกรรมที่สดใหม่กว่ารถเจ้าคุณปู่มาก ๆ เพราะ GLB จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นตัวถัง
ขับเคลื่อนล้อหน้าพัฒนาใหม่ MFA2 พื้นตัวถังที่นำไปใช้ในการพัฒนา A-Class โฉมใหม่
ที่จะเปิดตัวในปี 2018 และ GLA ใหม่ในปี 2019 และยังมีความเป็นไปได้ว่า GLB ใหม่
จะมีรุ่นฐานล้อยาวเพิ่มขึ้น 120 มิลลิเมตรสำหรับติดตั้งเบาะผู้โดยสารแถวที่ 3 ให้เลือก
Mercedes-Benz GLB ใหม่จะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลตระกูลใหม่ที่สามารถนำไปติดตั้ง
ลงในรถยนต์ Mercedes-Benz ทุกรุ่นได้ซึ่ง Mercedes-Benz ถึงขนาดทุ่มเงินพัฒนาถึง
3 พันล้านยูโรสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล Modular ใหม่กันเลย
เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรตัวใหม่นี้จะให้กำลังตั้งแต่ 160 แรงม้าไปจนถึง 190 แรงม้าจับ
คู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ สำหรับ Mercedes-AMG GLB 45 จะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน
2.0 ลิตรเทอร์โบ 400 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะและขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น
Mercedes-Benz GLB จะเปิดตัวในปี 2019 ตามหลัง G-Class รุ่นอัพเดทใหม่ที่จะ
เปิดตัวในช่วงปลายปี 2017
ที่มา : AutoExpress