นับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 1992 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Lancer Evolution ซีดานสมรรถนะสูง
ขับเคลื่อนสี่ล้อจากมิตซูบิชิ เปิดตัวสู่ตลาด ล่วงเลยจนมาถึงวันนี้เป็นระยะเวลากว่า 23 ปี
แห่งประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ เพราะนี่จะเป็นปีสุดท้ายที่มิตซูบิชิจะทำตลาดสำหรับรถรุ่นนี้

002

Lancer Evolution Final Edition จะเป็นรุ่นสุดท้ายเพื่อทิ้งทวนให้เหล่าสาวกได้จับจองกัน
จำนวนจำกัดเพียงแค่ 1,000 คันและจะจำหน่ายเฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น วางแผนจะเริ่มจำหน่ายจริง
ช่วงเดือนสิงหาคมของปีนี้

การตกแต่งภายนอกที่แตกต่างไปจากรุ่นปกติคือ กระจังหน้าสีดำเงา Black Hi-gloss
กันชนล่างบริเวณช่องดักลมพ่นเป็นสีดำเงา ล้อ Forged Lightweight Aluminum จาก BBS
ขนาด 18 นิ้ว สี Gun Metalic พร้อมยางขนาด 245/40 R18

003

เครื่องยนต์ยังไม่ได้ถูกระบบสเป็คที่แน่ชัด แต่จะเป็นเครื่อง 4B11 ขนาด 2.0 ลิตรพร้อม
วาล์วแปรผัน MIVEC เทอร์โบชาร์จเจอร์จาก HKS + remap ECU จับคู่กับเกียร์ธรรมดา
5 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วงล่างถูกปรับปรุงให้พิเศษยิ่งขึ้นใช้ช็อคอัพ
จาก BLISTEIN และชุดสปริงจาก Eibach ระบบดิสก์เบรกด้านหน้า 4pots และด้านหลัง
2pots พร้อมครีบระบายความร้อนจาก BREMBO

ภายในถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำ พวงมาลัย หัวเกียร์ เบรกมือ และคอนโซลเดินด้ายสีแดง
เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Bucket Seat จาก RECARO เสริมด้วยป้าย VIN No. บริเวณฐานเกียร์
เพื่อบ่งบอกลำดับเลขตัวรถที่ผลิตออกมาให้ความรู้สึกที่พิเศษและมีมนต์ขลัง

005 006

และสีตัวถังมีให้เลือกด้วยกัน 5 สี ได้แก่
– สีแดง Red Metalic
– สีเ
ทา Cool Silver Metalic
– สีดำมุก Phantom Black Pearl
– สีน้ำเงิน Lightning Blue Mica
– สีขาวมุก White Pearl

ตัดด้วยหลังจากที่สามารถเลือกได้ ด้วยกัน 2 สี คือสีดำและสีขาว พร้อมป้ายสัญลักษณ์
” Final Edition ” ที่ฝากระโปรงท้ายควบคู่ไปกับสปอยเลอร์หลังหางปลาและชุดแต่ง
สเกิร์ตรอบคันในแบบ Evolution X ทั้งหมดนี้สนนราคาอยู่ที่  4,298,400เยน
(หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 1.2 ล้านบาท)

ก็ถือเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งที่น่าเศร้าสำหรับรถระดับตำนาน ที่นักซิ่งทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี
ที่ต้องจากเราไปในปี 2015 นี้ หวังว่าทุกคนจะจดจำรถรุ่นนี้ไปอีกนานแสนนาน…..

.
.
.
.
.

For EVOLUTION

008