เรียกได้ว่า มาแรงๆ สุด สำหรับกระแสพูดถึงรถกระบะ Isuzu Restomod TFR ปี 1998 หรือ “DRAGON MAX” ซึ่งเป็นการนำเอารถรุ่นตำนานอย่าง Isuzu Faster Z รหัสตัวถัง TFR มาดัดแปลงให้ทันสมัยขึ้น ทั้งดีไซน์ภายนอก ภายในห้องโดยสาร ตลอดจนงานวิศวกรรมด้านต่างๆ ที่ถูกอัพเกรดใหม่ตามแนวคิด “ความยิ่งใหญ่ในอดีต ผสานนวัตกรรมแห่งอนาคต” โดยงานนี้ Isuzu ได้ร่วมมือกับพันธมิตรหลายสำนัก จากหลายแขนง จนกระทั่งได้มาซึ่งไฮไลท์เด่นของงาน Bangkok International Motor Show ปีนี้


สำหรับรายละเอียดด้านงานวิศวกรรมที่ Isuzu Restomod 1998 TFR หรือ ISUZU DRAGONMAX ได้รับการอัพเกรด จะประกอบไปด้วย 4 ด้านหลัก ได้แก่ เครื่องยนต์ ระบบช่วงล่างพร้อมระบบบังคับเลี้ยว ดีไซน์ภายนอก และดีไซน์ภายใน โดยมีรายละเอียดดังนี้
เครื่องยนต์
- ขุมพลังดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE
- ห้องเครื่องสร้างใหม่โดย BRD
- เพิ่มความแรงเต็มสปีดด้วยกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU SHOP Ultra Boost
- ปรับจูน 220 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร
- คันเร่งไฟฟ้า Boost Speed Next




ระบบช่วงล่างพร้อมระบบบังคับเลี้ยวใหม่
- ชุดแร็คพวงมาลัย ปีกนก คอม้า และเพลาท้ายใหม่
- ชุดโช้กอัพ Profender รุ่น Queen Series & Piggy Back
- ล้อแม็กซ์ Bradley-V ขนาด 8 x 17 นิ้ว
- ยาง Yokohama Advan Fleva V701 ขนาด 225/50/17
- ชุดจานดิสก์เบรกหน้า – หลัง Brembo พร้อมจานเบรก ขนาด 340 และ 320 มิลลิเมตร






ดีไซน์ภายนอก
- ดีไซน์กันชนหน้า, กระจังหน้า, ฝากระโปรงหน้าใหม่
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟ DRL ที่กันชนหน้า
- ชุดสเกิร์ตข้างดีไซน์ใหม่แบบ Muscle Line ที่ซุ้มล้อ
- ฝากระบะท้ายพร้อมสปอยเลอร์ Duck Tail ดีไซน์ใหม่
- ดุดันยิ่งขึ้นด้วยโป่งล้อที่แก้มหน้าและกระบะท้ายแบบ Wide Body
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
- ชุดไฟท้าย LED ใหม่ สะท้อนความทันสมัย
- สีตัวรถ Katana Matte Silver







ดีไซน์ภายใน
- ภายในเพิ่มความหรูหราแฝงรสนิยมขั้นสุดด้วยคอนโซลหน้าและเบาะ Alcantara ยกเซต
- เบาะ Recaro Premium Classic Seat หุ้ม Alcantara
- มาตรวัด AIM MXT ขนาด 10 นิ้ว วัดค่าความเร็ว วัดรอบเครื่องยนต์ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ความร้อนหม้อน้ำ และวัดบูสต์
- จอกลางแบบ Android ขนาด 11.8 นิ้ว
- ฟังก์ชั่นต่าง ๆ จากกล่องพ่วงเพิ่มแรงม้า ECU Shop Ultra Boost เช่น วัดบูสต์ วัดแรงดันเชื้อเพลิง และอุณหภูมิภายนอก













ชมคันจริง ISUZU DRAGON MAX ได้ที่บูธ ISUZU ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2025 ที่ Impact Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี
————–//————–
Photo by SANK Ritthiphon Saiyaphrom (Headlightmag)