Isuzu MU-X เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก ที่ประเทศไทย เมื่อ 31 ตุลาคม 2013 จากนั้นก็มีการปรับโฉมเล็กๆน้อยๆ เรื่อยมา ล่าสุดที่มีการปรับ Minorchange ในไทย คือ ช่วง เดือน กุมภาพันธ์ 2017 จากนั้นก็จะเป็นรุ่นพิเศษ รุ่นปรับอุปกรณ์ เล็กน้อยรายปีตามปกติ
คราวนี้ถึงคิวการปรับอีกรอบ โดยเตรียมเปิดตัวในช่วงเดือน มีนาคมนี้ คาดว่าเป็นการปรับโฉม Minorchange อีกครั้ง มีการเพิ่มสีตัวถังภายนอก สีแดงใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 17 – 18 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมเพิ่มสิ่งที่ทุกคนรอคอย ” ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ” (คู่หน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง และ ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง)
จากภาพที่มีคุณผู้อ่านถ่ายได้ Isuzu MU-X Minorchange ส่งมาให้ทาง Headlightmag พบว่าสิ่งที่เพิ่มมาเบื้องต้น คือ
- เพิ่ม สีตัวถังภายนอก สีแดงใหม่
- เปลี่ยน กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
- เปลี่ยน ล้ออัลลอย ลายใหม่แบบทูโทน ปัดเงา (ขนาดน่าจะ 17 – 18 นิ้ว)
- เพิ่ม ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า – ด้านข้าง – ม่านนิรภัย)
ทางด้านเครื่องยนต์ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มี 2 ทางเลือก คือ
ดีเซล 1.9 VGS Turbo
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส RZ4E-TC ขนาด 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี. Commonrail Direct Injection พ่วงเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo และ Intercooler กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.0 x 94.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ดีเซล 3.0 VGS Turbo
เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4JJ1-TCX ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. Commonrail Direct Injection พ่วงเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo และ Intercooler กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 95.4 x 104.9 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 กำลังสูงสุด 177 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที
ส่วนภายในห้องโดยสารของ MU-X ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด ว่าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เหมือนกันเวอร์ชั่นจีน หรือไม่ ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา (อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/isuzu-mu-x-minorchange-chinese-version-photo/)
Isuzu MU-X Minorchange เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายในเดือน มีนาคมนี้ หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/69189.0