Infiniti เคยเป็นแบรนด์รถหรูที่เคยจำหน่ายในยุโรปช่วงยุค 90s แล้วค่อยเลือนหายจากตลาด จนกลับมาอีกครั้งในปี 2008 โดยแนะนำรุ่น FX, EX และ G-Series มาทำตลาด และพยายามผลักดัน Q30 และ QX30 ในยุโรป จนดูเหมือนว่ายอดขายในปี 2016 ก็พุ่งถึง 13,775 คัน เมื่อเทียบกับปี 2015 ที่ขายได้แค่เพียง 5,427 คัน และในปี 2017 ขายได้ 12,571 คัน เมื่อยอดขายดีขึ้นขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเรียกว่าน่าพอใจนัก เนื่องจากมันยังห่างจากเป้าหมายอีกมากนัก
ข่าวในเบื้องต้นได้ยินมาว่าทางคณะกรรมการบริหารมีสิทธิ์คิดจะถอนแบรนด์ Infiniti ออกจากตลาดยุโรป ถ้ามองไม่เห็นแนวโน้มของยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
Infiniti กำลังประสบปัญหายอดขายรถยนต์ที่ไม่มีใกล้หรือเฉียดเป้าหมายแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น Infiniti Q30 รถฝาแฝด Mercedes-Benz A-Class ที่ตั้งเป้าขายไว้แค่ 30,000 – 40,000 คัน (ขณะที่คู่แข่งเจ้าตลาดขายได้ถึงปีละ 160,000 คัน) แต่ขายจริงกลับทำได้แค่เพียง 8,453 คันเมื่อปี 2016 พอถึงปี 2017 ก็ลดลงเหลือ 7,617 คัน และยอดขายในช่วง 11 เดือนของปี 2018 ขายได้ไม่ถึง 3,000 คัน และเดือนตุลาคม 2018 มีอาการโคม่าสุดเพราะทำยอดขายได้แค่ 95 คันเท่านั้น
เมื่อสำรวจยอดขายรวมพบว่า Infiniti มียอดขายในช่วง 1 เดือนปี 2018 ได้แค่เฉียด ๆ 6 พันคัน เนื่องจากพวกเขาประสบปัญหาตัวรถที่ไม่ผ่านค่าไอเสียมาตรฐานใหม่และฐานการผลิตในอังกฤษก็ไม่เอื้อต่อการส่งออกรถยนต์ทั่วยุโรปแต่อย่างใด
มีความเป็นไปได้สูงว่า Infiniti คงมุ่งเน้นยอดขายในตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก เนื่องจากตลาดนี้มีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 70% เมื่อเทียบกับยอดขาย infiniti ทั่วโลก
ที่มา : Motor1