ในงาน WWDC 2013 ที่ผ่านไปเมื่อต้นสัปดาห์ Apple บริษัทเทคโนโลยีชื่อดังของโลก ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ
สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของตนในเวอร์ชันใหม่ ด้วยชื่อ iOS 7 ที่นอกจากมีการพลิกโฉมหน้าตาอินเตอร์เฟซ
และมาพร้อมกับลูกเล่นใหม่ๆแล้ว ยังมีอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้คนในวงการรถยนต์ได้ตื่นเต้นด้วยเหมือนกัน
เพราะ Apple ได้คืบคลานเข้ามาสู่วงการรถยนต์มากขึ้น ด้วยการใส่ฟีเจอร์ iOS in the Car หรือลูกเล่นที่สามารถ
เชื่อมต่อ iPhone, iPod touch และ iPad เข้าสู่ระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถยนต์ เพื่อสามารถควบคุมการเล่น
เพลง การพูดคุยโทรศัพท์หรือการรับข้อความ ไปจนถึงการใช้ระบบนำทางผ่านแอพพลิเคชั่น Maps ของอุปกรณ์ iOS
ได้โดยตรง
Apple กล่าวว่า iOS in the Car ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นไป
ไม่ว่าจะเป็น Nissan, GM, Mercedes-Benz, Honda, Volvo, Hyundai, Kia, Jaguar ไปจนถึง Ferrari ฯลฯ
ซึ่งนั่นหมายความว่าผู้ใช้รถยนต์ในแบรนด์ข้างต้นจะสามารถเชื่อมต่อฟังก์ชันของ iPhone, iPad หรือ iPod touch
เข้ากับรถยนต์ของตน และใช้ความสามารถหลายๆอย่างได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยการเชื่อมต่อกับตัวรถผ่านหน้าจอ
ระบบอินโฟเทนเมนต์ของตัวรถ และสั่งงานด้วยเสียงอย่างง่ายดายผ่านระบบ Siri
แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าว อาจทำให้เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ไม่สบายตัวอย่างที่คิด ตามการวิเคราะห์ของ Thilo Koslowski
จากบริษัท Gartner Inc. อันเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีอินโฟเทนเมนต์บนรถยนต์
Koslowski กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Apple จะสร้างความกดดันให้กับบริษัทรถยนต์อย่างมาก เพราะ
ลูกเล่นต่างๆที่บริษัทรถยนต์เคยนำเสนอผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ของตน จะถูกเปลี่ยนเป็นการถูกควบคุมจาก Apple
ทั้งหมด โดยเฉพาะในแบรนด์ชั้นนำอย่าง Mercedes-Benz หรือ GM ที่มีระบบอินโฟเทนเมนต์เป็นเอกลักษณ์
ที่สร้างความแตกต่างให้กับรถยนต์ของตน จะถูกลดทอนความสำคัญลงไป แต่ในขณะเดียวกัน iOS in the Car
ก็จะเป็นผลประโยชน์แบรนด์รถยนต์อื่นๆที่มีระบบอินโฟเทนเมนต์คุณภาพต่ำหรือไม่นิยม
ฟีเจอร์ iOS in the Car สร้างความน่าสนใจด้วยการผนวกการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับตัวรถ และให้ผู้ขับขี่
สามารถสั่งใช้งานลูกเล่นต่างๆด้วย Siri ระบบรับฟังคำสั่งเสียงอันโด่งดังจาก Apple ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องละ
สายตาออกจากถนน เพราะสามารถใช้คำสั่งเสียงได้อย่างธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ค่าย BMW แม้จะเป็นค่ายรถยนต์แรกที่รองรับการเชื่อมต่อกับ iPod เมื่อปี 2004
และกำลังจะเพิ่มฟีเจอร์ Siri Eyes Free เข้ากับระบบ iDrive ของตนในปี 2014 นี้ กลับไม่มีแผนรองรับการใช้งาน
iOS in the Car ซึ่ง David Buchko โฆษกของค่าย BMW กล่าวสั้นๆเพียงว่าในขณะนี้ระบบ iDrive รองรับการ
เชื่อมต่อกับ iPhone ได้ลงตัวที่สุด และ BMW ได้ใส่ใจและพิจารณาอย่างละเอียดสำหรับการนำประสบการณ์ใช้งาน
ใหม่ๆมาสู่ผู้ใช้ BMW ทุกคน ซึ่งเป็นไปได้ว่า BMW ยังคงมั่นใจว่าระบบ iDrive ของตน เป็นระบบอินโฟเทนเมนต์
ที่เหมาะสมกับรถยนต์ BMW มากที่สุด
ท้ายที่สุด Koslowski กล่าวว่า ทีมผู้บริหาร Apple ตระหนักได้ว่าระบบอินโฟเทนเมนต์ในวงการรถยนต์ เป็นอีกหนึ่ง
เทคโนโลยีที่มองข้ามไปไม่ได้ ยิ่งในปัจจุบันการแข่งขันในเหล่าบริษัทเทคโนโลยีนั้นมีสูงมาก ดังนั้นการพยายามเข้า
ครอบครองในตลาดกลุ่มนี้จะช่วยทำให้ Apple ยังคงเป็นผู้นำอย่างแข็งแกร่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วเหล่าบริษัทรถยนต์
เองก็ควรพิจารณาการร่วมมือกับ Apple อย่างละเอียดและรอบคอบ เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมมากจนเกินแก้ไข
ที่มา : Automotive News