Hyundai i20 รุ่นปัจจุบันเปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ที่มาพร้อมกับทิศทางการออกแบบ Fluidic Sculpture 2.0 มีเส้นสายและสัดส่วนที่ดูเหลี่ยมสันขึ้นมาก แต่ก็ทดแทนด้วยสัดส่วนตัวถังที่ดูร่วมสมัยขึ้น ด้วยด้านหน้าห้องเครื่องที่เพรียวยาวและตัวรถที่ดูเตี้ยแบนลง

ผลลัพธ์หลังจากการเปิดตัว Hyundai i20 ตั้งแต่ปี 2014 ก็พบว่ายอดขายในโซนยุโรป ขายดีกว่าที่คิดจนสามารถสร้างยอดขายทะลุ 1 แสนคันในปี 2017 เป็นครั้งแรกของรถยนต์ตระกูล i20 และในตลาดอินเดียที่จำหน่ายในชื่อ Elite i20 สามารถทำยอดขายถึง 9,000 – 12,000 คัน/เดือนโดยเฉลี่ย นั่นก็น่าจะเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ Hyundai ต้องเปิดตัว i20 Minorchange ล่าช้ากว่าปกติ

งานนี้ Hyundai i20 Minorchange ลงทุนปรับโฉมเพื่อเพิ่มความสดใหม่ ให้แก่ตัวถัง Hatchback มาตรฐานและเวอร์ชันยกสูง Active แต่ตัวถัง 3 ประตู Coupe ยังไม่มีการปรับโฉม

สำหรับ Hyundai i20 Minorchange ตัวถัง Hatchback มาตรฐานจะมีการเปลี่ยนกันชนหน้าที่มีช่องดักลมใหม่ทรง Cascade Grille ดูอ่อนช้อย แต่กลับกัน i20 Active Minorchange แทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของดีไซน์ด้านหน้าเลย

Hyundai i20 Minorchange ทุกเวอร์ชันจะเปลี่ยนกันชนท้ายใหม่, โคมไฟท้ายใหม่ และเปลี่ยนฝากระโปรงท้ายใหม่ ติดตั้งป้ายทะเบียน พร้อมพ่นสีตัวถังครึ่งคันบนเป็นสีดำ Phantom Black ที่สามารถจับคู่สีโดนใจได้หลายคู่สี

ภายในห้องโดยสารติดตั้ง หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Apple และ Android และเพิ่มสีสันให้แก่ภายในด้วยการแซมวัสดุ/การเดินด้ายด้วยสีแดงหรือสีฟ้า

เครื่องยนต์

  • เบนซิน 1.0 ลิตร T-GDI 100 แรงม้า (PS) จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
  • เบนซิน 1.0 ลิตร T-GDI 120 แรงม้า (PS) จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
  • เบนซิน 1.2 ลิตร Kappa 75/84 แรงม้า (PS) จับคู่เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
  • เบนซิน 1.4 ลิตร Kappa 100 แรงม้า (PS) จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

Hyundai i20 Minorchange ติดตั้งระบบช่วยเหลือความปลอดภัย Hyundai SmartSense ดังต่อไปนี้

  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Alert
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ Automatic Braking
  • ระบบแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Keep Assist with Lane Departure Warning
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ

คาดว่า Hyundai น่าจะลากขาย i20 Minorchange ไปสัก 3-4 ปีก่อนที่จะเปลี่ยนโฉมใหม่

ที่มา : Motor1