ทันทีที่ Hyundai เปิดตัว Genesis G70 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั่นก็เท่ากับว่า Hyundai ก็ต้องมอง BMW และ Mercedes-Benz เป็นคู่แข่งเบอร์สำคัญ ๆ และเชื่อว่า ผู้บริหาร Hyundai คงวางแบรนด์ Genesis ให้มีสถานะเทียบเคียงกับเจ้าตลาดแบรนด์รถหรูในอนาคตข้างหน้า และชนวนสำคัญที่เร่งอุณหภูมิการแข่งขันรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมให้ร้อนแรงขึ้นไปอีกก็คือ ผู้บริหาร Hyundai/Genesis กล้าวิจารณ์รถยนต์ BMW และ Mercedes-Benz ว่าติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคมากจนเกินไป
Albert Biermann ผู้บริหารฝ่ายพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูง Hyundai N และยังเป็นผู้รับผิดชอบการบริหารแบรนด์รถยนต์หรูน้องใหม่ Genesis ผู้ซึ่งเคยมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับ BMW M มานานถึง 30 ปีก่อนที่จะย้ายสังกัดในปี 2015 ได้วิจารณ์ถึงรถยนต์ BMW และ Mercedes-Benz ยุคใหม่ที่งานเปิดตัว Genesis G70 ว่า พวกเขาใช้เวลาและเงินทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่ได้ให้คุณค่าแก่ลูกค้ามากจนเกินไป
Biermann มองว่าการติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคที่ซับซ้อนมากเกินไป มันจะเสี่ยงต่อการใช้งานที่บกพร่อง ภาระทั้งหมดก็จะตกอยู่กับลูกค้าในการซ่อมและบำรุงรักษา อีกทั้งลูกเล่นด้านเทคโนโลยีไม่ใช่ไฮไลต์สำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถเลย ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาดเท่านั้น
และนี่ก็คือเหตุผลสำคัญที่ Biermann วางหมากให้แบรนด์รถหรู Genesis เป็นแบรนด์ที่แตกต่างจากรายอื่น ๆ ด้วยการหันมาใช้เทคโนโลยีอันเรียบง่าย ที่ช่วยทำให้ลูกค้าขับ Genesis ได้อย่างอุ่นใจในระยะยาว ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายของ Chung Mong-koo : CEO แห่ง Hyundai Motor ที่ปรารถนาให้รถยนต์ Hyundai และ Genesis มีความทนทาน น่าเชื่อถือ และ “ดูเหมือนใหม่” หลังจากวิ่งบนท้องถนนมานานนับ 10 ปี
ที่สำคัญรถยนต์ Hyundai, Genesis และ Kia ก็ต้องผ่านการทดสอบที่เหนือกว่ามาตรฐานการทดสอบของรถยนต์ยุโรปไปอีกขั้น โดย Biermann เผยว่า การทดสอบรถยนต์ของพวกเขาต้องเข้มข้นมากกว่าใคร ๆ รถแต่ละรุ่นจะต้องทดสอบบนสภาวะถนนพื้นหินอ่อนและหลุมบ่อสุดย่ำแย่ชนิดที่ผู้อ่านไม่สามารถจินตนาการได้ออกเป็นระยะทาง 30,000 กิโลเมตร ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาในเมืองนัมยาง ประเทศเกาหลีใต้ หลังจากนั้นก็จะย้ายรถไปทดสอบที่สนาม Nurburgring เป็นระยะทาง 10,000 กิโลเมตร
Biermann เชื่อว่าการที่ค่ายรถยนต์เยอรมันไปโฟกัสกับเทคโนโลยีล้ำสมัยล่าสุดทำให้พวกเขาสามารถชิงพื้นที่สื่อและการสื่อสารทางการตลาดได้มาก แต่เมื่อมองในอีกมุม ลูกค้ากลับมีประสบการณ์การใช้งานเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยกตัวอย่าง ถ้าอยากจะขาย Genesis G90 : Flagship Luxury Sedan ในตลาดสหรัฐอเมริกา คู่แข่ง BMW 7-Series และ Mercedes-Benz S-Class พวกเขาจะไม่สื่อสารกับลูกค้าด้วยการออกรถยนต์ต้นแบบที่พร้อมวิ่งในสนามแข่ง ทั้งที่จริงแล้วรถหรูขนาดใหญ่หนัก 2.2 ตัน ไม่มีทางที่จะเป็นรถแข่งได้เลย
ดังนั้น Genesis จึงสร้างกลยุทธ์เพื่อลูกค้าเป็นอันดับแรก ไม่ใช่เพื่อสื่อ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในตัวรถจึงคุ้มค่าเงิน แน่นอนว่า เราจึงไม่ได้เห็น Genesis G90 ติดตั้งช่วงล่างถุงลม หรือ active roll-bars หรือระบบปรับระดับช่วงล่างอัตโนมัติอื่น ๆ ให้เห็น มีเพียงแค่โครงสร้างตัวถังโลหะและโลหะที่ทนต่อการบิดตัวสูง มันอาจจะหนักกว่ารถคันอื่นเสียหน่อย ก็มีเพียงแค่โช๊คอัพปรับระดับได้เท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้ Genesis G90 ได้รับการยอมรับจาก Consumer Report ว่าเป็นรถที่เหนือกว่า Mercedes-Benz S-Class และเกือบจะเหนือกว่า BMW 7-Series โดยไร้อุปกรณ์ Fancy ต่าง ๆ
ที่มา : Motor1