สำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐ (NHTSA) ได้เปิดเผยการสอบสวนในกรณีรถ Honda Accord (ปี 2018-2019) และ Honda CR-V (ปี 2017-2019) จำนวนกว่า 1,732,000 คัน มีความเสี่ยงที่ระบบเบรกอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า (Collision Mitigation Braking System) ทำงานปิดปกติ
โดย NHTSA ได้รับร้องเรียนจำนวนกว่า 278 ราย แบ่งเป็น Accord จำนวน 171 ราย และ CR-V จำนวน 171 ราย และที่น่าตกใจไปกว่านั้น มีจำนวนถึง 6 เคส ที่เกิดการทำงานผิดพลาดจนเกิดการชน และมีรายงานการบาดเจ็บเล็กน้อย สำหรับอาการของรถ เริ่มจากระบบเบรกอัตโนมัติพยายามที่จะทำงานขึ้นเอง ในขณะที่ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ อยู่ด้านหน้า และบางครั้งก็ไม่มีการแจ้งเตือนตามที่ระบบปกติควรจะทำ ที่สำคัญคือ บางรายพบอาการนี้ในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
มีกรณีตัวอย่างที่ได้รับรายงานจาก Autonews.com ว่า “ระหว่างที่ผู้ขับขี่กำลังเดินทางบนถนนชานเมือง จู่ๆ ก็มีไฟแสดงว่าระบบทำงานกะพริบ พร้อมทั้งมีการทำงานของเบรก เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นถึง 2 ครั้งในรอบ 6 เดือน และข้างหน้ารถไม่มีสิ่งกีดขวางหรือรถคันอื่น” โชคดีที่เคสนี้ผู้ขับขี่สามารถกระทืบแป้นเบรกเพื่อตัดการทำงานของระบบและนำรถเข้าสู่ความเร็วปกติได้
เป็นที่น่ากังวลใจว่า ระบบเบรกอัตโนมัติอาจทำงานผิดพลาดแล้วก่อให้เกิดการชนจากด้านท้าย ทั้งๆ ที่ควรจะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทาง NHTSA จึงได้เริ่มทำการสอบสวนตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในขณะที่ Honda ก็จะให้ความร่วมมือในการตรวจสอบครั้งนี้ เพื่อค้นหาขอบเขตการตรวจสอบและระดับความเป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดปัญหา รวมไปถึงการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินว่าจะมีการเรียกตรวจสอบรถจำนวนดังกล่าวหรือไม่
ที่มา: Carscoops