จับเอาขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร หัวฉีดตรง ไปใส่และจำหน่ายเพิ่มเป็นรุ่นราคาประหยัดของ Grace แทน!
เดิมที Honda Grace เป็นฝาแฝดของ Honda City โฉมล่าสุด ที่ถูกใส่ขุมพลังไฮบริด Sport Hybrid i-DCD
ผลิตและขายในประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิด แต่หลังจากเปิดตัวไปได้ 6 เดือนกว่าๆ ยอดขายของ Grace ก็ยังทำได้แค่
ทรงตัวไม่เปรี้ยงปร้าง ทั้งนี้ ไม่ใช่ความผิดของตัวรถที่ไม่ดีพอสำหรับคนญี่ปุ่น แต่เป็นเพราะรสนิยมลูกค้าญี่ปุ่น
หันไปหา B-/C-Crossover แทนรถยนต์ซีดานที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง (นี่เองเป็นเหตุผลให้ Honda Vezel/HR-V
ยังคงขายดีเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่ากระแสจะตกลงในเร็ววันนี้)
ที่ให้ความสะดวกสบายครบครันภายใต้มิติตัวถังในกฏ No.5 ใช้เครื่องยนต์เบนซินล้ำสมัย 1.5 ลิตร ที่ยังคงให้สมรรถนะ
และความประหยัดที่ดี โดย Honda วางให้ Grace LX ประกบคู่แข่งเบอร์ใหญ่อย่าง Toyota Corolla Axio ไปในตัว
(ซึ่งปัจจุบัน Corolla Axio ได้ลดขนาดตัวถังให้เล็กลงจนมีขนาดพอๆกับ Vios บ้านเราแล้ว)
Honda Grace LX เหมือน Honda City บ้านเราทุกประการ แต่มีการตกแต่งที่ผสมออพชั่นให้ถูกใจ
คนญี่ปุ่นมากขึ้น โดยรูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นการยก City รุ่น V มาใช้ ทั้งกระจังหน้าสีเงินแบบเงา มือจับประตุโครเมี่ยม
โคมไฟหน้าฮาโลเจนและไฟท้ายเหมือน City บ้านเรา (Grace รุ่นปกติ จะได้ไฟท้าย LED แบบ Tube มาใช้)
แต่กลับใช้ล้อเหล็กพร้อมฝาครอบจากรุ่น S แทน นอกจากนี้ยังได้สีตัวถังใหม่ สีแดง Premium Crystal Red Metallic
สำหรับรุ่น LX โดยเฉพาะ
พร้อมระบบกรองอากาศ Plasmacluster ระบบกุญแจอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบพับอัตโนมัติ
เครื่องยนต์ที่ใช้ กลายเป็นไฮไลท์ของ Grace LX อย่างช่วยไม่ได้ เพราะขณะที่บ้านเราได้เครื่องยนต์ L15Z1
120 แรงม้ามาใช้ใน Grace LX กลับได้ใช้เครื่องยนต์หัวฉีดตรงแบบ 4 สูบ EarthDreams i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร
มีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 132 แรงม้า พร้อมระบบ Idling Start-Stop จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ EarthDreams CVT
เพียงแบบเดียว โดยการทดสอบอัตราการสิ้นเปลืองแบบ JC08 ของญี่ปุ่น ทำได้มากถึง 21.8 กม./ลิตร
และยังมีความพิเศษกว่าเล็กน้อย ด้วยการมีเวอร์ชั่นขับเคลื่อน 4 ล้อออกจำหน่าย สำหรับพื้นที่ที่หิมะมากในญี่ปุ่นด้วย
(จนเกิดคำถามว่า Honda ไทย จะใจป้ำนำเอาขุมพลังนี้มาใส่ Jazz/City ตอนปรับโฉมไหมเนี่ย?)
แต่ก็เห็นได้ชัดว่านี่คือความพยายามของฮอนด้าในการบุกตลาดรถยนต์ซีดานอีกครั้งในญี่ปุ่นเช่นกัน
ที่มา : Honda