Honda Freed เวอร์ชันดั้งเดิม ขายดีในญี่ปุ่น เป็นเทน้ำเททิ้งจนไม่น่าเชื่อว่า
Honda ก็เคยล้มเหลวมาแล้วกับ Mobilio มินิแวนทรงสี่เหลี่ยมเหมือนโบกี้รถไฟ
แต่เพื่อกระตุ้นตลาด คราวนี้จึงหันมาส่ง Freed Spike เพื่อมาแก้มือในตลาดรถตู้
อเนกประสงค์ที่เน้นเอาใจวัยรุ่นอีกครั้ง ทว่าคราวนี้เน้นความอเนกประสงค์กับลูกค้า
ที่ต้องการใช้งานเชิงพาณิชย์มากกว่าความฮิป

เพราะก่อนหน้านี้ Honda เคยส่ง Mobilio Spike รถยนต์อเนกประสงค์เอาใจวัยรุ่น
ที่รักเสียงเพลง ซึ่งพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Mobilio 7 ที่นั่ง  ปรับปรุงรูปร่างหน้าตา
ให้เหลี่ยมสันทั้งคัน เอาใจคนหนุ่มสาวมากขึ้น มีการปิดตู้ทึบบริเวณบานกระจก
แถว 3 และถอดเบาะนั่งแถวที่ 3 ออก เปิดตัวเมื่อปี 2002 เพื่อต่อกรกับ Nissan Cube
และ Toyota bB

แต่เมื่อออกสู่ตลาดครั้งแรกหน้าตาก็ขัดใจประชาชนอย่างมาก เพราะ Honda นำแนวทาง
การออกแบบรถบรรทุกสไตล์อเมริกัน แบบ Honda Ridgeline มาใส่กับรถคันนี้ ทำให้
ภาพรวมของรถทั้งหมดดูไม่น่ามีเสน่ห์เหมือนกับรถคู่แข่ง จนภายหลังต้องปรับโฉมหน้า
ให้เป็นมิตรกับคนญี่ปุ่นมากขึ้น ถูลู่ถูกัง ลากขายกันหมดอายุตลาดเมื่อในปี 2008

วันนี้ Honda รื้อฟื้นชื่อ Spike มาใส่กับรถมินิแวนตระกูล Freed อีกครั้งหนึ่งเพื่อหวัง
จับกลุ่ม ลูกค้าที่ต้องการ รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก 5 ที่นั่ง ด้วยการปรับปรุงรถตู้ FREED
ให้ตรงใจกับวัยรุ่น หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นมากกว่าครั้งก่อน ถึงขั้นต้องเหลาชิ้นส่วนด้านหน้า
ของรถ ให้แตกต่างจาก Freed ดั้งเดิม สังเกตง่าย ๆ ด้านหน้าจะมาแนวเดียวกับ รถตู้
Honda StepWGN ใหม่ล่าสุด ในปัจจุบันซึ่งหากดูดี ๆ มันก็ดูปราดเปรียวกว่ารถตู้
อเนกประสงค์รุ่นอื่น ๆ ยกเว้น Freed อยู่ดี

เอกลักษณ์ของรถแนว Spike ก็คือต้องมีพื้นที่เรียบๆ มาปิดบริเวณกระจกบานที่ 3
ถ้าเป็นรุ่นเก่าก็ออกแบบแผ่นเหล็ก มากรุปิดผนึกให้แนบเนียนไปกับตัวถังรถ
แต่สำหรับ Freed Spike ดูเหมือนจะมีลูกเล่นการตกแต่งที่แตกต่างไปจากนั้น
Honda เลือกนำชิ้นส่วนที่ ออกแบบปิดให้พอดีกับช่องกระจกบานที่ 3 ถึง 2 ชิ้น
ชิ้นแรกพ่นสีเดียวกับตัวรถ มีลายคลื่น 2 ขีด และชิ้นล่างที่พ่นด้วยสีดำปิดยาว
โอบล้อมจนถึงฝากระโปรงหลัง ผลก็คือทำให้ Freed Spike ดูมีลูกเล่นมากกว่า
ความเรียบง่าย

ยังไม่พอ Honda ออกแบบกาบครอบไฟด้านหลังสีดำเพื่อให้เข้ากับชิ้นส่วนปกปิด
บานกระจกแถวที่ 3 ส่วนอื่นๆนอกนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างกับ Freed รุ่นมาตรฐานเลย

จุดเด่นของ Freed Spike อยู่ที่ความอเนกประสงค์ภายใน แม้มันจะเป็นรถ 5 ที่นั่ง
ก็ตาม แต่ลูกเล่นภายในกลับอยู่ที่ห้องสัมภาระมากกว่าจะเป็นการจัดเลื่อนที่นั่งห้องโดยสาร
Honda ชูจุดเด่นความยาวห้องสัมภาระเมื่อพับเบาะหลังแล้วว่ามีความยาวถึง 2,015 มม.
(ระยะวัดจากหลังเบาะคู่หน้าจรดสุดห้องสัมภาระ) มีพื้นที่สูงสุด 1,184 ลิตร หากดึงพนักพิง
เบาะหลัง แต่ ต่อให้นั่งกันเต็ม 5 คน ก็จะยังมีเนื้อที่ห้องเก็บสัมภาระถึง 610 ลิตร

เคล็ดลับหนึ่งที่ทำให้พื้นห้องโดยสารเนียนเรียบต่อถึงกันได้ตลอดเมื่อเราพับเบาะหลังไปแล้ว
ก็คือ Floorboard ที่คุณสามารถพลิกกลับให้พื้นนี้อยู่แนบพื้นห้องสัมภาระหรือยกพื้นให้ลอย
ขึ้นมาเสมอกับขอบเบาะหลังเท่านั้นเอง

ในเมื่อรถมีขนาดเสา C กว้างมากไม่แตกต่างจากรถตู้ทึบขนของเลยแม้แต่น้อย Honda จึงแก้ไข
จุดอ่อนสำคัญนี้ด้วยกระจกส่องหลังมุมมองกว้างติดตั้งบริเวณฝากระโปรงท้ายสำหรับสอดส่อง
ด้านท้ายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

เครื่องยนต์กลไกก็ยกชุดมาจาก Honda Freed ดั้งเดิมแบบไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร
เป็น เครื่องยนต์รหัส L15A บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,497 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก
73.0 x 89.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.4 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-FI
พร้อมระบบแปรผันวาล์ว i-VTEC เหมือนกันกับทั้ง Honda Jazz และ City แต่ ลดทอน
พละกำลังลงมานิดนึง เหลือ 118 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด เพิ่มเป็น
14.9 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ในรุ่นขับล้อหน้า
ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ระบบกันสะเทือนหน้าก็ยังคง
เหมือนเดิมเช่นกัน เป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัต ด้านหลัง แบบทอร์ชันบีม พวงมาลัย
แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ระบบเบรก หน้าดิสก์ หลังดรัม ตามถนัด
พร้อม ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรกตามน้ำหนักบรรทุก EBD

Honda มีกำหนดส่ง Freed Spike ขึ้นโชว์รูม ทั่วเกาะญี่ปุ่น ในวันที่ 8 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้
และเชื่อขนมกินได้เลยว่า ตลาดในประเทศอื่นๆ หมดสิทธิ์ แน่นอน เพราะเป็นรถที่ทำออกมา
เพื่อเอาใจลูกค้าในบ้านตัวเองเท่านั้น

—————————————-///——————————————–