Honda ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเทศไทย ในฐานะที่เป็นตลาดที่มีศักยภาพ
ในการเติบโตสูง และเป็นฐานการผลิตรถยนต์ฮอนด้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียและ
โอเชียเนีย ดังนั้น ประเทศไทย จึงเป็น ประเทศแรกนอกทวีปอเมริกาเหนือ ที่ได้ทำการ
เปิดตัว Honda Civic 10th Generation ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตขึ้น ณ โรงงาน
ผลิตรถยนต์ฮอนด้าแห่งใหม่ในจังหวัดปราจีนบุรี โดยได้นำเอานวัตกรรมการผลิตที่โยริอิ
ประเทศญี่ปุ่น มาประยุกต์ใช้ ณ โรงงานใหม่แห่งนี้
Honda Civic 10th Generation ได้รับการสร้างสรรค์ และพัฒนาให้สามารถก้าวข้าม
ทุกข้อจำกัด เพื่อมุ่งสู่การเป็นซีวิคที่สมบูรณ์แบบในทุกมิติ และก้าวล้ำนำสมัยที่สุดเท่าที่
เคยผลิต Honda Civic มา
Civic เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกในประเทศไทย ในเจนเนอเรชั่นที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2527
ยอดขายสะสมจนถึงปัจจุบันเกือบ 460,000 คัน หลังจากการเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือ
เพียง 6 เดือน Honda Civic 10th Generation สามารถคว้ารางวัลยนตรกรรมยอดเยี่ยม
ถึง 14 รางวัล จาก 10 สถาบันชั้นนำ
เครื่องยนต์ Engine
เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร
เครื่องยนต์รหัส R18A เบนซิน 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,798 ซีซี
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 81.0 x 87.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.6 : 1
กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตร
ที่ 4,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมันสูงสุด E85
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo
เครื่องยนต์รหัส L15B7 บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,496 ซีซี
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 89.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.6 : 1
พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,500 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมันสูงสุด E20
ภายนอก Exterior
(อุปกรณ์ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
– ไฟหน้า Projector Lens พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED
– ไฟหน้า Full LED (รุ่น 1.5 Turbo RS)
– ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว (รุ่น 1.8E และ 1.8EL ลายต่างกัน)
– ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว (รุ่น 1.5Turbo และ 1.5 Turbo RS ลายต่างกัน)
– ไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED
– กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
– ไฟตัดหมอกคู่หน้า
ภายในห้องโดยสาร Interior
(อุปกรณ์ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
– เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีเบจ / สีดำ (ขึ้นอยู่กับรุ่นและสีตัวถังภายนอก)
– เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง (รุ่น 1.8EL ขึ้นไป)
– เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง (รุ่น 1.5 Turbo ขึ้นไป)
– ปุ่ม Econ Mode
– ระบบ Eco Coaching
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า
– ระบบ Auto Brake Hold
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone อิสระ ซ้าย-ขวา
– ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
– ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
– ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยรีโมท Engine Remote Start
– เครื่องเสียงหน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว Advanced Touch
– เครื่องเสียงรองรับระบบ Apple CarPlay
– ระบบนำทาง Navigation System
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัย Driving Assist & Safety
(อุปกรณ์ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย)
– ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
– ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
– ระบบล็อครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจห่างจากตัวรถ Walk Away Auto Lock
– ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda Lane Watch
– กล้องมองภาพขณะถอยจอด
– ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSA
– ไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
– ระบบกระจายแรงเบรก EBD
– ระบบเสริมแรงเบรก BA
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
– ถุุงลมนิรภัยด้านข้าง
– ม่านถุงลมนิรภัย
สีตัวถังภายนอกมีให้เลือกด้วยกัน 5 สี (ทุกรุ่นย่อย)
โดยจัดสีภายในห้องโดยสารตามสีตัวถังภายนอก
– สีขาวมุก Orchid White Pearl (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)
– สีดำมุก Crystal Black Pearl (เพิ่มเงิน 6,000 บาท)
– สีเทา Modern Steel Metallic
– สีเงิน Lunar Silver Metallic
– สีน้ำเงิน Cosmic Blue Metallic
รุ่น 1.8 E และ 1.8 EL จัดสีภายในห้องโดยสารดังต่อไปนี้
ภายในห้องโดยสารสีเบจ Beige Interior
– สีเทา Modern Steel Metallic
– สีดำมุก Crystal Black Pearl
ภายในห้องโดยสารสีดำ Black Interior
– สีเงิน Lunar Silver Metallic
– สีน้ำเงิน Cosmic Blue Metallic
– สีขาวมุก Orchid White Pearl
รุ่น 1.5 Turbo และ 1.5 Turbo RS
มีเฉพาะภายในห้องโดยสารสีดำ Black Interior เท่านั้น
Honda Automobile Thailand ได้ ตั้งเป้าการจำหน่าย 25,000 คัน ภายใน 1 ปี
(หรือประมาณ 2,085 คัน/เดือน)
ราคาอย่างเป็นทางการ
1.8 E CVT 869,000 บาท
1.8 EL CVT 959,000 บาท
1.5 Turbo CVT 1,099,000 บาท
1.5 Turbo RS CVT 1,199,000 บาท