Headlightmag Clip ทดลองขับ Suzuki XL7 1.5 GLX 4AT
ตลาดรถยนต์ Mini MPV 7 ที่นั่ง ในบ้านเราปัจจุบัน แม้จะดูเหมือนไม่ค่อยคึกคัก แต่ยอดขายก็ยังพอไปได้เรื่อยๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอายุตลาด หรือ product life cycle ของรถหลายรุ่นที่มีขายอยู่ในตอนนี้ ล้วนแต่เกินครึ่งทางกันมาแล้ว สำหรับคนที่มองรถพ่อบ้านแม่บ้านขนานแท้สไตล์นี้อยู่ ถ้าไม่รีบมากนัก อยากให้รอดูผลผลิตรุ่นใหม่จาก 2 ค่ายใหญ่ดูก่อน แต่ใครก็ตามที่มีเหตุต้องรีบใช้รถ ยิ่งรับได้ไวเท่าไหร่ยิ่งดี อยากให้ลองพิจารณา Mini MPV ยกสูงคันที่จะพาไปชมในวันนี้… ใช่แล้วครับ มันคือ Suzuki XL7 คันที่คุณเห็นอยู่นี่แหละ !
ก่อนไปชมคลิปวีดีโอทดลองขับ ขอเท้าความก่อนว่า Suzuki XL7 ที่ทำตลาดอยู่ประเทศไทยนั้น จะมีเพียงรุ่นย่อยเดียวให้เลือก คือ 1.5 GLX 4AT ราคาค่าตัว 779,000 บาท บวกเพิ่มจาก Ertiga รุ่นปกติ (MY2020) 54,000 บาท โดยมีรายละเอียดของชิ้นส่วนภายนอกตัวรถที่เพิ่มเติมเข้ามาจาก Ertiga รุ่นปกติ ดังต่อไปนี้
- ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่ แบบ Multi-Reflector LED พร้อมไฟ LED Daytime Running Light
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่
- กันชนหน้าดีไซน์ใหม่
- แก้มข้างด้านหน้าและฝากระโปรงดีไซน์ใหม่
- กันชนหลัง ดีไซน์ใหม่
- คิ้วซุ้มล้อ สีดำ
- แถบคาดสีดำเหนือช่องติดแผ่นป้ายทะเบียน
- กาบด้านข้าง บริเวณชายล่างแผงประตูสีดำ เสริมด้วยสีเงิน
- ราวหลังคาสีเงิน
- ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมยาง ขนาด 195/60 R16
- ล้ออะไหล่แบบอัลลอย พร้อมยาง Full Size
นอกจากข้าวของต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาแล้ว จุดเปลี่ยนสำคัญของ XL7 คือการเพิ่มระยะต่ำสุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ให้สูงขึ้น จาก 180 เป็น 200 มิลลิเมตร โดยการเปลี่ยนคอยส์สปริง และช็อกอัพ ใหม่ ตลอดจนใช้ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนมาใช้เหล็กกันโคลงด้านหน้าที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพิ่มขึ้น 1 มิลลิเมตร ด้วยเช่นกัน
Headlightmag Clip ครั้งนี้ เป็นการลองขับและว่ากันถึงสมรรถนะการขับขี่ในภาพรวมของ Suzuki XL7 1.5 GLX ลองไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัยของ Mini MPV ยกสูงเล็กน้อยคันนี้ แล้วโลดแล่นไปบนเส้นทางไปกลับ กรุงเทพฯ – เขาใหญ่ เจอทั้งถนนดำปกติ และเส้นทาง Dirt Route ที่ไม่ถึงกับวิบาก แต่ถ้ารถไม่สูงพอก็ลำบากแน่นอน… จะรอดหรือไม่ ไปชมกันชมครับ