Headlightmag Clip ทดลองขับ Nissan Terra Minorchange 2.3 Twin-Turbo VL 7AT 4×4

วันที่ 28 พฤษภาคม 2020 วีดีโอ Teaser “NISSAN NEXT : From A to Z” ถูกอัพโหลดขึ้นบนช่อง YouTube ของ Nissan (Global) เผยให้เห็นงานดีไซน์การออกแบบคร่าวๆ ของรถยนต์ Nissan ทั้งรุ่นใหม่ NEW Model และรุ่นปรับโฉม Minorchange ที่เตรียมออกสู่ตลาดในช่วงกลางปี 2020 เป็นต้นไป เริ่มจาก Ariya, Armada / Patrol Minorchange, Frontier (US Version), Kicks, Murano, Navara, Note , Pathfinder, Qashqai, Roque, Z400 รวมถึง Terra Minorchange ด้วยเช่นกัน

จากนั้น 25 พฤศจิกายน 2020 Nissan Terra รุ่นปรับโฉม Minorchange เวอร์ชันกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ก็ถูกเปิดขึ้นเป็นที่แรกในโลก ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกและภายในที่ถูกปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นกว่าเดิม ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน QR20DE 2.5 ลิตร 165 แรงม้า (PS) 241 นิวตันเมตร ส่วนประเทศไทย เป็นตลาดแห่งที่ 2 ในโลก และประเทศแรกใน ASEAN ที่มีการเปิดผ้าคลุม Terra รุ่นปรับโฉม Minorchange เป็นการเปิดตัวในรูปแบบ Live Streaming เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 กันยายน 2020 ประชาชนทั่วไปสามารถรับชมได้ทาง Facebook และ YouTube ของ Nissan Thailand

ภายนอกของ Terra Minorchange ได้การปรับดีไซน์กระจังหน้า กันชนหน้า แก้มด้านหน้า เปลี่ยนมาชุดไฟหน้าแบบ LED Quad-Eyes ด้านท้ายมีการปรับดีไซน์ฝากระโปรงท้าย สปอยเลอร์หลัง ตลอดจนเปลือกกันชนท้าย เปลี่ยนมาใช้ชุดไฟท้ายแบบ LED Guiding Light นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนมาใช้ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่ โดยภาพรวมถือว่าเป็นการปรับเปลี่ยนลุคให้ดูทันสมัยมากขึ้น และฉีกหนีความเป็นรถกระบะมากขึ้น

ภายในห้องโดยสารมีการปรับดีไซน์แผงหน้าปัด รวมถึงคอนโซลกลางใหม่ทั้งหมด เพื่อเพิ่มความหรูหราให้สมกับฐานะ PPV เปลี่ยนมาใช้พวงมาลัยแบบ D-Cut ปรับหน้าจอ MID บนชุดมาตรวัดให้ใหญ่ขึ้นจาก 5 นิ้ว เป็น 7 นิ้ว ปรับหน้าจอกลางให้ใหญ่ขึ้นจาก 8 นิ้ว เป็น 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Appple CarPlay แบบไร้สาย อีกทั้งยังติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ มาให้สำหรับรุ่น VL อาทิ เบรกมือไฟฟ้า ชุดเครื่องเสียง BOSE Premium Audio (เฉพาะรุ่น 4×4) ช่องเสียบ USB Type C แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สาย และ Mi TV Stick เป็นต้น

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

ขุมพลังของ Nissan Terra Minorchange เวอร์ชันไทย ไม่มีความเปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นเครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT บล็อกเดียวกันกับ Terra รุ่นก่อน Minorchange และ Navara Minorchange รุ่นยกสูง เกียร์อัตโนมัติ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์ดีเซลรหัส M9T ที่ติดตั้งในรถยนต์รุ่นต่างๆ ของ Renault พันธมิตรสัญชาติฝรั่งเศษ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

เป็นเครื่องยนต์รหัส YS23DDTT ดีเซล 4 สูบ DOHC 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 85.0 x 101.3 มิลลิเมตร กำลังอัด 15.4 : 1 ฉีดจ่ายน้ำมันแบบ Direct-injection พ่วงระบบอัดอากาศ Twin-Turbocharged พร้อม Intercooler คอยทำหน้าที่ลดอุณหภูมิของอากาศก่อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้

กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร (45.9 ก.ก.-ม.) ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 อยู่ที่ 200 กรัม/กิโลเมตร ตามที่ระบุใน ECO Sticker ของหน่วยงานรัฐบาล รองรับน้ำมันดีเซลได้ตั้งแต่ระดับ B7, B10 จนถึง B20

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อม Manual Mode +/- ที่คันเกียร์

รุ่น VL 4×4 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time พร้อมระบบ Shift-on-the-fly ที่อนุญาตให้เปลี่ยนจากโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ (4H) ได้ทันที ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง การปรับโหมดขับเคลื่อนทำได้โดยการบิดสวิตช์ที่อยู่ใต้แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศ มีให้เลือก 3 โหมด ดังนี้

– 2WD ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
– 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับวิ่งด้วยความเร็วปานกลาง แต่ไม่เหมาะกับการวิ่งบนถนนปกติ เนื่องจากไม่มี Center Differential สำหรับกระจายแรงบิดหน้า – หลัง
– 4LO ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราทดสูงกว่า 4H เพิ่มกำลังฉุดลาก สำหรับลุยทางวิบาก

นอกจากนี้ ยังมีระบบ Electronic Locking Rear Differential สำหรับล็อกเพลาขับหลังให้กระจายกำลังไปยังล้อคู่หลัง ทั้ง 2 ข้าง ในอัตราส่วน 50 : 50

ระบบบังคับเลี้ยว

ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิก ปรับปรุงให้มีน้ำหนักพวงมาลัยเบาลง และปรับลดอัตราทดเฟือง เพื่อให้พวงมาลัยตอบสนองไวขึ้น โดยมีระยะหมุนจากซ้ายสุดไปขวาสุด (Turn-to-Lock) ลดลง 12% จาก 3.8 รอบ เหลือ 3.4 รอบ เท่ากับ Navara Minorchange รัศมีวงเลี้ยวกว้างเท่าเดิมที่ 5.7 เมตร

ระบบกันสะเทือน

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบ 5-links พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ส่วนการซับแรงสั่นสะเทือนจากแซสซีส์ขึ้นมายังโครงสร้างห้องโดยสาร ใช้บูชยางกันกระแทก 10 จุด เช่นเดิม

ระบบห้ามล้อ

ระบบห้ามล้อแบบ คู่หน้า Disc Brake คู่หลัง Drum Brake ที่ติดตั้งอยู่ใน Terra รุ่นก่อน Minorchange เคยถูกคนครหาดูถูกว่าโบราณ ล้าหลัง… มาคราวนี้วิศวกร Nissan เลยตัดสินใจอัพเกรดระบบห้ามล้อให้กับ Terra Minorchange กันยกใหญ่ เริ่มจาก ขยายเส้นผ่านศูนย์กลางจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน (Ventilated Disc) คู่หน้า จาก 296 มิลลิเมตร เป็น 350 มิลลิเมตร ต่อด้วยการอัพเกรดเบรกหลังของรุ่น VL 4×2 และ VL 4×4 เป็นจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน เส้นผ่านศูนย์กลาง 330 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นเริ่มต้น E ยังคงใช้ดรัมเบรกที่ล้อคู่หลังเหมือนเดิม

แต่ทุกรุ่นมียังเสริมการทำงานด้วยตัวช่วยพื้นฐานมาให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน ABS (Anti-lock Braking System) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Distribution) และระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)

การเก็บเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร

ด้านการเก็บเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร มีการเพิ่มฉนวนกันเสียง Dash Insulator แบบ 3 layer บริเวณแผงกันไฟ (Firewall) ช่วยลดเสียงเครื่องยนต์ที่เล็ดลอดเข้าไปยังภายในห้องโดยสาร นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนมาใช้กระจกบังลมหน้าและกระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบลดเสียงรบกวน (Acoustic glass) เพื่อลดเสียงลมปะทะและกระแสลมที่ไหลผ่านตัวรถอีกด้วย


รับชมคลิปได้ที่นี่