แค่เริ่มเปิดตัว Genesis G90 : Flagship Luxury Sedan รถหรูรุ่นใหญ่คันแรกก็ทำให้ Hyundai ยิ้มกรุ้มกริ่มไม่น้อยเลย เพราะลูกค้าชาวเกาหลีใต้ถึงขนาดรอคิวสั่งจองรถยนต์สุดหรูคันนี้ราวกับว่าเป็นรถยนต์ราคาไม่แพง เป็นไปได้ว่า Genesis G90 มันอาจจะสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าบางอย่างในแบบแบรนด์รถยนต์เยอรมันมอบให้ไม่ได้เลย จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ ก็ยิ่งทำให้ Hyundai กล้าเดินหน้าเข้าสู่ตลาดรถหรูโดยไม่ต้องกลัวอะไร

ปัจจุบัน Genesis มี Sedan รุ่นใหญ่และรุ่นกลางแล้ว ก็ยังเหลือแค่ Sedan ขนาดพอเหมาะที่มาท้าชนกับ BMW 3-Series นี่ก็น่าจะได้เวลาที่ต้องเปิดตัว Genesis G70 แล้ว

ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้าของ Hyundai ที่จะไม่คิดทำรถออกมาเป็น “ไส้กรอก 3 ขนาด” เหมือนกับค่ายรถยนต์เยอรมนี จึงทำให้ Genesis G70 ดูมีบุคลิกและหน้าตาที่แตกต่างไปจาก G80 และ G90 อย่างเห็นได้ชัด

Genesis G70 จะมาพร้อมกับบุคลิกและเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว ดูสปอร์ตที่สุดนับตั้งแต่ Genesis กำเนิดมา ก็แน่ล่ะ รถยนต์คันนี้มันจะต้องมาปะทะกับ BMW 3-Series โดยตรง จึงทำให้ทุกคนสามารถคาดเดาได้เลยว่า Genesis G70 จะเป็นยังไง

Dr. Woong-Chul Yang รองประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนา Hyundai Motor Group กล่าวว่า Genesis G70 ถือเป็นรถยนต์รุ่นตัวอย่างที่สะท้อนถึงการนำเสนอนวัตกรรมและมุ่งเน้นการพัฒนาตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และในวันนี้ Genesis ยังคงมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาและขยายไปสู่ผลลัพธ์ใหม่ต่อไป

มิติตัวถังภายนอก

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,685 x 1,850 x 1,400 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,835 มิลลิเมตร
  • ระยะโอเวอร์แฮงหน้า : 805 มิลลิเมตร
  • ระยะโอเวอร์แฮงหลัง : 1,045 มิลลิเมตร

ดีไซน์ภายนอก Genesis G70 รวมบุคลิกความสง่างามและมีพลังบ่งบอกถึงเอกลักษณ์แห่งรถยนต์ระดับหรูจากเกาหลีใต้ มีทั้งงดงามและความขึงขันในตัว คล้ายนักกีฬาที่พร้อมปฏิบัติหน้าที่
Luc Donckerwolke คือผู้รับผิดชอบการออกแบบ Genesis G70 ในฐานะผู้บริหารฝ่ายงานออกแบบคนใหม่เชื้อชาติเปรู ที่เคยฝากผลงานไว้ใน Bentley Flying Spur และ Bentley EXP 10 Speed 6 มาแล้ว กล่าวว่า เขาอยากจะสร้างเสน่ห์และความปรารถนาแห่งความน่าหลงใหล, การอุทิศตนและความสามารถโดยทีมนักออกแบบ ที่มีการปรับแต่งรายละเอียดที่ต้องใช้ทักษะฝีมือและความรู้ขั้นสูง ดังนั้น Genesis G70 จึงเป็นรถยนต์ Sport Sedan ที่มีรูปลักษณ์ที่ดูราวกับว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและมีเส้นสายที่คล้ายมัดกล้ามนักกีฬา

ตัวรถมีด้านหน้าที่ยาว (Long Hood) มีแนวเส้นหลังคาที่ดูสง่างาม ที่มาพร้อมกับลายล้ออัลลอยลายซี่ถี่ ช่วยให้ Genesis G70 ดูปราดเปรียว, มีมิติด้านข้างที่เพรียว ไฟหน้า DRL LED ทรงไม้ Hockey และ เส้นสายด้านข้างที่คล้ายรูปโค้ง จะเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของ Genesis

ดีไซน์บั้นท้ายก็จะดูเหมือนกับนำ Genesis G80 มาตีความใหม่ แต่เมื่อสังเกตให้ดีก็จะพบรายละเอียดที่แตกต่างกันพอสมควรคือ หากมุมบั้นท้ายเฉียงก็จะสามารถสังเกต Profile ตัวถังครึ่งคันหลังที่ดูเป็นรูปโค้งคล้ายกับมัดกล้าม ลากยาวจรดไฟท้าย พร้อมทั้งมีการออกแบบฝากระโปรงท้าย Duck Tail ที่ดูค่อนข้างหนา อีกทั้งยังมีการออกแบบแนวฝากระโปรงท้ายที่ฉีกแหวกออกไป

ภายในห้องโดยสารไม่ได้ถูกออกแบบอย่างล้ำสมัย แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้รถที่น่าประทับใจด้วยดีไซน์อันเรียบง่าย ใช้งานง่ายทุกฟังก์ชัน เน้นเอาใจผู้ขับขี่เป็นหลัก มีพื้นผิวและการประกอบที่ยอดเยี่ยม

Layout การออกแบบภายในห้องโดยสารจะเน้นแนวนอน เอาใจผู้ขับขี่ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้การขับขี่สบาย การจัดวางสวิตช์และปุ่มพวงมาลัยง่ายต่อการใช้งาน

ทีมออกแบบภายในห้องโดยสาร Genesis G70 ใส่ใจทุกรายละเอียดของวัสดุภายในห้องโดยสาร อาทิ

  • มือจับประตูภายในที่ทำจากวัสดุอลูมิเนียม
  • แผงประตูด้านข้างหุ้มหนังอย่างดี
  • ลำโพง Lexicon 15 ตัวให้คุณภาพระดับ audiophile
  • วัสดุโลหะครอบลำโพงอย่างดี
  • หุ้มวัสดุบุนุ่มในบริเวณที่ร่างกายสัมผัสเป็นประจำ
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa

Genesis G70 มอบประสบการณ์การขับขี่อันสะดวกสบายด้วยการติดตั้งระบบ smart posture control เมื่อระบบได้รับข้อมูลร่างกายผู้ขับขี่ ระบบก็จะปรับตำแหน่งเบาะ, พวงมาลัย, กระจกมองข้าง, Head-Up Display เพื่อลดความตึงเครียดขณะขับขี่ทางไกล

พิเศษ เป็นครั้งแรกในเกาหลีใต้ที่ติดตั้งระบบประมวลคำสั่งเสียงอัจฉริยะผ่าน Server โดยระบบปัญญาอัจฉริยะ (AI) ที่มีชื่อว่า Kakao I

Genesis G70 ใส่ใจกับสมรรถนะการขับขี่เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง ได้แก่

  • ติดตั้งตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำกว่าจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ
  • พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ R-MDPS
  • ช่วงล่างหลัง Multi-Link ช่วยทำให้การบังคับควบคุมเฉียบคมและช่วยให้การขับขี่สะดวกสบาย
  • ระบบควบคุมเสียงเครื่องยนต์และโหมดการขับขี่ Active Sound Design
  • ปรับปรุงการเก็บเสียง, สะเทือนและความกระด้างขณะขับขี่อย่างเต็มที่

และเพื่อให้มั่นใจได้ว่า Genesis G70 จะมีการขับขี่ที่ดีสุดยอดทั้งพละกำลัง, การทรงตัว, การบังคับควบคุมและความทนททาน ทีมวิศวกรจึงต้องนำรถไปทดสอบตามสถานที่มีสภาวะแวดล้อมและพื้นถนนที่ท้าทายที่สุด ได้แก่ Death Valley สหรัฐอเมริกา, สวีเดนตอนเหนือ, Nürburgring เยอรมนี, เทือกเขา Alps ออสเตรเลีย

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ในเบื้องต้น)

  • ระบบช่วยเพิ่มพละกำลังขณะเร่ง Launch Control
  • ระบบช่วยเพิ่มเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Dynamic torque vectoring system
  • เฟืองท้าย Mechanical limited slip differential (M-LSD)

ระบบช่วยเหลือความปลอดภัย

  • ระบบฝากระโปรงหน้ายกตัวได้ เพื่อลดอาการบาดเจ็บเมื่อชนคนเดินทางเท้า Active Hood
  • ระบบเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบแจ้งเตือน Forward Collision-Avoidance Assist (FCA)
  • ระบบช่วยขับขี่ขณะวิ่งบนทางด่วน Highway Driving Assist (HDA)
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind spot Collision Warning (BCW)
  • ระบบตรวจจับอาการผู้ขับขี่ Driver Awareness Warning (DAW)

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

Genesis G70 Sport : เครื่องยนต์เบนซินรหัส Lambada II 3.3 T-GDI V6 DOHC 24 วาล์ว ฉีดเชื้อเพลิงตรง ขนาด 3.3 ลิตร 3,342 ซีซี Twin Turbo กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 92 x 83.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 370 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 52.0 กิโลกรัมเมตรที่ 1,300 – 4,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงภายใน 4.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง : 9 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ : 8.6 กิโลเมตร/ลิตร

Genesis G70 2.0 Turbo : เครื่องยนต์เบนซินรหัส Theta-II GDI 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ฉีดเชื้อเพลิงตรง ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 86 x 86 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 252 แรงม้า (PS) [เวอร์ชัน Sport Package จะแรงถึง 255 แรงม้า] ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 36.0 กิโลกรัมเมตรที่ 1,400 – 4,000 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง : 10.7 (ล้อ 18 นิ้ว) – 10.4 (ล้อ 19 นิ้ว) กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ : 10.0 (ล้อ 18 นิ้ว) – 9.5 (ล้อ 19 นิ้ว) กิโลเมตร/ลิตร

Genesis G70 2.2 Diesel : เครื่องยนต์ดีเซลรหัส R-FR 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.2 ลิตร 2,199 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 85.4 x 96.0 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 202 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 45.0 กิโลกรัมเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง : 15.2 (ล้อ 17 นิ้ว) – 14.5 (ล้อ 18 นิ้ว) กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ : 13.6 (ล้อ 17 นิ้ว) – 13.5 (ล้อ 18 นิ้ว) กิโลเมตร/ลิตร

สีภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 7 สี

  • สีดำ Obsidian Black
  • สีเทา Sandstorm Gray
  • สีแดง Velvet Burgundy
  • สีน้ำตาล Tobacco Brown
  • สีเบจ Vanilla Beige
  • สีเทา Sport Gray (เฉพาะรุ่น G70 Sport และ 2.0T รุ่นบนสุด)
  • สีแดง Sport Red (เฉพาะรุ่น G70 Sport และ 2.0T รุ่นบนสุด)

สีตัวถังมีให้เลือก 10 สี ที่คัดเลือกตามกระแสของโลก

  • สีเงิน Platinum Silver
  • สีเทา Carbon Metal
  • สีขาว Marble White
  • สีดำ Titanium Black
  • สีเทา Racing Gray
  • สีเทา Graceful Gray
  • สีน้ำเงิน Lapis Blue
  • สีฟ้า Royal Blue
  • สีแดง Blazing Red
  • สีน้ำตาล Umber Brown

Genesis G70 พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าให้ชาวเกาหลีปีนี้ แต่สำหรับลูกค้าในตลาดอเมริกาเหนือ, รัสเซียและตะวันออกกลางจะต้องรอจนถึงต้นปี 2018 ซึ่งถือว่าใช้เวลาไม่นานนัก

ที่มา : Motor1