สืบเนื่องจาก Ford และ Volkswagen ได้เซ็นสัญญาลงนามร่วมกันเพื่อพัฒนาและผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์น้ำหนักเบาซึ่งก็ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ทั้งคู่ได้ นั่นก็ทำให้ทั้งสองบริษัทอาจมีโอกาสขยายความร่วมมือทางธุรกิจเท่าที่เป็นไปได้

แหล่งข่าววงภายในแจ้งมาว่า Ford และ Volkswagen กำลังหารือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า EV และระบบขับขี่อัตโนมัติร่วมกัน ในลักษณะของความร่วมมือเป็นพันธมิตรในระยะยาวเพื่อหวังประหยัดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทถึงหลักพันล้านดอลลาร์ โดยมีข้อตกลงสรุปแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2018

เทรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกต่างร่วมมือหรือหารือกับพันธมิตรผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติและรถยนต์ไฟฟ้า EV หวังลดต้นทุนการผลิต ไม่ใช่เป็นสิ่งใหม่ เพราะก่อนหน้านั้น Honda เคยประกาศร่วมลงทุนในบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติของ GM ‘Cruise Automation’ สูงถึง 2,750 ล้านดอลลาร์ หรือ 90,000 ล้านบาท สำหรับรับใช้ยานยนต์ในภาคการบริการ

นอกจากนี้ Frank Witter : CFO แห่ง Volkswagen ได้เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เปิดกว้างในการขยายความร่วมมือมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ด้วยว่า Ford อาจจะมีสิทธิ์พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า EV ของตนเองบนโครงสร้างพื้นตัวถัง MEB ที่ Volkswagen Group เป็นผู้พัฒนา

การเปิดโอกาสให้ Ford สามารถพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า EV บนพื้นฐานของ Volkswagen จะช่วยเปิดโอกาสให้รถยนต์ไฟฟ้า EV มีราคาที่ถูกลง ๆ และจะถูกลงกว่ารถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลด้วยซ้ำ

Volkswagen Group ได้ทุ่มทุนเงิน 34,000 ล้านยูโรหรือ 1.2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติจนถึงปี 2022 โดยวางแผนรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าถึง 2-3 ล้านคัน/ปี ภายในปี 2025 โดยทุ่มงบส่วนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม Ford เองก็เคยลงทุนตั้งบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติแยกเป็นเอกเทศมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 131,000 ล้านบาท ในนาม Ford Autonomous Vehicles LLC จนถึงปี 2023 และก็กำลังหาพันธมิตรมาร่วมลงทุนเฉกเช่นเดียวกับ GM

ที่มา : Automotive News