Ford Motor กำลังค้นหาวิธีการเอาตัวรอดสถานการณ์รถยนต์ที่บีบบังคับด้วยข้อกำหนดต่าง ๆ และความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์อย่างหนักหน่วง ถึงขั้นละทิ้งตลาดรถยนต์นั่งในสหรัฐอเมริกาเพื่อเน้นทำตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีกำไรมากกว่าแทน
และข่าวล่าสุด Ford Motor ก็กำลังเจรจากับบริษัทพันธมิตรที่กำลังร่วมมือกันอยู่ เพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือเพื่อหวังประสิทธิผลด้านกำไรและกระบวนการผลิตที่จะสามารถต่อกรกับคู่แข่งได้
ปัจจุบัน Ford Motor ได้ร่วมมือกับ Volkswagen ในการพัฒนาธุรกิจรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และยังร่วมมือกับ Mahindra เพื่อร่วมกันผลิตรถ SUV และ EV
การเจรจากับ Volkswagen นั้น Ford ได้มุ่งความสนใจในการพัฒนา รถยนต์เพื่อการพาณิชย์หลากรุ่นด้วยกัน โดยมุ่งเน้นยังกลุ่มตลาดรถตู้ซึ่ง Pablo Di Si ผู้บริหาร Volkswagen ละตินอเมริกา ยืนยันว่ามันอาจจะมีผลกับตลาดบราซิล
นอกจากนี้ Ford ยังมีแผนควบรวมรุ่นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์กับ Volkswagen ในตลาดอเมริกาใต้และตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่ Ford ไม่สามารถดำเนินธุรกิจรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ให้ทำกำไรได้ ทั้งนี้ Volkswagen มีสิทธิ์นำรถยนต์ Ford ไปจำหน่ายภายใต้ตราสัญลักษณ์ของตนเอง ทั้งรถตู้ Transit และรถกระบะ Ranger ได้ เพื่อช่วยในการลดภาระการขาดทุนของ Ford
สำหรับ Mahindra นั้นแรกเริ่มเดิมที Ford จะร่วมกันพัฒนา SUV โดยใช้พื้นตัวถังของ Mahindra แต่ล่าสุด มีข่าวแจ้งมาว่า Ford จะขอร่วมพัฒนา Platform ใหม่ร่วมกับ Mahindra ทำให้ต้องเปิดตัวในปี 2020
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ Ford Motor ยังมีแผนที่จะยุติการผลิต Mondeo, S-Max, C-Max และ Galaxy จึงมีแนวโน้มว่าพนักงานจากโรงงานในสเปนและเยอรมนีต้องตกงานหลายตำแหน่ง
ที่มา : Carscoops