นับตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2017 บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก 3 อันดับต่างแข่งขันด้านยอดผลิตและยอดขายกันหนักหน่วงชนิดที่ต้องลุ้นแล้วลุ้นอีก เพราะ Volkswagen Group ก็ตั้งเป้าไว้ว่าบริษัทจะต้องก้าวเข้าสู่กลุ่มบริษัทยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2018 ให้ได้ ส่วน Toyota ก็ย่อมมีเป้าหมายในใจว่าอยากจะครองโลกเช่นเดียวกันกับ Volkswagen Group
แต่ทั้งคู่ก็เหนื่อยเพิ่มขึ้นไปอีกดีกรี (ซึ่งปกติก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว) เมื่อมีม้ามืดตัวใหม่ที่ชื่อว่า Renault-Nissan Alliance พุ่งทะยานแซงหน้า GM ที่รามือจากตลาดรถในยุโรป เข้าสู่กลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ 1 ใน 3 ของโลกอย่างรวดเร็ว และดูทีท่าว่าม้าตัวนี้จะไม่ยอมสงบโดยง่ายเสียด้วย
หนำซ้ำ Carlos Ghons ก็ยังเชื่อมั่นอย่างมากว่า Renault-Nissan Alliance จะครองตำแหน่งบริษัทรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่เบอร์ 1 ของโลกในปี 2017 อีกด้วย
แค่คิดก็ลุ้นจนน้ำลายเหนียวแทน
ล่าสุด Forbes ได้รวบรวมยอดผลิตรถยนต์ระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2017 ของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ 3 บริษัทก็พบว่า
Toyota ยังคงเป็นบริษัทรถยนต์ที่มียอดผลิตสูงสุดในโลกมากถึง 4,375,682 คัน เติบโตขึ้น 6.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ Renault-Nissan Alliance มียอดผลิต 4,370,093 คัน เติบโต 8.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ห่างจาก Toyota เพียงแค่ 5,589 คัน
ส่วน Volkswagen Group ก็มียอดผลิตรถยนต์รวม 4,234,900 คัน เติบโต 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
C-HR คือ 1 ในตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Toyota ยังคงครองเบอร์ 1 ของโลกไว้ได้
สำหรับยอดผลิตรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2017 กลับกลายเป็นว่า Volkswagen Group มียอดขายสูงที่สุดในโลกถึง 898,700 คันเติบโต 3.1% ตามมาด้วย Renault-Nissan Alliance 897,947 คัน เติบโต 12.5% และ Toyota 849,339 คัน เติบโต 1.4%
ต้องจับตาดูให้ดีว่าในปีนี้ค่ายใดจะขึ้นเบอร์ 1 ของโลกอย่างแท้จริง
Volkswagen Group กับแบรนด์รถยนต์ในเครือมากมาย
หมายเหตุ
- ยอดผลิตรถยนต์ Toyota ประกอบไปด้วย Toyota, Lexus, Daihatsu และ Hino
- ยอดผลิตรถยนต์ Renault-Nissan Alliance ประกอบไปด้วย Renault, Nissan, Mitsubishi, Infiniti, Avtovaz, Dacia และ Datsun
- ยอดขายรถยนต์ Volkswagen Group ประกอบไปด้วย Volkswagen, Audi, Skoda, Seat, Bentley, Bugatti, Lamboborghini, Porsche, MAN และ Scania
ที่มา : Forbes