วันที่ 1 มิถุนายน 2018 เป็นวันที่ทุกคนจะหายข้องใจว่า Sergio Marchionne : CEO ใหญ่แห่ง Fiat Chrysler Automobiles หรือ FCA จะกล้าถอดแบรนด์ Chrysler ออกจากตลาดอย่างข่าวที่ลือกันหรือไม่?
ผลสรุปหลังจากการแถลงข่าวผลประกอบการและแผนงาน FCA Capital Meeting Day ก็คือ FCA ยังคงเก็บแบรนด์ Chrysler เอาไว้อยู่ แต่ดูเหมือนว่าจะลดความสำคัญลงไป เพราะ FCA มองเห็นโอกาสในการทำกำไรจาก SUV และรถหรูมากกว่ารถตลาด Mainstream ที่ไม่มีทางสู้คู่แข่งชั้นนำได้แล้วในวันนี้
Sergio Marchionne ได้เปิดเผยแผนธุรกิจระยะกลางระหว่างปี 2018-2022 ก่อนที่เขาจะลาจากตำแหน่ง CEO ภายในต้นปี 2019 และถือเป็นการสิ้นสุดการทำงานกับ Fiat Automobiles มายาวนานถึง 14 ปี โดยหัวใจหลักของแผนธุรกิจนี้ก็คือการผลักดัน Alfa Romeo, Maserati, RAM และ Jeep ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์รถยนต์พรีเมี่ยมและรถอเนกประสงค์ให้สามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมาย
นั่นหมายความว่า FCA จะยังรักษาสถานภาพของแบรนด์ Chrysler และ Fiat ให้คงที่เอาไว้ แต่เนื่องจากมันเป็นแบรนด์ Mainstream ที่มีการแข่งขันสูง จึงทำให้กลุ่มบริษัทไม่ได้โฟกัส 2 แบรนด์นี้มาก
ในภาพรวม FCA จะลงทุนด้านขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งในรูปแบบ Hybrid, PHEV และรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปพร้อม ๆ กับเทคโนโลยีระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 2-3 และจะยกเลิกรถยนต์เครื่องดีเซลทั้งหมดภายในปี 2021 ในยุโรป
FCA ยังคงตั้งเป้าหมาย Alfa Romeo มียอดขายถึง 400,000 คัน/ปี Alfa Romeo ก็คาดการณ์ว่าพวกเขาจะสามารถทำยอดขายได้มากถึง 170,000 คัน ภายในปี 2018 และเพื่อให้ได้ถึงเป้าภายในปี 2022 Alfa Romeo ก็เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ถึง 7 รุ่น ได้แก่
- Giulietta Minorchange
- C-SUV
- Giulia Minorchange พร้อมรุ่นฐานล้อยาว
- Stelvio Minorchange พร้อมรุ่นฐานล้อยาว
- E-SUV
- All NEW GTV
- All NEW 8C
ที่สร้างความประหลาดใจที่สุดคงหนีไม่พ้น การกลับมาอีกครั้งของ All NEW Alfa Romeo GTV และ 8C โดยทางบริษัทเผยสเป็คเบื้องต้น ดังนี้
All NEW Alfa Romeo GTV
- มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนัก 50-50
- ขุมพลัง E-Boost 600 กว่าแรงม้า
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Torque Vectoring
- รองรับผู้โดยสาร 4 คน
All NEW Alfa Romeo 8C
- โครงสร้างโมโนค๊อคคาร์บอนไฟเบอร์
- เครื่องยนต์ Twin Turbo วางกลาง
- ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังยังล้อคู่หน้า
- รวมพละกำลังมากกว่า 700 แรงม้า
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง น้อยกว่า 3 วินาที
Maserati รถยนต์พรีเมี่ยมอีกแบรนด์ที่ FCA ฝากความหวังเอาไว้ โดยพวกเขาตั้งใจจะวางตำแหน่งแบรนด์ให้ท้าชนกับ Tesla อย่างสมศักด์ศรี โดยร่วมมือกับ Ferrari ในการพัฒนาขุมพลังแห่งอนาคตทั้ง Hybrid, Plug-in Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้า EV เน้นเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Level โดยมีรถใหม่ที่จะแนะนำตัวถึง 6 รุ่นได้แก่
- D-SUV
- All NEW Lavente
- Ghibli Minorchange
- All NEW Quattroporte
- Alferi
- Alferi Cabrio
ในภาพรวมถือว่า Maserati มีรถยนต์ที่สร้างกระแสความสนใจได้ไม่แพ้กับ Alfa Romeo พวกเขาตั้งเป้ายอดขาย 100,000 คันภายใน 4 ปีข้างหน้า และมีผลกำไร margin 15% ภายในปี 2022 จากปัจจุบันที่มียอดขายเพียง 50,000 คันในปี 2017 และนี่ก็คือรายละเอียดรถรุ่นใหม่ที่จะมาทำตลาดในอนาคต
Maserati D-SUV
- สร้างขึ้นบน Platform น้ำหนักเบาที่ดีที่สุดในคลาส
- อัตราส่วนการกระจายน้ำหนัก 50-50
- การขับขี่และบังคับควบคุมอยู่ในขั้นเหนือชั้น
- มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดในคลาส
- ติดตั้งขุมพลัง Plug-in Hybrid
All NEW Maserati Quattroporte และ Lavente
- ทั้งคู่ถูกสร้างขึ้นบน Modular Platform
- อัตราส่วนการกระจายน้ำหนัก 50-50
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic
- ขุมพลัง Plug-in Hybrid
นอกจากนี้ Maserati ยังดำเนินกลยุทธ์รถยนต์ไฟฟ้า EV ภายใต้ชื่อ Maserati Blue ที่จะนำขุมพลังไฟฟ้าติดตั้งลงในรุ่น Alferi, Alferi Cabrio, All NEW Quattroporte และ Lavente มีคุณสมบัติ
- มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวส่งกำลังแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Torque Vectoring
- แบตเตอรี่ 800V
- น้ำหนักเบา
- ระบบใช้พื้นที่น้อย
- ระยะทางวิ่งไกล
- ใช้เวลาชาร์จด่วน
สิ่งที่ Maserati วาดฝันไว้คือ Alferi และ Alferi Cabrio คือรถ Supercar ขุมพลังไฟฟ้าที่มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 2 วินาที ที่เป้าหมายท้าชนกับ Tesla Roadster
ภารกิจสำคัญของแบรนด์ Jeep คือนอกจากจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์รถยนต์ขาลุยแห่งประวัติศาสตร์แล้ว ตัวแบรนด์ก็ต้องปรับตัวให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยการยกเลิกเครื่องยนต์ดีเซลในตลาดยุโรปและตะวันออกกลาง โดยในรถทุก ๆ รุ่นจะต้องมีขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ลูกค้าได้เลือกซื้อกันภายในปี 2021
ปกติ Jeep มียอดขาย 1.9 ล้านคันทั่วโลก และยังไม่มีการประกาศเป้าหมายที่ชัดเจน พร้อมกันนี้ Jeep ก็ยังขยายไลน์สินค้าให้มีความหลากหลายขึ้น
- A/B-SUV
- All NEW Renegade
- Compass Minorchange
- All NEW Cherokee
- Low D-SUV เบาะนั่ง 3 แถว
- Jeep Truck
- All NEW Grand Cherokee เบาะนั่ง 2 แถว
- E-SUV เบาะนั่ง 3 แถว
- All NEW Wagoneer/Grand Wagoneer
Jeep ถือเป็นค่ายที่ปรับตัวต่อตลาด SUV ได้รุนแรงมาก เพราะนอกจากจะพัฒนา A/B-SUV สำหรับตลาดเกิดใหม่หรือตลาดประเทศกำลังพัฒนาแล้ว Jeep ก็ยังได้แบ่งเกรดความต้องการของผู้ใช้ SUV อย่างละเอียดและลึกซึ้ง (คงเพราะไม่อยากให้คนมองว่า Jeep คือแบรนด์ที่เน้นทางลุยฝุ่นเพียงอย่างเดียว) ถึงขั้นแบ่งบุคลิกของรถถึง 2 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มเน้นการขับขี่ Off-Road
- TrailHawk เน้นการบุกตะลุยกว่ารถ Jeep มาตรฐาน
- DesertHawk เน้นการลุยหนักบนพื้นทราย
กลุ่มเน้นการขับขี่ On-Road
- TrackHawk เน้นสไตล์สปอร์ต
- แบบใหม่ล่าสุด ที่ยังปิดบังชื่อกันอยู่เน้นการขับขี่ในเมือง
RAM แบรนด์รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีเพียงแค่เพิ่มไลน์รถกระบะ Mid-Size / Metric Ton ที่ต่อกรกับ Ford Ranger นอกนั้นก็จะแนะนำรถกระบะ TRX, All NEW Heavy Duty, All NEW Promaster City เท่านั้น
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า FCA จะไม่โฟกัสแบรนด์ Fiat ในด้านผลกำไรเท่าไรนัก แต่ใช่ว่า FCA จะทอดทิ้ง Fiat ไปเลย เพราะอีกไม่นาน Fiat ก็จะปลดหนี้ให้เหลือ 0 ได้ และนับต่อจากนี้ไปแบรนด์ Fiat ก็จะทำตลาดเป็นรถยนต์เฉพาะกลุ่มมากขึ้น
สำหรับตลาดยุโรปจะแนะนำ All NEW Fiat 500 BEV และ 500 Giardiniera BEV ซึ่งเป็นตัวถังแวกอนตามระยะเวลาของแผนธุรกิจและรวมถึง All NEW Fiat 500 Mild Hybrid
สำหรับตลาดละตินอเมริกาใต้นั้น Fiat ไม่มีทางทอดทิ้งไปได้ เพราะมันยังมียอดขายที่สูงมาก ดังนั้น Fiat จึงพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาดโลก อาทิ
- Low D-SUV เบาะนั่ง 3 แถว
- B-SUV
- A-SUV
สำหรับความเคลื่อนไหวของ Chrysler แทบไม่ได้พูดถึงมากนัก นอกจากจะเน้นหนักไปยัง Chrysler Pacifica ที่กำลังชายดีในตลาดสหรัฐอเมริกา
ที่มา : FCAGroup