นับต่อจากนี้ Fiat จะกล้าดับเครื่องชน ทำในสิ่งที่ตนเองถนัดเป็นหลัก จะไม่ทิ้งหมัดสุ่มสี่สุ่มห้าหว่านลูกค้าไปทั่วเหมือนใน
อดีตที่ผ่านมา
นับจากนี้ไปแบรนด์ Fiat จะกลายเป็นแบรนด์รถยนต์ที่จับตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น หลังจากที่รู้ตัวแล้วว่าจับตลาดรถที่มี
เอกลักษณ์เฉพาะตัวจะรุ่งกว่า ดั่งที่เห็นจาก Fiat Panda และ 500
สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ Fiat ณ ตอนนี้คือชื่อเสียงรถตระกูล Fiat 500 เพราะทั้ง 500 รุ่นมาตรฐานและ 500L มินิแวนต่างเป็น
ผู้นำในกลุ่มที่แต่ละคันทำตลาด Fiat จึงสานต่อความสำเร็จของตระกูล 500 ให้ขจรไปยังกลุ่มรถยนต์เซกเมนต์อื่นบ้าง
นั่นก็คือรถในกลุ่มครอสโอเวอร์ระดับ C-Segment หรือเซกเมนต์เดียวกับ Nissan Qashqai นั่นเอง
หากทั้ง Fiat และ Jeep ทำรถประเภทนี้ออกมาได้ พวกเขาก็จะสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะมันมีต้นทุนการ
พัฒนาไล่เลี่ยกับรถ C-Segment Hatchback มาตรฐานแต่สามารถตั้งราคาสูง ว่ากันว่าอาจมาในชื่อ Fiat 500XL
นอกจากนี้ Fiat ก็ยังกลับไปตั้งหลักปรับปรุงกลยุทธ์การบุกตะลุยรถยนต์ C-Segment ด้วยการหันไปพัฒนารถแบบ Back
To Basic บนพื้นฐานเดียวกับ Fiat 500L และย้ายไปผลิตที่ประเทศตุรกีด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการ
แข่งขันในลีคเดียวกับ VW Golf และ Ford Focus ที่นับวันมีต้นทุนการผลิตแพง, อัดออพชั่นมาตรฐานมากเกินไปจนทำ
ให้มีส่วนต่างกำไรน้อย
นั่นหมายความว่ารถ Fiat C-Segment คันนี้น่าจะเป็นประเภทเดียวกับ Citroen C4 Cactus นั่นเอง คือราคาคุ้มค่า แต่
ไม่(น่าจะ) ประหยัดดีไซน์ เพียงพอต่อการใช้งานจริง
จะว่าไปรถ C-Segment สุดคุ้มแบบนี้น่าจะปรากฏในแบรนด์รถญี่ปุ่นบ้างก็ดีนะ
ที่มา : Autocar