หากใครยังจำได้ ช่วงสงกรานต์ ปี 2014 GoodYear เคยติดต่อมาหาผม
เพื่อส่งรถยนต์ Ford Focus พร้อมยาง Eagle F1 Directional 5 รุ่นใหม่
มาให้ผมทดลองขับ และครั้งนั้น ถือได้ว่าเป็นรีวิวยางรถยนต์ ครั้งแรก
ของ Headlightmag.com

แม้ว่าจะมีคนอ่านค่อนข้างน้อย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตามปกติ
คุณผู้อ่านของเราส่วนใหญ่ ตั้งใจจะเข้ามาหาข้อมูลของรถยนต์ มากกว่า
ที่จะนึกถึงยางรถยนต์

อย่างที่ผมเคยเขียนเอาไว้เมื่อนานมาแล้วนั่นแหละครับว่า มันเป็นเรื่อง
ยากมาก ในการทำบทความแบบนี้ออกมา เพราะการทดสอบยางรถยนต์
แตกต่างจากการทดสอบรถยนต์มาก มันเต็มไปด้วยข้อจำกัดมากมาย
เหมือนอย่างที่ผมเคยบ่นไปแล้ว ในบทความทดลองยาง Eagle F1
นั่นแหละ

กระนั้น GoodYear ก็ยังคงไม่ละความพยายาม ที่จะให้มีรีวิวยางรุ่นใหม่
ของพวกเขา ในเว็บไซต์ของเรา อันที่จริง มองได้ว่าเป็นเรื่องดีสำหรับ
ผู้บริโภค เพราะในอดีตที่ผ่านมา น้อยครั้งมากที่เราจะเห็นการทำบทความ
รีวิวยางรถยนต์รุ่นใหม่ๆ การค้นหาข้อมูลของยางรุ่นที่กำลังทำตลาดอยู่
แล้วเจอใครสักคนที่เชื่อถือได้ ทำรีวิวให้คุณอ่าน นั่นย่อมทำให้การ
ตัดสินใจ ง่ายขึ้น และส่งผลทำให้ยอดขายของยาง เพิ่มสูงขึ้น

พูดง่ายๆก็คือ เป็นอีกวิธีในการทำตลาดนั่นแหละครับ

GoodYear ค่อนข้างฉลาด ที่เลือกจะไม่เน้นการทุ่มงบโฆษณาเหมือน
คู่แข่งค่ายอื่นเขา และเลือกที่จะทำตลาดผ่านช่องทาง Digital Media
อย่างที่พวกเขากำลังทำอยู่นี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ น้ำซึมบ่อทราย ส่งผลให้
ยอดขายของ GoodYear เพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ และผู้บริโภค ก็เริ่มๆ
ถามหายาง GoodYear กันบ้างแล้ว หลังจากที่แต่ก่อนนี้ มักจะร้องยี้
จากปัยหาภาพลักษณ์ของแบรนด์ และความไม่มั่นใจในประสิทธิภาพ
อันเกิดจากผลงานที่ยางรุ่นก่อนๆ ทำไว้ไม่ค่อยดีนัก

มาวันนี้ ทุกสิ่งเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และพวกเขา ก็เพิ่งจะ
เปิดตัว ยางรุ่นใหม่ ซึ่งผมมองว่า นี่มันเป็นยางที่ ผลิตออกมาเอาใจกลุ่ม
ลูกค้าประเภท ใช้รถอย่างเดียวชัดๆ

ลูกค้ากลุ่มนี้ มักมีคำถามผุดขึ้นมาว่า…

“ยางรถยนต์นี่ เราต้องเปลี่ยนมันด้วยเหรอคะ หนูนึกว่าใช้ได้ยาวจนกว่า
จะหมดอายุรถแล้วขายทิ้งเสียอีก!”

อีบร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!
อกชมพุ่จะแตก ฟังแล้วแทบจะเป็นลม! ใครสั่งใครสอนหล่อนหยั่งง้านนนน!

Goodyear Assurance Duraplus เป็นยางรถยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นต่อเนื่อง
จากรุ่น Duraplus ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2014 ด้วยเป้าหมายที่จะเจาะตลาด
กลุ่มลูกค้าทั่วๆไป ทั้งชายและหญิง ซึ่งใช้รถยนต์ขนาดเล็ก และขนาด
กลาง ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ คนกลุ่มนี้ ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถยนต์ มากนัก แต่
จำเป็นต้องซื้อรถยนต์มาขับขี่ใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือกลุ่มลูกค้า
ที่มองหาความคุ้มค่า คุ้มราคาที่จ่ายไป

ลูกค้ากลุ่มนี้ มักเดินทางแค่ในเมือง หรืออาจจะออกต่างจังหวัดบ้าง แต่
ไม่บ่อยครั้งนัก อีกทั้งไม่ค่อยมีเวลาว่างเพราะต้องทำงานเป็นหลัก จึงมัก
จะเลือกเปลี่ยนยางตามศูนย์บริการที่มีการโฆษณาจนรู้จักแพร่หลาย เช่น
B-Quik ACTS หรือช้อปของ GoodYear Autocare เป็นต้น

สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการก็คือ ยางรถยนต์ที่ผสานคุณสมบัติสำคัญ ซึง
ผู้คนทั่วไปคาดหวังไว้จากการเปลี่ยนยางทั้ง 4 เส้น ทั้งการยึดเกาะถนน
ที่ดีในระดับยอมรับได้ การรีดน้ำบนถนนเปียกลื่น ความทนทาน อายุ
การใช้งานยาวนานกว่าปกติ ดอกยางสึกหรอช้า เก็บเสียงรบกวนได้บ้าง
ที่สำคัญก็คือ ราคาต้องไม่แพงจนเกินไป

จุดขายของ GoodYear Assurance Duraplus อยู่ที่การการันตีว่า สามารถ
ใช้งานได้นานถึง 100,000 กิโลเมตร เหตุผลที่ทำให้ยางมีอายุคงทนได้
ขนาดนี้ พวกเขาบอกว่า เป็นเพราการนำ เทคโนโลยีที่ชื่อว่า “เทรดไลฟ์”
(TredLife Technology) มาใช้กับยางรุ่นนี้ เพื่อช่วยให้ยืดอายุการใช้งาน
พอๆกับการขับรถยนต์รอบโลกถึงสองเท่าครึ่ง!

TredLife Technology มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ การนำคาร์บอนสูตรใหม่
มาผสมลงในเนื้อยาง  ที่เขาก้ไม่เปิดเผย ว่าสูตรอะไร เพราะเป็นความลับ
ทางการค้า ซึ่งมีผลทำให้เนื้อยาง สึกหรอช้าลง และนอกจากนี้ GoodYear
ยังได้เพิ่มความลึกของดอกยาง เมื่อ 2 สิ่งนี้ มารวมกัน ทำให้ยางรุ่นนี้ มี
อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น วิศวกรของ GoodYear ยังเลือกใช้เส้นใยดูปองท์ เคฟลาร์
(DuPont Kevlar) ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในวงการทหาร เนื่องจากมีน้ำหนักเบา
ทว่าแข็งแกร่ง แม้ในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง มาเสริมทับในโครงสร้างยาง เพื่อ
ช่วยเสริมความทนทานให้ยางในระยะยาว

ฟังดูแล้วเหมือนกับว่า ใช้วิธีแก้ปัญหา “ยางราคาประหยัด หรือยางรักโลก
มักไม่เกาะถนน” ด้วยวิธี เสริมเนื้อยางมันเข้าไป เพื่อเพิ่มแรงเสียดทาน
ให้มากขึ้น แต่ใช้ Kevlar มาทำโครงสร้างยาง เพื่อช่วยลดน้ำหนักของยาง
ให้น้อยลง นั่นเอง

สิ่งที่ผู้ใช้รถยนต์คาดหวังจากการเปลี่ยนยางแต่ละครั้ง มักจะมีอยู่ 5 ประการ
นั่นคือ การเกาะถนน การเข้าโค้ง การรีดน้ำ ความเงียบ หรือเสียงยางขณะ
บดกับถนน และความคุ้มค่า เมื่อแลกกับราคาที่ต้องจ่ายออกไป และสำหรับ
กลุ่มยางรถยนต์ประเภททั่วไป สหรับรถยนต์นั่ง ความนุ่มนวล จะเป็นอีก
ประเด็นสำคัญที่ลูกค้ามักจะหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกัน

เมื่อต้องนำมาจัดแบ่งหัวข้อกันให้ชัดเจนขึ้น เราสามารถแยกออกมาได้
รวมแล้วเพียง 3 หัวข้อ นั้นคือ สมรรถนะบนพื้นแห้ง สมรรถนะบนพื้น
เปียกลื่น และการเก็บเสียง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ในวันนัดส่งมอบรถให้ผม ทาง ABM (PR Agency
ของ GoodYear) ได้นำรถ Foucs คันนี้ ไปเปลี่ยนเป็นยางชุดที่เราจะใช้ใน
การทดลองทันที ดังนั้น ยางทั้ง 4 เส้น จึงมีสภาพใหม่ถอดด้าม และเพิ่งสวม
ใส่เข้ากับล้อ สดๆร้อนๆ ทำให้ผมยังไม่สามารถประเมินประสิทธิภาพของ
ยาง เมื่อใช้งานไปแล้วหลักเกิน 10,000 กิโลเมตร ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ผม
จึงขอเล่าถึงเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากยางชุดนี้ ผ่านการใช้งานไปแล้วราวๆ
1,000 กิโลเมตร แรก เท่านั้น

สมรรถนะบนพื้นแห้ง และการเข้าโค้ง :

ในช่วงความเร็วต่ำขณะขับขี่ในเมือง หากสูบลมไว้ประมาณ 32 – 34 ปอนด์/
ตารางนิ้ว ยางจะแข็งแต่ยังพอมีความยืดหยุ่นให้ได้สัมผัสกันอยู่บ้าง ขณะขับ
ผ่านเนินลูกระนาดหรือรอยต่อพืนปูนซีเมนต์ตามตรอกซอกซอย แต่ถ้าเจอ
หลุมฝาท่อ ชัดเจนเลยว่า แก้มยางของ Assurance จะรองรับ และดูดซับแรง
สะเทือนเอาไว้ให้คุณได้ดีในระดับน่าพอใจ

ด้านความนุ่มนวล ถือว่าทำออกมาใช้ได้ดี มีการซับแรงกระแทกต่างๆได้ดี
พอประมาณ ดีกว่ายางติดรถบ้านหลักแสนจากโรงงานส่วนใหญ่ แก้มยาง
มีความแข็งมากกว่า Bridgestone Ecopia EP200 ทำให้บางจังหวะที่ถนน
เป็นกรวดยังรู้สึกมีความกระด้างหลงเหลืออยู่บ้าง

ขณะขับขี่บนทางด่วน หรือทางหลวงแผ่นดิน ช่วงตั้งแต่ 80 – 200 กิโลเมตร/
ชั่วโมง Assurancde Duraplus ทำหน้าที่ของมัน ได้อย่างที่ควรเป็น ยางรุ่นนี้
ให้การยึดเกาะถนนที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว

ถ้าจะถามถึงอาการแฉลบของยาง ขณะขับผ่าน รอยต่อเชื่อมถนนแบบโลหะ
ของทางด่วน ขั้นที่ 2 บอกได้เลยว่า ถ้าวิ่งตรงๆ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเลี้ยวเข้าโค้ง
ก็อาจมีอาการให้แอบเสียวจากการแฉลบนิดๆ แต่ก็ถือว่า อยูในระดับปกติ
ยอมรับได้

เอาน่า น้อยกว่า Dunlop LM703 จอมแถจอมแฉลบในตำนานแล้วกัน!

ถ้าถามถึงความมั่นใจในการควบคุมรถ ขณะแล่นไปตรงๆ บอกเลยว่า ผมได้
ทดลองปล่อยมือจากพวงมาลัยของ Focus 2.0 GDi คันนี้ ที่ความเร็ว ระดับ
200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้เพียงราวๆ 3 – 4 วินาที ซึ่งสั้นไป เมื่อเทียบกับ ยาง
Eagle F1 Directional 5 ซึ่งผมเคยนำมาทดลองขับเมื่อปีก่อนและอยูในรถ
Focus 2.0 GDI เหมือนกัน ครั้งนั้น ผมปล่อยมือจากพวงมาลัยที่ความเร็ว
ระดับเดียวกันได้นานถึง 10 วินาที!

อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของ Assurance Duraplus ที่ผมเชื่อว่าหลายคนจะ
สัมผัสได้ทันที หลังจากเปลี่ยนมาใช้ยางชุดนี้ นั่นคือ การยึดเกาะถนน
ขณะเข้าโค้งบนทางด่วน ที่ทำได้ดีเกินคาดคิดไปบ้างเหมือนกัน

ผมสามารถพา Focus 2.0 GDI เข้าและออกจากทางโค้งขวารูปเคียว ช่วง
เหนือมักกะสันได้ที่ระดับ 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขณะที่ตัวเลขความเร็ว
ขณะแล่นผานทางโค้งต่างๆ ของระบบทางด่วนในกรุงเทพยามค่ำคืน
และทางโค้งขวา รูปเคียว เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งทางโค้งขวา
จากสนามบินแห่งดียวกัน ลงสู่ ถนนบางนา – ตราด ผมทำความเร็วได้
ที่ระดับ 90 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามลำดับ

แต่ต้องหมายเหตุไว้ด้วยว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Focus 2.0 GDI ที่สวม
ยาง Eagle F1 Directional 5 จะพบว่า ตัวเลขความเร็วที่ผมใช้ ในขณะ
พารถเข้า และออกจากโค้ง ในรถที่ใช้ยาง Duraplus ลดลงมานิดหน่อย

เพราะในโค้งขวารูปเคียว เหนือมักกะสัน Focus 2.0 GDI สวมยางรุ่น
Eagle F1 ทำความเร็วบนมาตรวัดได้สูงถึง 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วน
ทางโค้งขวา รูปเคียว ที่เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งทางโค้งขวาจาก
สนามบินแห่งดียวกัน ลงสู่ ถนนบางนา – ตราด ผมเข้าโค้งด้วยความเร็ว
สูงถึง 105 และ 115 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตามลำดับ โดยตัวรถไม่มีอาการ
ชวนหวาดเสียวมากมายเกินการควบคุมนัก

ในภาพรวมแล้ว GoodYear Assurance Duraplus ยึดเกาะถนนได้ดีกว่า
บรรดายางประหยัดน้ำมันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Michelin Energy หรือ
Bridgestone Ecopia แม้กระทั่ง พวก Dunlop รุ่นถูกๆ อย่างเห็นได้ชัด
ต่อให้คุณไม่ได้เป็นเซียนเรื่องยางรถยนต์ แค่ลองสาดเข้าโค้งดู คุณก็จะ
สัมผัสได้เอง โดยไม่ต้องเชื่อแม้กระทั่งผม!

หากต้องเทียบกับยางที่ราคากลางค่อนสูงอย่าง Bridgestone EP200 หรือ
Yokohama BlueEarth จะพบว่าเกาะถนนด้อยกว่ากันไม่มากนัก

อย่างไรก็ตาม อย่าคาดหวังว่า การที่คุณจ่ายเงินซื้อยางระดับราคาประมาณ
1,800 – 3,500 บาท / 1 เส้น จะแลกมาด้วยสมรรถนะการเข้าโค้งที่หนึบแน่น
ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง เหมือนยางรุ่นพี่อย่าง Eagle F1 เชียวละ! ยังครับ
Assurance Duraplus ไม่ได้ดีเยี่ยมถึงขนาดนั้น แค่เพียงทำได้ดีเกินกว่าที่ผม
คาดคิดและคาดหวังไว้นิดหน่อย จากยางในระดับราคานี้

สมรรถนะบนพื้นเปียกลื่น :

ช่วงสงกรานต์ ผมเจอพื้นเปียกลื่น แค่บริเวณที่มีการเล่นน้ำอยู่ริมถนนของ
บรรดาเหล่าแว๊นบอยสก๊อยเกิร์ล ทั้งหลาย ดังนั้น จึงไม่สามารถบอกได้ชัด
ว่าถ้าเจอแอ่งน้ำขนาดใหญ่แล้ว จะมีอาการปัดเป๋หรือไม่ กระนั้น หากคุณ
ต้องหักหลบบนพื้นลื่น โดยไม่ได้เหยียบเบรก ก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นไป
อย่างราบรื่น แต่ถ้าต้องเบรกกระทันหันในสภาพถนนที่เปียกลื่น ด้วยรถที่
ติดตั้งระบบ ABS ขอแนะนำว่า แม้ระยะเบรกจะสั้น แต่เผื่อระยเบรกไว้
สักนิดก็ดี

เสียงรบกวน :

ขณะขับขี่ ในช่วงความเร็วใดๆก็ตาม ทั้งบนถนนในเมือง หรือบนทางด่วน และ
ทางหลวงแผ่นดิน ที่เชื่อมต่อถึงกัน ผมยังไม่พบเสียงรบกวนจากยางมากมายนัก
ยังไม่มีเสียงหอนเข้ามาให้ได้ยิน อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับยางราคาถูกๆ บางยี่ห้อ
ที่เปลี่ยนยางปุ๊บ ขับออกมาไม่ทันไร เสียงหอนตามมาหลอกหลอนแทบทันที

เสียงของยาง อาจเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับสภาพของพื้นผิวถนน หากเป็นพื้นผิว
ถนนซีเมนต์ก่อสร้างใหม่ เสียงจะพอลอดขึ้นมาให้ได้ยินอยู่บ้าง เบาๆ ถ้าเป็น
ถนนผิวยางมะตอย บนทางด่วน ทั้งช่วงทางราบบ่อนไก่ และทางราบสุขุมวิท 62
อันเป็นช่วงที่มีการเทยางมะตอยคุณภาพดีที่สุด และเหมาะสมกับสภาพอากาศ
ของประเทศไทยเรามากที่สุด บอกได้เลยว่า เสียงจากยางจะเงียบยิ่งกว่าเดิมอีก
พอสมควร

บนพื้นผิวแห้ง ยางมะตอย ถ้าคุณพารถเข้าโค้งขวารูปเคียว บนทางด่วนในช่วง
มักกะสัน ด้วยความเร็วสูงราวๆ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง การยึดเกาะถนนจะลดลง
และเสียงร้องเอี๊ยดอ๊าดจะเริ่มส่งขึ้นมาให้คุณได้ยินเบาๆ แต่ชัดเจน ไม่โวยวาย
แต่ก็ไม่ได้เงียบนัก เหมือนเสียงเด็กน้อยที่วิ่งสะดุดขาตัวเองจนหกล้ม แต่เห็น
หน้าของคุณแม่ใจยักษ์ข่มขู่ไว้ว่าอย่าร้องไห้ ไม่งั้นจะตีให้เจ็บกว่าเดิม เลยต้อง
ร้องออกมาได้แค่เพียงเบาๆ

********** สรุป **********
ยางสำหรับคนที่มีคำถามในใจว่า “เราต้องเปลี่ยนยางกันด้วยเหรอ?”

ทำเป็นเล่นไป มีจริงๆนะครับ คนประเภทที่ผมพูดถึงข้างบนนี้ ยังมีอีกมากมาย
ในสังคมไทย หลายคนไม่รู้มาก่อนเลยว่า ยางรถยนต์หนะ ตามปกติแล้ว มีอายุ
การใช้งานของมัน อยู่ที่ราวๆ 6 ปี นับจากวันผลิต แต่โดยทั่วไป คนส่วนใหญ่
มักใช้งานกันราวๆ 3 ปี หรือแถวๆ 50,000 กิโลเมตร บวกลบนิดหน่อย จึงค่อย
เปลี่ยนยางกัน

ผู้หญิงบางคน ซื้อรถมา ไม่รู้มาก่อนเลยว่า ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง มารู้ตัว
กันอีกที นางก็บ่นว่า ทำไมเร่งไม่ขึ้น อืดลงเยอะ ก็แหงเสะ นางเล่นขับรถชนิด
ลากยาวไปถึง 30,000 กิโลเมตร จึงค่อยรู้ว่า ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง

แน่นอนว่า คนกลุ่มนี้ ก็อาจจะไม่รู้หรอกว่า ยางรถยนต์ ก็มีอายุการใช้งาน และ
ควรจะเปลี่ยนมันทิ้งเสีย เมื่อดอกยางเริ่มสึกจนยางแทบจะมีสภาพใกล้เคียงกับ
ศีรษะของเจ้าคุณปัจจนึก ในนวนิยายเรื่อง  พล นิกร กิมหงวน

ดังนั้น GoodYeafr Assurance Duraplus จึงเป็นยางที่เหมาะกับการใช้งานของ
บรรดาชะนีออฟฟิศ และมนุษย์ป้า ที่ไม่มีเวลาเอารถไปเปลี่ยนยางทุก 50,000
กิโลเมตร เพราะ GoodYear เล่นออกแบบยางมาให้เนื้อดอกยางหนาขึ้น และ
เสริมเทคโนโลยี “เคฟลาร์” เข้าไปเสียจนกระทั่งมันสามารถลากไปเปลี่ยนทิ้ง
กันอีกทีได้ถึง 100,000 กิโลเมตร

เสียดายว่า เราไม่มีเวลามากพอจะนำยางชุดนี้มาใช้งานเพื่อพิสูจน์ว่า มันจะทน
และคงสภาพอยู่ได้ถึง 100,000 กิโลเมตร ตามที่โฆษณาไว้หรือเปล่า

กระนั้น ยางรุ่นนี้ ก็ยังถือว่า เป็นตัวเลือกที่ดีหากมุ่งเน้นการใช้งานแบบทั่วไป
ต้องการใช้แบบเอาความคุ้มค่าเป็นหลัก ไม่เปลี่ยนยางบ่อยๆ แถมราคาไม่แพง
การยึดเกาะถนน ดีกว่าที่คาดนิดหน่อย เหมาะกับคนที่ใช้รถยนต์ Ecocar หรือ
B-Segment และ C-Segment ทั่วไปที่กำลังคิดจะเปลี่ยนยางโรงงานออก แล้ว
หายางแบบธรรมดามาใช้ แต่คุณสมบัติอื่นๆ ก็เป็นไปตามราคา

ใครก็ตามที่มีนิสัยขับรถแบบพวกตีนผี แต่งบน้อย ผมมองว่า ยางรุ่นนี้ อาจช่วย
ให้คุณออกตัวล้อฟรีใส่ชาวบ้านชาวช่องเขาได้อยู่ แต่อาจจะยากกว่า ยางจำพวก
แรงเสียดทานต่ำ (Low Rolling Resistance) พวก Michelin Energy อยู่นิดหน่อย
แต่ถ้าคุณต้องการความมั่นใจในการขับขี่ชนิดที่ว่า สาดโค้งแล้วต้องเกาะหนึบ
ยิ่งกว่าตีนตุ๊กแก ไปมองหายางสปอร์ต ที่มีค่าตัวสูงขึ้นกว่านี้อีกนิดดีกว่า

แต่ถ้าคุณเป็น คนที่มองหาความคุ้มค่า  ราคาไม่แพง แต่ได้สมรรถนะสมราคา
ที่ต้องจ่ายออกไป ยางชุดนี้ ผมว่า เป็นทางออกที่ดีกว่ายางยี่ห้อเจ้าตลาดบางค่าย
ด้วยซ้ำ

ถ้าขนาด ตาแพน ของเว็บเรา ยังออกปากว่า จะหาไซส์ 195/55 R15 มาใส่ให้กับ
Volkswagen Vento ของน้องบอม Rhino Mango มือตัดต่อวีดีโอประจำเว็บเรา

นั่นก็แสดงว่า Assurance Duraplus ก็เป็นยางที่..”พอจะพึ่งพาได้ในงบที่เหมาะสม”

———————————-///———————————-

ขอขอบคุณ / Special Thanks to :
บริษัท Ford Sales (Thailand) จำกัด
บริษัท GoodYear (Thailand) จำกัด
เอื้อเฟื้อรถยนต์ทดลองขับ

J!MMY
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ โดยผู้เขียน
ลิขสิทธิ์ภาพถ่าย รถยนต์ในประเทศไทย เป็นผลงานของผู้เขียน
ยกเว้น ภาพถ่ายจากต่างประเทศ เป็นลิขสิทธิ์ของ Goodyear
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
20 เมษายน 2015

Copyright (c) 2015 Text and Pictures Except some studio shot from Goodyear
Use of such content either in part or in whole without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com
April 20th,2015

แสดงความคิดเห็น เชิญได้ คลิกที่นี่ / Comments are Welcome! CLICK HERE