Tim Kuniskis ออกมาประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2021 ว่า Dodge กำลังจะเปิดตัวรถ EV ในปี 2024 ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่หลายคนคาดคิด เมื่อลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น มีดังนี้

  • รถต้นแบบพลังงานไฟฟ้า 100% จะเปิดตัวภายในช่วงต้นปี 2022
  • รถ PHEV รุ่นใหม่จะเริ่มขึ้นสายพานการผลิตปลายปี 2022
  • รถรุ่นปริศนาที่จะมาเป็นตัวชูโรงกำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา
  • รถเครื่องยนต์สันดาปภายในที่จะมาเป็นตัวแรง ออกจำหน่ายในปี 2024
  • รถ EV เวอร์ชั่นขายจริงที่จะมาพร้อมตรา Fratzog ในตำนาน
  • หยุดการผลิตรถ muscle car ทั้ง 2 รุ่นภายในปี 2024 แต่ยังไม่ได้ระบุเวลาแน่ชัด

ใครที่กำลังตกใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทาง Dodge บอกว่าตัวแรงอย่าง Charger และ Challenger ไม่ตายจากไปไหน และพวกเขากำลังจะหาจุดสมดุลระหว่าง ผู้ที่ชื่นชอบและผู้ที่ยังคงมีข้อกังขากับรถ EV แต่เพียงแทนที่ด้วยรถยนต์ที่ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ ที่ยังระบุไม่ได้ว่ายังคงไว้ซึ่งชื่อในตำนานหรือไม่

แน่นอนว่าการที่จะผลิตรถ muscle car บนพื้นฐานขุมพลังไฟฟ้า 100% ไม่ใช่เรื่องงาน ทำให้ Dodge ต้องวิจัยและจดสิทธิบัตรต่างๆ ก่อนที่รถต้นแบบจะพร้อมให้ยลโฉม ซึ่งจะหยิบยืมแพลตฟอร์มรถ BEV จาก 1 ใน 4 ที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้ภายในแบรนด์รถยนต์ที่อยู่ในเครือ Stellantis ซึ่งคาดการณ์ว่าจะใช้แพลตฟอร์ม “STLA Large” โดยอาจมีระยะทางวิ่งได้สูงสุดถึง 500 ไมล์ ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

สำหรับรถ SUV แบบ PHEV ภายใต้แบรนด์ Dodge จะใช้ชื่อรุ่นใหม่ ไม่ใช่ชื่อเดิมอย่าง Durango อย่างแน่นอน เนื่องจาก Durango รุ่นปัจจุบันใช้แพลตฟอร์มที่ตกรุ่นไปแล้ว ในขณะที่รถ SUV ร่วมค่ายอย่าง Jeep Grand Cherokee 4xe plug-in hybrid ได้ใช้แพลตฟอร์มรุ่นใหม่ไปก่อนหน้าแล้ว ทั้งนี้ต้องรอข้อมูลให้แน่ชัดภายหลังว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับชื่อ Durango ต่อไป

ในขณะที่ Fratzog ซึ่งเคยเป็นตราประจำรถกลุ่มหนึ่งของ Dodge ย้อนกลับไปช่วงปี 1960-1975 อย่างเช่น 1962 Dodge Polara 500 เป็นต้น ซึ่งใน teaser ของ Dodge เมื่อกลางปี 2021 ก็ได้เผยให้เห็นถึงการกลับมาของโลโก้นี้ โดยเป็นการบ่งบอกว่ารถรุ่นนั้นๆ ที่ได้รับการแปะตรานี้อีกครั้ง จะใช้ขุมพลังไฟฟ้าอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่ไม่ได้มีความคุ้นเคยกับแบรนด์ Dodge ที่มีบ้านเกิดอยู่ ณ สหรัฐอเมริกา พวกเขาอาจจะมีรถยนต์ให้เลือกไม่หลากหลายรุ่นนัก แต่ผลประกอบการล่าสุดก็ทำให้ทางต้นสังกัดอย่าง Stellantis พึงพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Challenger และ Charger ที่ยังคงทำยอดขายได้ดี แน่นอนว่าแผนในระยะ 2 ปี 2022-2024 นี้จะต้องมีความมุ่งมั่นมากพอที่จะทำให้แบรนด์มีความชัดเจนในการทำตลาดรถยนต์ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้า โดยที่ต้องไม่ทิ้งรถ muscle car อันเป็นความภาคภูมิใจไว้ข้างหลัง

ที่มา: Motortrend