บริษัทรถยนต์หลายค่ายมักเลือกทางเดินกลยุทธ์การพัฒนารถพลังงานสีเขียวสองทาง
เลือกขนานกัน คือนอกจากจะพัฒนารถไฟฟ้าสำหรับอนาคตอันสั้นแล้ว พวกเขาก็ยังต้อง
พัฒนารถ Fuel Cell สำหรับอนาคตอันไกลโพ้นอีกด้วยเผื่ออนาคตที่ไม่แน่นอนจะได้สดใน
หากมีเหตุการณ์พลิกผัน แต่สำหรับ Daimler AG กลับสวนทางเดินบริษัทรถอื่น ๆ ชนิดหักดิบ

2016_04_05_MB

Daimler AG ตัดสินใจโบกมือลารถยนต์ Fuel Cell ให้ทุ่มเทยังรถยนต์ไฟฟ้าและ Plug-in
Hybrid แทน ทั้ง ๆ ที่โครงการรถยนต์ FCV ทั้งหลายถูกพัฒนาอย่างก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ถึงกระนั้นบริษัทก็ยังคงเก็บโปรเจคท์ GLC FCV ที่จะเปิดตัวภายใน 2 ปีนี้ เพราะมันดำ
เนินการไปมากแล้วยังมีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะที่เน้นตลาดเหมาล็อตมากกว่าขายให้ประชาชนทั่วไป

Dieter Zetsche ซีอีโอ Daimler AF กล่าวไว้ในที่ประชุมคองเกรซอุตสาหกรรมยานยนต์
ในเมืองสตุ๊ทการ์ท เยอรมนี ว่า รถยนต์ Fuel Cell ไม่มีบทบาทต่อบริษัทอีกต่อไป ถึงแม้
Daimler ได้ครอบครองเทคโนโลยีรังเชื้อเพลิงระดับแถวหน้า แต่ก็ยังต้องยอมแพ้ให้แก่
เทคโนโลยีรถไฟฟ้า

เหตุผลสำคัญที่ละทิ้งรถยนต์รังเชื้อเพลิงคือ รถไฟฟ้ายุคใหม่เริ่มมีระยะทางวิ่งที่มากขึ้นและ
ใช้เวลาชาร์จประจุไฟฟ้าไวขึ้น

2016_04_05_MB2

ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถไฟฟ้าได้รับความนิยมขึ้น มีพัฒนาการด้านแบตเตอรี่
ที่ทำให้มีระยะทางวิ่งไกลขึ้น, ต้นทุนแบตเตอรี่ต่ำลง ขณะเดียวกันรถ Fuel Cell กลับไม่
สามารถหาเชื้อเพลิงไฮโดรเจนหรือถังไฮโดรเจนราคาถูกและการก่อสร้างสาธารณูปโภค
สำหรับเติมเชื้อเพลิงยังมีต้นทุนที่แพงอีกด้วย

หากจะเจาะลึกเหตุผลที่เข้มข้นสุด ๆ คงหนีไม่พ้นต้นทุนแบตเตอรี่ที่นับวันจะมีราคาดิ่งลง
สวนทางกับต้นทุนของรถ Fuel Cell ที่ยังสูงอยู่มาก

และถ้าผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Daimler AG ถอนตัวจากวงโคจรรถยนต์ Fuel Cell นั่นก็หมาย
ความว่าวิวัฒนาการของรถ Fuel Cell ย่อมช้าลง คงปล่อยให้บริษัทรถที่ยังหวังกับ Fuel Cell
ช่วยกันพัฒนาต่อไป

ที่มา : Smart2Zero