Chris Bangle เคยก้าวเข้ามาร่ายมนต์ดีไซน์ที่น่าแปลกตา และ น่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ BMW มานานถึง 17 ปี พร้อมทั้งวางรากฐานงานออกแบบให้ดีไซน์เนอร์รุ่นหลังได้ยึดขนบในการออกแบบถึงขั้นพยายามออกรถสปอร์ตต้นแบบที่ทำจากวัสดุผ้า BMW Gina กันในปี 2008 ก่อนที่ Bangle จะลาจาก BMW ไปในปี 2009 เพื่อเปิดบริษัทรับงานออกแบบเบ็ดเตล็ดของตัวเองที่ประเทศอิตาลีภายในปี 2012

และเมื่อ Chris Bangle ได้เยือนกลับเข้ามายังบูธ BMW อีกครั้งที่งาน Frankfurt Motorshow 2017 ก็เขาพบว่า BMW มีเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจพอสมควร แต่ในฐานะที่เขาเป็นนักออกแบบที่ต้องการความสดใหม่, มีเอกลักษณ์และมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เขากลับมองว่าดีไซน์ BMW ที่เห็นอยู่ในตอนนี้ยังมีจุดที่ต้องให้วิจารณ์กันอยู่พอสมควร

อันที่จริงแล้ว Bangle ก็ชมเชย BMW ว่ามีรถยนต์รุ่นใหม่ที่ดี และ มีดีไซน์เนอร์คนรุ่นใหม่ที่ทำงานดี แต่ทว่าสิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้ มันคือสิ่งที่เขาเคยเห็นมาก่อนหน้านั้นแล้ว ยังมองไม่เห็นถึงไอเดียใหม่ๆ เลย แม้แต่น้อย

นอกจากนี้ Bangle ยังได้วิจารณ์ถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ว่า นักออกแบบรุ่นเยาว์รู้จักประวัติศาสตร์เกี่ยวกับแบรนด์ที่ตนเองทำงานกันอยู่น้อยมากเนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นก็ต้องเรียนรู้กับนักออกแบบรุ่นปัจจุบันที่ยังมีความกลัวกันอยู่ กลายเป็นว่าผลงานที่เห็นกันอยู่มันคือสิ่งที่เคยทำมาก่อนหน้านั้นแต่บิดออกไปให้มันต่างเท่านั้น

BMW Gina Concept ผลงานชิ้นสุดท้ายของ Chris Bangle ในสมัยที่ทำงานกับ BMW

 

Bangle เปรียบเปรยวิธีคิดของคนในวงการรถยนต์ปัจจุบันอย่างแสบสันต์ว่า พวกเขาพยายามปกป้องแบรนด์ของตนเองราวกับปกป้องความบริสุทธ์ของ Guinevere ด้วยการนำเข็มขัดพรหมจรรย์ไปสวมไว้ (กวีนิเวียร์ เธอคือราชินีในตำนานของกษัตริย์อาร์เทอร์ มีชื่อเสียงในวรรณกรรมจากเรื่องรักลักลอบกับหัวหน้าอัศวินของอาร์เทอร์ คือ เซอร์ลานเซลอต การที่คนทั้งสองคบคิดกันหักหลังอาร์เทอร์ นำไปสู่ความล่มสลายของอาณาจักร) นั่นไม่ใช่วิธีการสร้างอนาคตที่ดีเท่าไร

Bangle มองว่าแบรนด์รถยนต์ไม่ควรวางไว้อยู่บนหิ้งจนแตะต้องมันไม่ได้

นักออกแบบรถยนต์ทุกวันนี้จะผูกติดกับธุรกิจหรือแบรนด์มากจนเกินไป ในสมัยที่ Bangle ก็เคยมีความคิดแบบนั้น และจนกระทั่งเขาได้สามารถสร้างแบรนด์จากดีไซน์ที่ออกมาจากใจ การออกแบบที่ผูกติดกับแบรนด์ตลอดเวลามันจะทำให้มีแต่ความคิดวนเวียนซ้ำไปมาไม่มีที่สิ้นสุด

ที่มา : Automotive News